หน้าขาดการบำรุงล้ำลึก ปัญหาผิวหมองคล้ำ มารู้จักการผลัดเซลล์ผิวหน้ากันเถอะ!

รู้หรือไม่ ปัญหาผิวหมองคล้ำ รอยสิว ฝ้า กระ สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการผลัดเซลล์ผิวหน้า โดยปกติแล้วกระบวนการผลัดเซลล์ผิวของเราจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติทุก 28 วัน แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวก็มีระยะเวลาเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 45 วันถึงจะผลัดเซลล์ผิวเสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวเองจึงเป็นการเร่งกระบวนการที่ช่วยให้ผิวเซลล์ใหม่มาแทนที่ ช่วยให้ผิวพร้อมรับการบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหลายคนมักจะรู้จักการดูแลผิวหน้าหรือผลัดเซลล์ผิวอย่างการสครับผิวอยู่แล้ว แต่วิธีการผลัดเซลล์ผิวมีมากกว่านั้น วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการผลัดเซลล์ผิวกัน การผลัดเซลล์ผิวมีกี่แบบ? แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร? แล้วสภาพผิวแบบไหนเหมาะกับการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีใด? เราไปหาคำตอบพร้อมกันเลย

การผลัดเซลล์ผิวหน้า คืออะไร

การผลัดเซลล์ผิวหน้า (Peeling) คือ การเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วของชั้นหนังกำพร้า เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่หากเซลล์ผิวเก่ายังไม่หลุดหรือมีการสะสมของเซลล์ผิวเก่า เซลล์เหล่านั้นจะจับตัวเป็นก้อน จนทำให้เซลล์ผิวใหม่ถูกปิดกั้นจนไม่สามารถขึ้นมาแทนที่ได้ ส่งผลต่อการบำรุงผิวหน้าที่อาจทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพมากพอ ทำให้ผิวหน้าเกิดความหมองคล้ำ การผลัดเซลล์เก่าในปัจจุบัน มีทั้งหมด 2 วิธี ดังนี้

1. การผลัดเซลล์ผิวแบบอุปกรณ์ช่วย (Physical Peeling)

การผลัดเซลล์ผิวแบบอุปกรณ์ช่วย (Physical Peeling) การดูแลผิวหน้าวิธีนี้ ปกติแล้วจะถูกจัดอยู่ในหมวดศัลยกรรมตกแต่งเพื่อความงาม เช่น การทำ Dermabrasion และ Microdermabrasion ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • การทำ Dermabrasion เป็นการผลัดเซลล์ผิวถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) หรือที่เรียกกันว่าการผลัดเซลล์ผิวเชิงลึก สามารถช่วยลดรอยสิว - หลุมสิว ได้อย่างเห็นผล แต่ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง และเกิดรอยแผลได้สูงเช่นกัน ดังนั้นควรเลือกทำหัตถการประเภทนี้กับแพทย์ที่มากประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจด้านผิวหนังโดยเฉพาะ
  • การทำ Microdermabrasion เป็นการผลัดเซลล์ผิวด้วยการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี คล้ายการขัดผิวเพื่อให้เน้นให้ผิวขาว กระจ่างใส ดูเรียบเนียนขึ้น เป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าวิธีแรก

2. การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมี (Chemical Peeling)

การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมี (Chemical Peeling) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเป็นการดูแลผิวหน้าด้วยการนำเอาสารเคมีมาช่วยผลัดเซลล์ ให้เซลล์ผิวเก่าหลุดง่ายขึ้น หากทำอย่างถูกวิธีจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีจะมีการใช้สารเคมีหลักๆ ดังนี้

  • AHA (Alpha Hydroxy Acid) เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อหนังแท้และกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้ขึ้นมาแทนที่
  • BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นกรดที่ได้จากการสังเคราะห์ สามารถทนความร้อน และไม่เสื่อมสภาพเหมือนสาร AHA แต่ก็เสี่ยงต่ออาการแพ้และระคายเคืองได้มากกว่า
  • TCA (Trichloroacetic Acid) เป็นกรดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาใช้เพื่อผลัดเซลล์ผิวหน้า เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการช่วยรักษาริ้วรอย ฝ้า กระ แต่ผลลัพธ์นั้นขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกรดด้วยเช่นกัน

วิธีผลัดเซลล์ผิวหน้า สำหรับสภาพผิวแต่ละชนิด

สภาพผิวที่แตกต่างกัน เหมาะกับการผลัดเซลล์ผิวที่แตกต่างกัน หากอยากดูแลผิวหน้าให้เหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ลดโอกาสการเกิดอาการแพ้และการระคายเคือง จึงควรเลือกวิธีการผลัดเซลล์ผิวที่เหมาะสม

●      ผลัดเซลล์ผิวหน้าสำหรับผิวธรรมดา

สำหรับผิวหน้าธรรมดา ผิวที่ไม่แพ้ง่าย สามารถเลือกดูแลผิวหน้าด้วยวิธีผลัดเซลล์ผิวตามที่ต้องการและความถนัดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการสครับผิวแบบเม็ดบีดส์ แบบใช้สารเคมี หรือแบบอุปกรณ์ แต่ควรระมัดระวังเรื่องของส่วนผสม และการผลัดเซลล์ผิวหลายวิธีติดต่อกัน เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้และการระคายเคือง

●      ผลัดเซลล์ผิวหน้าสำหรับผิวแห้ง

สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ลักษณะผิวหยาบกร้าน และลอกเป็นขุย ควรเลือกดูแลผิวหน้าโดยวิธีผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยกรด AHA ที่มีความเข้มข้นไม่เกิน 10% และควรหลีกเลี่ยงการสครับด้วยเม็ดบีดส์ และการใช้กรด BHA เพราะเป็นกรดที่ละลายในไขมัน อาจส่งผลต่อการผลิตไขมันในชั้นผิว และอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากกว่าเดิม

●      ผลัดเซลล์ผิวหน้าสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย จำเป็นต้องเลือกวิธีผลัดเซลล์ผิวที่มีความอ่อนโยนมากที่สุด จึงควรดูแลผิวหน้าโดยวิธีผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยกรด BHA และควรเหลีกเลี่ยงการผลัดเซลล์ผิวด้วยการสครับแบบเม็ดบีดส์ เนื่องจากสภาพผิวมีความบอบบาง การใช้สครับแบบเม็ดบีดส์อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากกว่าเดิม โดยอาจมีอาการแสบและทำให้เกิดรอยแผลบนผิวได้นั่นเอง

●      ผลัดเซลล์ผิวหน้าสำหรับผิวมัน

สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ผิวมักจะมีรูขุมขนค่อนข้างกว้าง ควรเลือกวิธีดูแลผิวหน้าโดยวิธีผลัดเซลล์ผิวด้วยกรด BHA เพราะมีความอ่อนโยนและยังละลายในไขมันได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยปรับให้รูขุมขนดูเล็กลง ช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้าได้ด้วยเช่นกัน

แม้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวนั้นเป็นวัฏจักรของร่างกายที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่กระบวนการตอบสนองของผิวต่อการผลัดเซลล์ผิวหน้านั้นแตกต่างกัน การดูแลผิวหน้าด้วยการผลัดเซลล์ผิว นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยให้รอยดำต่างๆ จางลงแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดการอุดตันของรูขุมขนด้วย หากดูแลไม่ถูกวิธีก็อาจส่งผลเสียต่อผิวได้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกเสริมความงาม ที่พร้อมให้คำปรึกษาดูแลสภาพผิว ที่ Better Me Clinic by Dr.Chanya เราเป็นคลินิกศัลยกรรมความงาม ปรับรูปหน้า และดูแลผิวพรรณชั้นนำ มีบริการคอร์สดูแลผิว Magic Peeling เป็นคอร์สผลัดเซลล์ผิวโดยกรดผลไม้ 4 สูตรพิเศษ แต่ละสูตรยังได้พัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน มีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้าที่ไม่แข็งแรงและกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ บริการด้วยแพทย์และทีมงานมากประสบการณ์ พร้อมให้คุณมีผิวสวยใสอย่างมีสุขภาพดีไปด้วยกัน

ติดต่อ | ปรึกษาปัญหาผิวเพิ่มเติมได้ที่

Line: @bettermeclinic

โทร. 02-059-8118, 088-603-2641

Facebook | Instagram: Better Me Clinic by Dr.Chanya

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดพิธีประสาทปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2568

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดพิธีประสาทปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2568 โดยมี ดร.มัทนา  สานติวัตร อุปนายกสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นประธานในพิธี

คนดังการเมืองแห่สมัครสส.พรรคภูมิใจไทยต่อเนื่อง "กุลวลี - สุดารัตน์ - รัชดา -หมอเอกภพ" ร่วมสู้ศึกเลือกตั้ง

คนดังการเมืองแห่สมัครสส.พรรคภูมิใจไทยต่อเนื่อง "กุลวลี - สุดารัตน์ - รัชดา -หมอเอกภพ" ร่วมสู้ศึกเลือกตั้ง

จุฬาฯ-มหิดล ผนึกกำลังสร้างนวัตกรรมเวชสำอางจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทย เตรียมทดสอบทางคลินิกที่ศิริราช

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามถ่ายทอดเทคโนโลยี "AnthoRice™ Complex" นวัตกรรมเซรั่มบำรุงรากผมจากสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ไทย

C PAINT พลิกโฉมงานซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไทย เปิดกลยุทธ์ Pop-up Store รายแรก ตั้งเป้า 100 สาขา รองรับงานซ่อม 50,000 คัน รับการเติบโตของตลาด EV

C PAINT คือศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์มาตรฐานครบวงจร ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้รถยุคใหม่ ด้วยคุณภาพระดับศูนย์บริการ เทคโนโลยีพ่นสีสมัยใหม่ ห้องอบสีมาตรฐาน และระบบควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน รองรับรถทุกประเภท ทั้งรถสันดาป รถไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า

TOA เปิดตัวเทรนด์สี 2026 ‘The Pigmentum’ เมื่อสีสันคือพลังขับเคลื่อนชีวิต พร้อมเจาะลึก 4 กลุ่มสี สะท้อนตัวตน จาก 5 สถาปนิกนักออกแบบชั้นนำ

ในทุกๆ ปี วงการสีทาอาคาร ต่างตั้งตารอการประกาศเทรนด์สีใหม่จาก บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำตลาดสีอาคารอันดับหนึ่งของไทย และสำหรับปี 2026 นี้ TOA ได้ก้าวข้ามคำว่า 'เฉดสี' ไปสู่การสร้างพลัง แรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์สุดล้ำที่ชื่อว่า “The Pigmentum” ประกอบด้วย 4 กลุ่มเทรนด์สีที่สะท้อนถึงพลังของอารมณ์ ความคิด และจิตใจ โดยความร่วมมือกับ 5 สถาปนิกนักออกแบบชั้นนำของประเทศไทย