สปส. ห่วงผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ย้ำสิทธิตรวจสุขภาพฟรีก่อนสิ้นปี

ผู้ประกันตนหลายคนในวัยทำงานที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบจนละเลยการดูแลสุขภาพและส่วนใหญ่คิดว่าตนเองมีสุขภาพแข็งแรงดี จึงมักมองข้ามการตรวจสุขภาพประจำปีไป แต่ในความเป็นจริงแล้วทุก ๆ คนควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องพื้นฐานด้านสุขภาพที่จะส่งผลดีต่อตัวผู้ประกันตน เพราะอย่างน้อยจะช่วยคัดกรองและประเมินสุขภาพของผู้ประกันตนได้ในเบื้องต้น ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันการเกิดโรคหรือหากพบโรคตั้งแต่เริ่มแรกจะช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม
ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของผู้ประกันตนและการเข้าถึงสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลที่ดีและครอบคลุมถึงการตรวจสุขภาพประจำปีอีกด้วย ดังนั้นผู้ประกันตนจึงควรตระหนักและให้ความสนใจกับการตรวจสุขภาพที่สามารถใช้สิทธิได้ทุก ๆ ปี และสำหรับปี 2565 นี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ตามสิทธิของผู้ประกันตน ถือเป็นการเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ผู้ประกันตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเข้ารับการตรวจร่างกายได้หลายรายการดังนี้

. ตรวจร่างกายทั่วไป การคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test อายุ 15 ขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี การตรวจเต้านมโดยแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข โดยอายุ 30-39 ปี ตรวจทุก 3 ปี อายุ 40-54 ปี ตรวจทุกปี อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสมหรือมีความเสี่ยง การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์ อายุ 40-54 ปี ตรวจ 1 ครั้ง อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 1-2 ปี การตรวจสายตาด้วย Snellen Eye Chart อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี 2. ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC อายุ 18-54 ปี ตรวจ 1 ครั้ง อายุ 55-70 ปี ตรวจ 1 ครั้ง/ปี ปัสสาวะ UA อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี 3. ตรวจสารเคมีในเลือด น้ำตาลในเลือด FBS อายุ 35-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี การทำงานของไต Cr อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total Cholesterol & HDL อายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี 4. การตรวจอื่น ๆ เช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg สำหรับผู้ที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 ตรวจ 1 ครั้ง มะเร็งปากมดลูก Pap Smear อายุ 30-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสมหรือมีความเสี่ยง มะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Via อายุ 30-54 ปี ตรวจทุก 5 ปี แต่ถ้าอายุ 55 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจ Pap smear ตรวจเลือดในอุจจาระ FOBT อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี และ Chest X-ray อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนควรให้ข้อมูลด้านสุขภาพอย่างชัดเจน เพื่อเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ผลสุขภาพต่อไป โดยการเตรียมตัวตรวจสุขภาพประจำปีนั้น ผู้ประกันตนควรงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง นอนหลับพักผ่อนไม่น้อยกว่า 6-8 ชั่วโมง สวมใส่เสื้อที่สะดวกต่อการตรวจร่างกาย งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการรับประทานของหวานหรือดื่มน้ำหวาน สำหรับผู้ประกันตนหญิงไม่ควรอยู่ในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือน 7 วัน ทั้งนี้หากมีโรคประจำตัว ควรนำเอกสารหรือยาที่รับประทานอยู่มาให้แพทย์ดูด้วย เพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์ผลตรวจ

ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการตรวจสุขภาพได้ที่ www.sso.go.th หรือสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทาง Line ID: @ssothai
------------------------------------------
Website: www.sso.go.th
Facebook: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
Instagram: sso_1506
Twitter: @sso_1506
YouTube: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
Hotline: 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
LINE: @SSOTHAI
TikTok: @SSONEWS1506

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สปส.” ห่วงแรงงานพลาดสิทธิคุ้มครอง “กองทุนเงินทดแทน”ภัยที่ทำงาน เตือนนายจ้างป้องสิทธิรักษาพยาบาลลูกจ้างหลังเกิดภัยภายใน 15วัน

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ในทุกสถานประกอบการอาจซ่อนความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิดไว้เสมอและเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยชีวิตและการใช้สิทธิอย่างถูกต้องและทันเวลา

“ สปส.” แนะช่องทางนายจ้างชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสร้างหลักประกันให้แรงงานไทย

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ได้ให้ความสำคัญอย่างมากในการยกระดับคุณภาพกลไกลการทำงานของ “กองทุนเงินทดแทน” ให้มีมาตรฐานมายิ่งขึ้น

“สปส.” เดินหน้ายกระดับกลไกคุ้มครองแรงงาน“กองทุนเงินทดแทน”

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า เพื่อให้แรงงานทุกคนมีหลักประกันเมื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน กองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมจึงให้ความคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกจ้างอย่างทั่วถึงตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561

“สปส.” เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย กระทุ้งนายจ้างต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน30วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน

กระทุ้งนายจ้าง ต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างเริ่มทำงานวันแรกในสถานประกอบการ ขู่ฟอดนายจ้างไม่ปฏิบัติจะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท

“สปส.” เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์ “กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ

สำนักงานประกันสังคมเร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์“กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ และได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง