MEA เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบระบบไฟฟ้า เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากไฟฟ้าในสถานการณ์อุทกภัย พร้อมช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง

ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ ในช่วงวันที่ 17 - 21 ก.ย. 65 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมกระโชกแรง และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนได้สั่งการให้ดูแลด้านระบบไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย ช่วงอุทกภัย โดย MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวง รับทราบข้อสั่งการ ฯ พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการ ติดตามสถานการณ์ให้ความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้าต่อเนื่อง ดูแลช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง

นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA เปิดเผยว่า MEA มีความห่วงใย ทั้งนี้ MEA ได้ติดตามสถานการณ์ระดับน้ำต่อเนื่องเฝ้าระวังตรวจสอบเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย รวมถึงพร้อมให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งมีการสื่อสารแจ้งเตือนความปลอดภัยด้านไฟฟ้าในช่วงฤดูฝนและสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ดังนี้

ก่อนน้ำท่วม

- ปลดเมนเบรกเกอร์ ป้องกันไฟรั่ว

- ย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงไม่ให้น้ำท่วมถึง

ขณะน้ำท่วม

- บ้าน 2 ชั้น ควรมีเบรกเกอร์แยกแต่ละชั้น ปลดเบรกเกอร์ชั้นล่าง

- อย่าสัมผัสสวิตช์ไฟ และงดใช้ไฟฟ้าขณะตัวเปียกหรือสัมผัสน้ำ

- ควรยืนที่แห้งและสวมรองเท้ายาง

- บ้านชั้นเดียวงดใช้ไฟฟ้า และย้ายออกจากบ้าน

- ห้ามใช้งานปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสวิตช์ไฟฟ้าที่น้ำท่วมถึงโดยเด็ดขาด จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ

หลังน้ำท่วม

- เตรียมอุปกรณ์ ก่อนเข้าไปที่พักอาศัย ไฟฉาย ถุงมือยาง รองเท้าบูทยาง

- ห้ามสัมผัสวัสดุที่เป็นโลหะ

- ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยช่างผู้ชำนาญก่อนใช้งาน

- อุปกรณ์ที่เปียกน้ำควรเปลี่ยนใหม่ จะปลอดภัยที่สุด

จากสถานการณ์ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากทำให้น้ำฝนสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในระยะนี้ ตลอดจนพื้นที่อื่น ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลักษณะแอ่งกระทะน้ำท่วมบ่อยครั้ง รวมถึงชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ราบลุ่ม แนะนำประชาชนหากพบว่ามีแนวโน้มที่ระดับน้ำบริเวณบ้านจะเริ่มท่วมสูงขึ้นจนใกล้ถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าขอให้รีบดำเนินการย้ายปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึงเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด อีกทั้ง สำรวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง ให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้า เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าดับ รวมไปถึงอาจจะทำให้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ำจากฝนฟ้าคะนองได้ ในส่วนของห้างร้านที่ติดตั้งป้ายโฆษณา จะต้องตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง ปลอดภัย พร้อมทั้งควรติดตามข่าวสาร สถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากประชาชนในพื้นที่ให้บริการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้ารวมถึงขอเลื่อนเครื่องวัด ฯ สามารถแจ้งการไฟฟ้านครหลวงเขตใกล้บ้าน ทุกเขต หรือแจ้งเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว ได้ที่ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news รวมถึง MEA Call Center โทร 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุตุฯ พยากรณ์ 10 วันล่วงหน้า ยังร้อนจัด อีสานฝนตกเพิ่มขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชั่วโมง : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 22 เม.ย. - 1 พ.ค. 67

ผวาฮีตสโตรก! 'สาธารณสุขเชียงใหม่' เตือน ปชช. 25 อำเภอ

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า อากาศในช่วงนี้อุณหภูมิสูงร้อนอบอ้าวจากอิทธิพลความกดอากาศต่อเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

อุตุฯ เตือนร้อนถึงร้อนจัด ทะลุ 43 องศา ฝนฟ้าคะนอง 26 จังหวัด

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

พยากรณ์อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า ทั่วทุกภาคร้อนถึงร้อนจัด 'ใต้' เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

เร่งเดินหน้ารับมือภัยแล้ง หลังพบ 4 แห่ง ต้องเฝ้าระวังน้ำน้อย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยขณะนี้ มีปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ 46,027 ล้านลูกบาศก์