
พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นประธานในพิธียกเสาเอกบ้านมั่นคงบนที่ดินทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ใต้ร่มพระบารมี
เขตวังทองหลาง / วันนี้ (11 พฤศจิกายน) ที่ชุมชนรุ่งมณีพัฒนา ซอยรามคำแหง 39 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นประธานในพิธียกเสาเอกโครงการบ้านมั่นคงชุมชนรุ่งมณีพัฒนา ซึ่งเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ระยะที่ 3 จำนวน 100 ครัวเรือน โดยมี พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต กรรมการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ และชาวชุมชนเข้าร่วมพิธีประมาณ 100 คน
นางนุชจรี พันธ์โสม ผู้นำชุมชนรุ่งมณีพัฒนา กล่าวว่า ชุมชนรุ่งมณีฯ อาศัยอยู่ในที่ดินสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เนื้อที่ประมาณ 70 ไร่มานานหลายสิบปี และเริ่มก่อสร้างบ้านมั่นคงระยะที่ 1-2 รวม 117 หลังมาตั้งแต่ปี 2550 ส่วนการก่อสร้างบ้านระยะที่ 3 จำนวน 100 ครัวเรือน (หลัง) จะใช้ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดประมาณ 8 เดือนหรือจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2565
ส่วนรูปแบบที่จะก่อสร้างเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ขนาด 4 X 8 ตารางเมตร ก่อสร้างด้วยคอนกรีต ค่าก่อสร้างและวัสดุต่อหลังประมาณ 500,000 บาท โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. สนับสนุนเงินอุดหนุนสร้างบ้านหลังละ 20,000 บาท งบก่อสร้างสาธารณูปโภคส่วนกลางหลังละ 25,000 บาท และสินเชื่อหลังละ 360,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 20 ปี อัตราดอกเบี้ย 4 % ขณะที่ชาวบ้านออมเงินสมทบสร้างบ้านเป็นรายเดือนตามฐานะครอบครัว เฉลี่ยประมาณเดือนละ 1,000-2,500 บาท
“นอกจากการสร้างบ้านแล้ว ชุมชนรุ่งมณียังมีแผนงานการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยใช้ที่ดินสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ เพื่อนำมาแจกจ่ายกันทำอาหาร ช่วยลดรายจ่าย รวมทั้งเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ เริ่มปลูกผักเลี้ยงปลาตั้งแต่สถานการณ์โควิดช่วงแรกในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้เรายังมีแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชน รวมทั้งการช่วยเหลือดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดด้วย” ผู้นำชุมชนรุ่งมณีฯ กล่าว

นางนุชจรีบอกด้วยว่า นอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยในชุมชนรุ่งมณีฯ แล้ว ก่อนหน้านี้มี 4 ชุมชนในเขตวังทองหลางที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ร่วมกับ พอช. พัฒนาที่อยู่อาศัยไปแล้ว และภายในปี 2567 จะดำเนินการในอีก 3 ชุมชน คือ ชุมชนน้อมเกล้า ชุมชนทรัพย์สินเก่า และชุมชนเทพลีลา รวมผู้อยู่อาศัยกว่า 700 ครัวเรือน เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนอย่างเป็นระบบ ทำให้คนจนได้รับโอกาสในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิต ยกระดับชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งภายใต้ร่มพระบารมี
นอกจากการสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่เขตวังทองหลางดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมาสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกประมาณ 40 ชุมชน เช่น สนับสนุนการก่อสร้างบ้านใหม่ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สนับสนุนการเช่าที่ดินระยะยาวในอัตราผ่อนปรน ฯลฯ โดยดำเนินการร่วมกับ พอช. ตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคงตั้งแต่ปี 2547 และมีชุมชนที่พัฒนาไปแล้วกว่า 30 ชุมชน ขณะที่ พอช.สนับสนุนสินเชื่อ และงบช่วยเหลือเพื่อปรับปรุงสาธารณูปโภค ฯลฯ รวมเป็นเงินกว่า 500 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง
คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่
เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี
ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ
ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง
หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"
คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน


