
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประธานสถาบันอนุสรีรวมใจให้กันและคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “บทบาทแรงงานนอกระบบต่อการสร้างอาชีพเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับการมีรายได้” โครงการนำบริการด้านแรงงานไปสู่ประชาชน : สู่ผลสัมฤทธิ์การพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ของกลุ่มแรงงานในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานแรงงานจังหวัดปทุมธานี โดยมี นายภาสกร บุญญลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานกล่าวเปิดงาน นางรษิกา ชาญณรงค์ แรงงานจังหวัดปทุมธานี กล่าวรายงาน ณ อาคารเอนกประสงค์เทศบาล ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
น.ส.อนุสรี กล่าวว่า วันนี้ดิฉันในฐานะประธานสถาบันอนุสรีรวมใจให้กันและคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มาบรรยายให้แก่พี่น้องกลุ่มแรงงานนอกระบบและแรงงานผู้สูงวัย ในหัวข้อ "บทบาทแรงงานนอกระบบ ในการสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้กับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในจังหวัดปทุมธานี" ที่เทศบาลตำบลบ้านใหม่ โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นประธาน ซึ่งเป็นการบรรยายเรื่องการต่อยอดจากสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์ของปทุมธานี ในระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างรายได้ โดยใช้ช่องทางตลาดออนไลน์ การปรับปรุงหลักสูตรอบรม ที่ตอบสนองต่อตลาดสินค้าดี เพราะสินค้าที่ผลิตด้วยฝีมือของชาวบ้านแล้วถ้าไม่มีช่องทางการจำหน่ายก็คนไม่รู้ ก็จะไม่มีคนซื้อ สินค้าที่มีคนเห็นเยอะก็จะขายได้มาก ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีหลักสูตรการตลาดออนไลน์ ที่สอนเทคนิคต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ตามใจคนทำหลักสูตร ใช้มา 10 ปีก็ยังใช้อยู่

น.ส.อนุสรี กล่าวต่อว่า โดยโครงการนี้ได้รับความร่วมมือกันทุกภาคส่วนทั้งหน่วยราชการ แรงงาน ชุมชน ที่จะช่วยกันผลักดันสินค้าอาหารที่ต่อยอดจากต้นทุนที่มีในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ทั้งข้าวหอมปทุมธานี กล้วยหอมทอง สไบมอญ การมี 3 ตลาดย่านการค้าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทั้งตลาดไท ตลาดเทศบาลเมืองปทุมธานี ตลาดระแหง เป็นต้น รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสายมู อาทิเช่น วัดป่าคลอง 11 หรือ คำชะโนด 2 ที่มีพญานาค วัดปัญญานันทาราม ที่มีเจดีย์พุทธคยา วัดโบสถ์ที่มีหลวงพ่อโต เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทำให้จังหวัดปทุมธานีเป็นมหานครเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในปี 2585 ทั้งนี้ ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าจากฝีมือของกลุ่มแรงงานอิสระ กลุ่มแรงงานผู้สูงอายุ เช่น สไบมอญ ตะกร้าสาน ยาหม่องสมุนไพร
สำหรับโครงการดังกล่าว จัดขึ้นโดยสำนักงานแรงงานจังหวัดปทุมธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อนำบริการของกระทรวงแรงงาน จากหน่วยงานในสังกัดไปสู่พี่น้องประชาชนในระดับภูมิภาค ด้านการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับกลุ่มแรงงานต่าง ๆ เช่น แรงงานนอกระบบ ผู้สูงอายุ เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มที่ได้รับอบรมอาชีพ ได้สามารถปรับผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค นำสู่การขายได้จริง โดยบูรณาการการขับเคลื่อนระหว่างรัฐบาล กระทรวงแรงงาน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรมในการส่งเสริมแหล่งตลาด ขยายการขายสินค้าซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
THACCA ดิ้นงบซอฟต์พาวเวอร์ 5,000 ล้านไม่ใช่วงเงินจริง
หลังจากมีข่าวเรื่องรัฐบาลอนุทิน เตรียมจะยุบสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ THACCA หรือตัดงบซอฟต์พาวเวอร์ ล่าสุดเพจของหน่วยงาน THACCA โพสต์ตอบข้อสงสัย และ ทางพรรคเพื่อไทยมีการแชร์ข้อมูลให้ทราบ
สวธ. ลุยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จัด Thailand International Game Showcase คาดเงินสะพัด 40 ล้าน
กระทรวงวัฒนธรรมให้ความสำคัญกับการใช้ซอฟต์พาวเวอร์เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกมที่ปัจจุบันเป็นมากกว่าแค่สื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นโอกาสให้คนไทยได้แสดงศักยภาพในการผสานวัฒนธรรมเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อเป็นช่องทางในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่
สวธ.-THACCA หนุนเทศกาลหนังสารคดีนานาชาติ 'What the Doc!' ฉายหนังคุณภาพ 90 เรื่อง
Documentary Club จัดงานเปิดตัวเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติ ครั้งใหญ่ในประเทศไทย “What the Doc!”
'พริษฐ์' เปิด 5 ข้อสังเกตงบซอฟต์พาวเวอร์ เพิ่ม 72% โดยไร้เหตุผล
"พริษฐ์" ตั้ง 5 ข้อสังเกตโครงการซอฟต์พาวเวอร์ เพิ่มสูงไม่มีเหตุผล-หลายหน่วยงานมีความซ้ำซ้อนกัน แนะ วางกฎเกณฑ์ให้ดีป้องกันบริษัทเอกชนใช้ความสัมพันธ์มารับงาน
รัฐบาลดี๊ด๊า! ไทยแชมป์วัฒนธรรมเอเชีย ปี 68 ติด Top10 โลก สะท้อนพลังซอฟต์พาวเวอร์
เว็บไซต์ U.S. News & World Report ประจำปี 2024 จัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งทางมรดกวัฒนธรรม อันดับ 1 ของเอเชีย และ อันดับ 8 ของโลก จาก 89 ประเทศ
รัฐบาลโวไทยครองแชมป์ซอฟต์พาวเวอร์รวยวัฒนธรรมที่สุดในเอเชีย
เว็บไซต์ U.S. News & World Report ปี 2024 จัดอันดับ ประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมที่สุดของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 8 ของโลก จากทั้งหมด 89 ประเทศทั่วโลก


