รมว.แรงงาน จ่อ ขอตั้งคณะอนุกก.ไตรภาคี 17 ม.ค.นี้ ศึกษารายละเอียดปรับค่าแรงลงลึกรายอาชีพ - ระดับพื้นที่

เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) ได้นำมติขอขึ้นค่าแรงจากคณะกรรมการไตรภาคี ที่มีมติเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่ยืนยันเหมือนเดิม แจ้งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ซึ่งตนขออนุญาตนายกรัฐมนตรีว่าวันที่ 17 ม.ค.นี้ คณะกรรมการไตรภาคีจะมีการประชุมอีกครั้ง และตั้งอนุกรรมการไตรภาคีขึ้นมาศึกษารายละเอียดถึงรายวิชาชีพ ในระดับอำเภอ และอาจซอยย่อยไปถึงระดับเทศบาลด้วย เพราะการประกาศรายจังหวัดสะท้อนภาพเป็นจริงส่วนหนึ่ง ไม่เป็นจริงอีกหลายๆส่วน ที่พอออกนอกพื้นที่อำเภอ ออกนอกเทศบาลเมือง ก็จะเข้าสู่สังคมชนบท ซึ่งเศรษฐกิจไม่ได้ดีเหมือนตัวเมืองหรือเขตเทศบาล จึงต้องขอตั้งอนุกรรมการศึกษารายละเอียด และจะขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำมาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อนำเข้าคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ในเดือนมี.ค. และจะประกาศการขึ้นค่าแรงอัตราใหม่เป็นของขวัญปีใหม่ไทย คือช่วงวันสงกรานต์ เพื่อดูว่าพื้นที่ไหนจะปรับค่าแรงขั้นต่ำได้สูงกว่า ซึ่งหากเจาะรายละเอียดเชิงลึกตั้งแต่รายอาชีพ เทศบาล อำเภอ มั่นใจว่าค่าแรงขั้นต่ำในชุมชนเมืองต้องดีกว่าวันนี้แต่บางพื้นที่ก็คงเดิม

รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า สำหรับสูตรการคำนวณค่าแรงขั้นต่ำที่ใช้ฐานปี 63 - 64 ซึ่งเป็นช่วงโควิด - 19 จะไม่นำมาพิจารณา แต่จะใช้ข้อมูลปี 65 มาเป็นฐานในการคำนวณ รวมถึงข้อมูลดิบปี 66 มาเป็นองค์ประกอบตัวชี้วัดด้วย หากทำได้ในแต่ละพื้นที่ มั่นใจว่าหลายอาชีพจะปรับค่าแรงขั้นต่ำได้ ซึ่งไม่ได้ประกาศครอบจักรวาลเหมือนทุกวันนี้
เมื่อถามว่า แสดงว่าในจังหวัดเดียวกันไม่จำเป็นต้องได้ค่าแรงอัตราเดียวกันใช่หรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า “ไม่จำเป็น”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.บุณณดา โฆษกกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามงานศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน ภาค 1 จ.ปทุมธานี พร้อมผลักดันยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) พร้อมด้วยนายกานต์ กิตติอำพน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (ด้านต่างประเทศ) ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม

ราชกิจจาฯ ประกาศปรับฐานค่าจ้างคำนวณเงินสมทบประกันสังคม ม.33 เริ่ม 1 ม.ค. 2569

กฎกระทรวงใหม่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ-ขั้นสูง ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยปรับเพดานสูงสุดเป็นลำดับ จาก 17,500 บาท เพิ่มเป็น 23,000 บาทในระยะถัดไป มีผลตั้งแต่ต้นปี 2569

เจรจา ‘ไดกิ้น’ ได้ข้อยุติ เปลี่ยนระบบจ่ายทองเป็นเงินแทน พนักงานเตรียมกลับเข้าทำงาน

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเจรจาร่วมกันระหว่างบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับ สหภาพแรงงานไดกิ้น อมตะ รักษ์เสรี