
สิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยรัฐจะดำเนินการที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า “กฎหมาย” ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้น การตรากฎหมายจึงควรกระทำอย่างมีคุณภาพและเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ เป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่สอดคล้องกับการป้องกันแก้ไขปัญหาหรือส่งเสริมและพัฒนาสังคม และเมื่อบังคับใช้แล้ว เป็นกฎหมายที่ทำงานได้ตามเป้าหมายโดยไม่สร้างภาระให้แก่ผู้ที่ต้องปฏิบัติตามมากจนเกินสมควร สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ สร้างผลสัมฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเก็บสะสมกฎหมายไว้โดยไม่มีการทบทวนแก้ไขให้เหมาะสมกับปัจจุบัน กฎหมายที่เคยว่าดี ก็อาจเกิดผลเป็นโทษ เป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้เพื่อลิดรอนสิทธิและกีดกันเสรีภาพของประชาชนได้โดยใช่เหตุ ด้วยเหตุนี้ “คณะกรรมการพัฒนากฎหมาย” สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงได้ดำเนินการรวบรวมกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นเพื่อเสนอยกเลิกอยู่เป็นประจำตั้งแต่ปี 2546 ในการพิจารณายกเลิกกฎหมาย คณะกรรมการพัฒนากฎหมายจะศึกษาและตัดสินใจจากข้อเท็จจริง 2 ประเด็น คือ

1.ความจำเป็นในการมีกฎหมาย โดยจะพิจารณาว่าวัตถุประสงค์ของกฎหมายยังมีความสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ ตัวอย่างเช่น พระราชบัญญัติการผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี พ.ศ. 2548 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาด้วยการกำหนดมาตรการควบคุมการผลิตผลิตภัณฑ์ซีดีอย่างเข้มงวด แต่เมื่อเทคโนโลยีได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงไป ผลิตภัณฑ์ซีดีได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่ตกยุคและแทบจะไม่มีผู้ใช้งานอีกแล้ว ประกอบกับการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในปัจจุบันก็มีกฎหมายที่กำกับดูแลโดยตรง คือ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งครอบคลุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาโดยอาศัยเทคโนโลยี ซึ่งเป็นมาตรการที่เหมาะสมกับสภาพการณ์มากกว่า พระราชบัญญัตินี้จึงหมดความจำเป็นลง

2.ความซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น จะเกิดขึ้นได้ใน 2 ลักษณะ คือ ความซ้ำซ้อนในวัตถุประสงค์ของการมีกฎหมาย หรือความซ้ำซ้อนในมาตรการที่กำหนดในกฎหมาย เมื่อสังคมพัฒนาเติบโตปัญหาในลักษณะใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นตามไปด้วย ในหลายครั้งที่รัฐเลือกที่จะตรากฎหมายใหม่ขึ้นมาเพื่อรับมือกับสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนั้น โดยไม่ได้ย้อนกลับไปแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายที่ใช้อยู่ก่อนหน้า ทำให้การกำกับดูแลการกระทำเรื่องหนึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลายฉบับพร้อม ๆ กัน สร้างภาระให้แก่ประชาชนโดยไม่จำเป็น ดังเช่นตัวอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นกรณีการผลิตผลิตภัณฑ์ซีดีซึ่งมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ซ้ำซ้อนกับพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์และบทบัญญัติที่ให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาได้ครอบคลุมยิ่งกว่า จึงเป็นข้อสังเกตว่าในการพิจารณาว่ากฎหมายฉบับใดยังมีความจำเป็นหรือหมดความจำเป็น จะต้องกระทำควบคู่ไปกับการศึกษาความซ้ำซ้อนของกฎหมายอยู่เสมอ และการเสนอยกเลิกกฎหมายครั้งนี้เป็นการดำเนินการเป็นครั้งที่ 4 โดยคณะกรรมการพัฒนากฎหมายได้เสนอยกเลิกกฎหมายทั้งหมด 7 ฉบับ อาทิ พระราชกำหนดควบคุมและดำเนินงานภารธุระการทำเหมืองแร่ทองคำ พุทธศักราช 2483 พระราชบัญญัติกำหนดวิธีการระงับการค้ากำไรเกินสมควรจากราชการ พ.ศ. 2491 และพระราชบัญญัติการผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี พ.ศ. 2548

การดำเนินการเพื่อยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดโอกาสให้ภาครัฐได้ทบทวนกฎหมายในความรับผิดชอบ การใช้บังคับกฎหมายจึงจะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมได้อย่างแท้จริงโดยกฎหมายไม่กลายเป็นตัวปัญหาเสียเอง ซึ่งกระบวนการยกเลิกกฎหมายนี้จะบรรลุผลได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการร่วมกันสะท้อนความคิดเห็นและผลกระทบที่ได้รับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะร่วมพัฒนากฎหมายเพื่อสังคมที่ดีและน่าอยู่ไปด้วยกัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ....
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ....
ดร.ณัฏฐ์ ชำแหละปม ‘ทักษิณ’ ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน
ดร.ณัฏฐ์-นักกฎหมายมหาชน ผ่าปม “ทักษิณ” ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน โอนให้นอมินี ไม่พ้นจากความรับผิด โอกาสยึดทรัพย์ในต่างประเทศยาก
กฤษฎีกากับความมุ่งมั่นในการพัฒนากฎหมายที่ดีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามุ่งมั่นทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ "Better Regulation for Better Life" หรือ พัฒนากฎหมายที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน โดยสนับสนุนการบริหารงานของภาครัฐ ยึดถือความถูกต้องตามหลักวิชาการ และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักเสมอมา
จาก 'คนขายหมู' ถึงมติวุฒิสภา บทเรียนประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
มติของวุฒิสภา 130 ต่อ 26 เสียง ให้ส่งเรื่องของ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ไปยัง ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
ชี้แจงการนำเสนอข่าวกรณีร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ....
ตามที่มีการเสนอข่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. .... นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอเรียนชี้แจงว่า สำนักงานฯ และคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นด้วยในหลักการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนทุกชนิด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์

