
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวแสดงให้เห็นถึงตัวเลขอัตราหนี้เสียของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยระบุว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 3.7% ในปี 2563 เป็น 6.63% ในปี 2564 ซึ่งถ้าย้อนไปดูคำชี้แจงของผู้บริหารเมื่อสิ้นปีบัญชี 2564 ก็ระบุว่าในปีบัญชี 2565 ได้ตั้งเป้าหมายที่จะบริหารจัดการให้หนี้เสียปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 4.5% ของสินเชื่อรวม
แต่ล่าสุด เพียงแค่ครึ่งปีแรกของปี 2565 หนี้เสียต่อสินเชื่อรวมพุ่งไปอยู่ที่ระดับ 12.5% และผู้บริหารธนาคารยังคาดว่าสิ้นปีบัญชี 2565 (31 มีนาคม 2566) สัดส่วนหนี้เสียจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 7% ไม่ใช่ 4.5% อย่างที่ตั้งเป้าไว้แต่เดิมแล้ว
คำชี้แจงของตัวเลขหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริหารธนาคารยังคล้ายเดิม เช่น การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังอยู่ในระดับสูงกระทบรายได้ของเกษตรกร ปัญหาภัยธรรมชาติจากน้ำท่วมในช่วงกลางปี และเกษตรกรยังมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้
จากคำชี้แจงทำนองนี้ ย้ำให้เห็นชัดเจนว่า เกษตรกรไทย ยังต้องรับความเสี่ยงต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะความเสี่ยงจากโรคระบาด ภัยธรรมชาติ ความผันผวนของราคาต้นทุนการผลิต ในขณะที่ภาคเอกชน พ่อค้าคนกลาง และผู้ที่ได้ประโยชน์ร่วมในห่วงโซ่อุปทานตลาดสินค้าเกษตร กลับไม่ต้องร่วมแบกรับความเสี่ยงเหล่านี้เลย รอรับซื้อผลผลิต ได้กำไรส่วนต่างเท่านั้น
เมื่อดูตัวเลขสินเชื่อสะสมของเกษตรกรเฉพาะที่ธ.ก.ส. สูงถึง 1.6 ล้านล้านบาทแล้ว หากมีเพียงรัฐบาล กับธนาคารของรัฐ ที่ดูแลปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกรหลังจากความเสี่ยงกลายเป็นความสูญเสียไปแล้ว เราก็จะต้องมาเห็นนโยบายหาเสียง “พักหนี้เกษตรกร” ทุกรอบที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งมันไม่ใช่การแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรที่ต้นเหตุ แต่เป็นการใช้ประโยชน์จากความทุกข์ของเกษตรกรอันเป็นปลายเหตุเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง ....เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน ตราบใดที่โครงสร้างการกระจายความเสี่ยงในภาคการเกษตรยังไม่เป็นธรรม
ทางที่จะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน คือ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างเอกชนกับเกษตรกร เรียกว่า บริษัทผู้ผลิตร่วม ลงทุนร่วมกัน ฝ่ายหนึ่งลงเงินทุน อีกฝ่ายหนึ่งลงแรง รับความเสี่ยงร่วมกัน กำไรแบ่งกัน ขาดทุนก็รับผิดชอบร่วมกัน จะทำเกษตรอัจฉริยะ จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จะลดต้นทุน จึงจะขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรม และแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรไทยได้อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สุรเดช’ ทิ้ง พปชร. หลัง ‘บิ๊กป้อม’ วางมือ
“สุรเดช” ทิ้ง พปชร. หลัง “บิ๊กป้อม” วางมือ บอก ไม่ขอเป็นรองหัวหน้าพรรคให้คนอื่น ระบุ อนาคตยังไม่แน่นอน หากไม่มีพรรคอุดมการณ์ตรงกัน ขอเว้นวรรคไปก่อน
'ตรีนุช' ไม่ถอดใจ แม้ พปชร. เจอคลื่นพายุ ลั่นเป้าหมายอยากทำงานเพื่อประเทศชาติ
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง แคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่ายังทำงานยึดมั่นให้ประชาชนในนามพรรค พปชร.ต่อไป
ฮือฮา! 'เรืองไกร' ลงสนาม กทม. ชิงเก้าอี้เขต 4
พปชร. เคาะ 30 ผู้สมัคร กทม. 'ผู้กองมาร์ค' มั่นใจคว้าเก้าอี้ สส. ไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่ง 'ฮือฮา 'เรืองไกร' ลงชิงเก้าอี้เขต 4
'บิ๊กป้อม' ลั่นพอแล้ว! เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่
'บิ๊กป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่นอายุ 80 ปี พอแล้ว ท่ามกลางปัญหาสุขภาพรุมเร้า ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ เตรียมวางมือการเมือง ขณะที่อดีตบิ๊กทหารตบเท้าร่วมรับพร
'วัน อยู่บำรุง' ประกาศไขก๊อกพลังประชารัฐ เว้นวรรคไม่ลงเลือกตั้ง
นายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
'วัน อยู่บำรุง' ส่งสัญญาณส่อทิ้งลุงป้อม ซบ 'โอกาสใหม่'
'วัน อยู่บำรุง' โพสต์ส่งสัญญาณชีวิตถึงจุดเปลี่ยน จับตาย้ายซบ 'โอกาสใหม่' ด้าน 'จตุพร' รับได้คุยกัน เจ้าตัวสนใจนโยบายพรรค

