"พิพัฒน์" รมว.แรงงาน จับมือ สธ. ดัน MOU ประกันสังคม ร่วม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยกระดับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ให้ผู้ประกันตน ในปี 67

วันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายรองศาสตราจารย์นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการดำเนินงาน และการบริหารจัดการในการบูรณาการจัดระบบบริการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ระหว่างสำนักงานประกันสังคมและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับนายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมผู้แทนสถานพยาบาล เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม และกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่ต้องขับเคลื่อนการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคนไทย “เน้นการป้องกันดีกว่าการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยืนยาว” โดยในปี 2566 สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการผลักดันการขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ผู้ประกันตน โครงการค้นหาความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดในพื้นที่เป้าหมายนำร่อง จำนวน 13 จังหวัด มีผู้ประกันตนเข้าร่วมโครงการ 277,654 คน และในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับวัยทำงานจึงได้กำหนดให้การส่งเสริมสุขภาพเป็นรายการบริการพื้นฐาน
.
นายพิพัฒน์ รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้เป็นโอกาสอันดียิ่งที่สำนักงานประกันสังคมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มาร่วมทำบันทึกความร่วมมือการดำเนินงานและบริหารจัดการบูรณาการจัดระบบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นการลดค่าใช้จ่ายในภาพรวมด้านการสาธารณสุขไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยทุกสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานด้วยกันทุกคน ที่สำคัญคือผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากรายการตรวจพื้นฐาน เช่น การทำงานของไต Cr การตรวจปัสสาวะ Ua เอ็กซเรย์ปอด ผ่านระบบบริหารจัดการมาตรฐานการรักษาหนึ่งเดียวที่เป็นเลิศ
.
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมุ่งมั่นพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้ผู้ประกันตนมีสุขภาพที่ดี เน้นหลักการ “ป้องกันดีกว่ารักษา” สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกันตนในการเข้าถึงบริการรักษาที่มีมาตรฐานตลอดมา สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 เป็นต้นไป สำนักงานประกันสังคมพร้อมบูรณาการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจสำคัญในการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคให้กับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนเรื่องส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพและสำนักงานประกันกันคมทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลทำให้วัยทำงานมีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ยืนยาว และลดภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยบูรณาการงานด้านบริการทางการแพทย์อย่างเหมาะสม เท่าเทียม มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว

นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว

“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด