
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สรุปสถานการณ์ข่าวปลอมสัปดาห์ล่าสุด เปิดศักราชปีเถาะ พบข่าวปลอมนโยบายรัฐบาลยังนำลิ่ว สอดคล้องกับกระแสการเมืองที่ร้อนแรง ชี้ข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจ 10 อันดับส่วนใหญ่เป็นเรื่องของสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2565 - 5 มกราคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 4,136,804 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 188 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 174 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 14 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 97 เรื่อง
ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 61 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 21 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ จำนวน 6 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ จำนวน 9 เรื่อง
นางสาวนพวรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจลำดับต้นๆ ในสัปดาห์ล่าสุดนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวปลอมด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2565 - 5 ธันวาคม 2566 ดังนี้
อันดับที่ 1 เรื่อง ผลิตภัณฑ์ไดเฮิร์บ ผลิตภัณฑ์เดียว ที่เห็นผลลัพธ์ แก้น้ำตาลในเลือดสูงอ่อนเพลียจากโรคเบาหวาน มือชา เท้าชา ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ วูบจากอาการน้ำตาลสูง ความดันโลหิตสูง คอเรสเตอรอลสูง แผลหายช้า แห้งไม่สนิท
อันดับที่ 2 เรื่อง การอาบน้ำในช่วงเช้าตอนหน้าหนาว เป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดสมองแตก
อันดับที่ 3 เรื่อง ผลิตภัณฑ์ WELLGO บรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยลดอาการอักเสบ
อันดับที่ 4 เรื่อง วิธีเปลี่ยนผิวเหลือง เป็นผิวขาวอมชมพู
อันดับที่ 5 เรื่อง สารสกัดขมิ้นชันและพริกไทย รักษากรดไหลย้อน
อันดับที่ 6 เรื่อง 3 วิธีรักษาโรคมะเร็งด้วยตนเอง
อันดับที่ 7 เรื่อง ล้างไขมันในลำไส้ ด้วยชามะละกอ
อันดับที่ 8 เรื่อง เพจ Dododo ชวนกู้เงินออนไลน์โครงการสินเชื่อสู้ไปด้วยกัน
อันดับที่ 9 เรื่อง อาบน้ำหลัง 6 โมงเย็น จะทำให้ม้ามอ่อนแอ ปวดเข่า ความจำไม่ดี ผมร่วง และเลือดจางได้
อันดับที่ 10 เรื่อง ผู้ที่เป็นโรคไมเกรน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกมากกว่าคนปกติถึง 46%
อย่างไรก็ตาม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ติดตามความเคลื่อนไหวข้อความที่ผิดปกติในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และขอให้ท่านตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายอยู่บนโซเชียลมีเดีย และออนไลน์ โดยท่านสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ทั้งนี้ดีอีเอส ได้มีการติดตามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ไชยชนก’ ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยใต้ เดินเครื่องยกระดับระบบเตือนภัยไทยสู่ระดับโลก ใช้ดาวเทียม-AI เพิ่มความแม่นยำ เร่งบูรณาการข้อมูล พร้อมจัดงบฯ ฟื้นเครือข่ายวิทยุสื่อสาร ตามรอยในหลวง ร.9
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยภาคใต้ และการดำเนินโครงการความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ ระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา กับ Tomorrow.io เพื่อยกระดับระบบการเตือนภัยของประเทศไทย
กระทรวงDE เร่งสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมผนึกความร่วมมือทุกภาคส่วน ยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ปลอดภัยให้กับประชาชน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงาน รวมถึงจัดทำศูนย์ข้อมูล สรุปสภาวการณ์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคมในการสนันสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้การติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด
ทบ.เผยเล่ห์เขมร อาวุธหนักยังอยู่
ทบ.แจงอย่าเชื่อเพจปลอมอ้างเขมรขนทหารยึดปราสาทคืน แต่ยอมรับตรงข้ามภูมะเขือยังคงมีรถถัง 10 คัน วางทุ่นระเบิดโดยรอบ
ทบ. ยันข่าวปลอม ทหารกัมพูชา ระดมกำลังจ่อยึดภูมะเขือ-ปราสาทตาควาย-ปราสาทคนา
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Thai Army (ทหารไทย) ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน ได้โพสต์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า "จะเอาไงต่อดีครับ ฝั่งเรา ล่าสุดวันนี้ทหารกัมพูชาขึ้นมาพิชิตใกล้ภูมะเขือหวังจะเอาภูมะเขือคืนกว่า 2,000 นาย ประสาทตาควายกว่า 5,000นาย ประสาทคนากว่า 5,000 นายเต็มพื้นที่หมดแล้ว
'กองทัพบก' ซัดเขมรใช้ไอโอสร้างข่าวปลอมใส่ร้ายไทย! ต่อนานาชาติ
ทบ.ชี้แจงข้อเท็จจริง โต้กระบวนการสร้างข่าวปลอมของกัมพูชา ที่มุ่งทำลายชื่อเสียงประเทศไทย


