กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ค้นพบแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ บนพื้นที่เกาะลันตา มากกว่า 16 แห่ง เตรียมสร้างระบบส่งน้ำให้ทั่วถึงทุกพื้นที่บนเกาะลันตา หนุนเป็นต้นแบบพื้นที่เกาะใกล้เคียงและทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ลงพื้นที่โครงการศึกษาสำรวจเพื่อประเมินศักยภาพน้ำบาดาล บนพื้นที่เกาะในภาคใต้ของประเทศไทย กรณี พื้นที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยนายศักดิ์ดา กล่าวระหว่างลงพื้นที่ว่า ขณะนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ค้นพบแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ บนพื้นที่เกาะลันตา มากกว่า 16 แห่ง ปริมาณน้ำมากกว่า 25 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงต่อบ่อและมีคุณภาพดี  ถ้ารวมกันจะมีปริมาณน้ำถึง 400-500 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เกาะลันตา สามารถนำศักยภาพของน้ำบาดาล ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานในภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล ออกแบบระบบสูบน้ำบาดาลและระบบกระจายน้ำ ส่งน้ำให้ทั่วถึงทุกพื้นที่บนเกาะลันตา

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า เกาะลันตา เป็นเกาะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 190 ตารางกิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะลันตาน้อย และเกาะลันตาใหญ่ มีผู้คนอาศัยอยู่มายาวนานกว่าร้อยปี โดยมีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 18,400 คน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวปีละประมาณ  1 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมากกว่า 600 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวการท่องเที่ยว บนเกาะมากขึ้น  ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวของเกาะลันตา ได้ส่งผลให้มีความต้องการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่จำเป็นเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงทรัพยากรน้ำ เกิดการแย่งน้ำในชุมชน ต้องมีการควบคุมการเปิดปิดน้ำเป็นเวลา โดยเกาะลันตาสามารถ ผลิตน้ำได้ 1,368 ลบ.ม./วัน แต่ความต้องการน้ำ 2,466  ลบ.ม./วัน

นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พื้นที่เกาะลันตาใช้น้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน คลองธรรมชาติ และเจาะน้ำบาดาล มากกว่า 200 บ่อ ความลึกเฉลี่ย ไม่เกิน 100 เมตร ปริมาณน้ำ 2-5 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งลักษณะทางอุทกธรณีวิทยา รองรับด้วยชั้นหินให้น้ำประเภทหินแข็ง ชนิดหินดินดานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นชั้นหินที่หาน้ำบาดาลยาก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างละเอียด  ถึงศักยภาพน้ำบาดาลว่ามีศักยภาพสูงสุดถึงเพียงใด และยังไม่ได้ศึกษาถึงผลกระทบของการขุดเจาะและการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากจนระดับน้ำบาดาลลดต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ทำให้เกิดการแทรกดันของน้ำเค็มเข้ามาในชั้นน้ำบาดาลจืดจนเกิดการปนเปื้อน

“ด้วยเหตุนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักเพียงหน่วยงานเดียวที่มีภารกิจหลัก ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลของประเทศ จึงได้จัดทำโครงการศึกษาสำรวจเพื่อประเมินศักยภาพน้ำบาดาลบนพื้นที่เกาะ ในภาคใต้ของประเทศไทย กรณี  พื้นที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และดำเนินโครงการมาด้วยเทคโนโลยีด้านการสำรวจและเจาะน้ำบาดาล จนค้นพบแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ มากกว่า 10 แห่ง ปริมาณน้ำมากกว่า 25 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงต่อบ่อและมีคุณภาพดี  ซึ่งจะใช้เป็นต้นแบบให้กับพื้นที่เกาะที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาที่ใกล้เคียงกันต่อไป” นายศักดิ์ดา กล่าวและว่า เกาะลันตาเป็นเกาะที่ 4 ที่กรมฯ ดำเนินการต่อจากเกาะช้าง เกาะภูเก็ต เกาะสีชัง เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพื้นที่ทั้งช่วยประชาขนให้มีน้ำกินน้ำใช้ ด้านท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทส. ส่งมอบความสุขวันสงกรานต์ 13-15 เม.ย. ยกเว้นค่าบริการท่องเที่ยวป่านันทนาการ 3 แห่ง

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายขับเคลื่อนด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบป่านันทนาการ

'โฆษก ทส.' ซัดกลับก้าวไกล ซักฟอกด้อยค่า 'พัชรวาท' ยันลุยแก้ฝุ่นเต็มที่

'โฆษก ทส.' ป้อง 'พัชรวาท' ลุยแก้ฝุ่นพิษเต็มที่ ซัดกลับ 'ก้าวไกล' อภิปรายใส่ร้าย จ้องโจมตีด้อยค่า ไม่ทำการเมืองสร้างสรรค์

บุกรุกป่าสงวน ตัดไม้เผาป่าเสม็ด ลอบปลูกปาล์มน้ำมัน หวังขายต่อนายทุนท่องเที่ยว

ผอ.สำนักบริหารจัดการป่าไม้ 12 กระบี่ คาดโทษ หาก จนท.รู้เห็นให้มีการบุกรุกป่าเสม็ด ย้ายออกจากพื้นที่ หลังไฟไหม้ป่า มีการบุกรุกป่าเสม็ด เกาะลันตาเป็นจำนวนมาก

'พัชรวาท' เข้าสภาแล้ว! ตอบกระทู้ถาม สว.

'พัชรวาท' มาตอบกระทู้ สว. ปมเปิดเอกชนปลูกป่าชายเลน แจงส่งเสริมระบบนิเวศน์ ได้คาร์บอนเครดิต เอื้อประโยชน์ชุมชน ยันเดินหน้าต่อตามนโยบายรัฐบาล

‘13 มีนาคม วันช้างไทย’ ทส. - อ.อ.ป. มุ่งสื่อสารให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญ ‘การอนุรักษ์ช้างไทย’ ... พร้อมดึงพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ‘สร้างคุณค่า - เชิดชูเกียรติช้างไทย’

วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2567) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จัดแถลงข่าวในประเด็น “13 มีนาคม วันช้างไทย”