สิทธิประโยชน์ที่เข้าถึงผู้ประกันตนทุพพลภาพ จ.นครสวรรค์ ช่วยสร้างสุขและกำลังใจสู่ครอบครัว

เหตุการณ์ชีวิตอันไม่คาดคิดจากสภาวะร่างกายที่หมดสติด้วยอาการเจ็บป่วยจากโรคเลือดออกในสมองของหัวหน้าครอบครัวที่เป็นที่พึ่งของทุกคนในบ้าน อย่างเช่นนายสุรัตน์ คำเรือง อายุ 48 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 จ.นครสวรรค์ ต้องกลายมาเป็นผู้ทุพพลภาพ แขนและขาข้างขวาอ่อนแรง สื่อสารและช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 5,133 บาท ตลอดชีวิต ซึ่งครั้งนี้โครงการ สปส.มอบสุข นำโดย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เยี่ยมนายสุรัตน์และครอบครัว เพื่อติดตามคุณภาพชีวิตและให้กำลังใจถึงจังหวัดนครสวรรค์

เลขาธิการ สปส. เปิดเผยว่า การดูแลและช่วยเหลือผู้ประกันตนทุพพลภาพในโครงการ สปส.มอบสุข เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เน้นย้ำให้สำนักงานประกันสังคมเข้าถึงผู้ประกันตนทุพพลภาพในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ประกันตนทุพพลภาพได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“การมาเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ทุพพลภาพครั้งนี้ เพื่อจะโน้มน้าวและจูงใจให้เห็นถึงความสำคัญของการกายภาพและฟื้นฟูร่างกายที่ศูนย์ฟื้นฟูฯ สร้างความเชื่อมั่นว่า ถ้าผู้ทุพพลภาพเข้ารับการฟื้นฟูจะช่วยให้ร่างกายกลับมาดีขึ้นและสามารถประกอบอาชีพได้”

ด้านนางสาวสุมาลี แสงทอง ภรรยาผู้ดูแลนายสุรัตน์ คำเรือง ผู้ประกันตนทุพพลภาพมาตรา 33 บอกว่า ช่วงที่ต้องดูแลสามีที่ทุพพลภาพ มีความยากลำบากมาก แต่พอทางสำนักงานประกันสังคมประสานงานมาให้ความช่วยเหลือ ทำให้ทางครอบครัวมีเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือนเข้ามาจุนเจือดูแลค่าใช้จ่ายช่วยให้สภาพคล่องของครอบครัวดีขึ้น

“ขอบคุณสำนักงานประกันสังคมที่เข้ามาช่วยเหลือหลาย ๆ อย่าง ทั้งมาเยี่ยมเยียนถึงที่บ้านทุกปีและยังนำสิ่งของเครื่องใช้มามอบให้ตลอดทุกครั้งที่มา ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคม ยังได้เดินทางไปมอบสุขและให้กำลังใจผู้ประกันตนทุพพลภาพจังหวัดนครสวรรค์อีก 2 ราย คือ นายณัฐวุฒิ เส็งเอี่ยม อายุ 28 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะขั้นรุนแรง สื่อสารไม่ได้ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องนอนติดเตียง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 3,500 บาท ตลอดชีวิต ส่วนอีกราย นางสาวสมใจ บุตรวรรณ์ อายุ 56 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ ทำให้เลือดออกในสมอง แขนและขาข้างขวาอ่อนแรง เดินได้แต่ต้องใช้ไม้เท้า พูดได้ไม่ชัด ช่วยเหลือตัวเองได้บางส่วน ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 3,576 บาท ตลอดชีวิต

ด้วยความมุ่งมั่นของสำนักงานประกันสังคม ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดจากสำนักงานประกันสังคมและพร้อมจะอยู่เคียงข้างผู้ประกันตนตลอดไป

#สปส.มอบสุข
#Website: www.sso.go.th
#Facebook: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Instagram: sso_1506
#Twitter: @sso_1506
#YouTube: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Hotline: 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
#LINE: @SSOTHAI
#TikTok: @SSONEWS1506

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานประกันสังคมลงพื้นที่ช่วยเหลือลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงานในไซต์ก่อสร้างจังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. เกิดอุบัติเหตุโครงนั่งร้านบริเวณชั้น 3 ภายในไซต์งานก่อสร้างของบริษัท ไทย-ฮอง เทคโนโลยี จำกัด ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

“สปส.” ห่วงแรงงานพลาดสิทธิคุ้มครอง “กองทุนเงินทดแทน”ภัยที่ทำงาน เตือนนายจ้างป้องสิทธิรักษาพยาบาลลูกจ้างหลังเกิดภัยภายใน 15วัน

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ในทุกสถานประกอบการอาจซ่อนความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิดไว้เสมอและเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยชีวิตและการใช้สิทธิอย่างถูกต้องและทันเวลา

“ สปส.” แนะช่องทางนายจ้างชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสร้างหลักประกันให้แรงงานไทย

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ได้ให้ความสำคัญอย่างมากในการยกระดับคุณภาพกลไกลการทำงานของ “กองทุนเงินทดแทน” ให้มีมาตรฐานมายิ่งขึ้น

“สปส.” เดินหน้ายกระดับกลไกคุ้มครองแรงงาน“กองทุนเงินทดแทน”

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า เพื่อให้แรงงานทุกคนมีหลักประกันเมื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน กองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมจึงให้ความคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกจ้างอย่างทั่วถึงตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561

“สปส.” เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย กระทุ้งนายจ้างต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน30วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน

กระทุ้งนายจ้าง ต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างเริ่มทำงานวันแรกในสถานประกอบการ ขู่ฟอดนายจ้างไม่ปฏิบัติจะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท

“สปส.” เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์ “กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ

สำนักงานประกันสังคมเร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์“กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ และได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง