"เพิ่มพูน" เดินหน้า "ปฏิวัติการศึกษาแก้ปัญหาประเทศ" อย่างเร่งด่วน เหตุกระแสโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย หมายเลขสมาชิก 301005491 ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้แจงในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2568 ในส่วนกระทรวงศึกษาธิการ โดยเปิดคลิปวีดีโอให้เห็นถึงการทำงานที่ผ่านมาของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ขณะนี้โลกมีความผันผวน ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว กระทรวงศึกษาธิการพร้อมพลิกโฉมการศึกษาไทยให้มีคุณภาพ มีความเท่าเทียม มีทักษะ และลดค่าใช้จ่ายทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้พร้อมเผชิญกับความท้าทายของการศึกษาไทย 8 ข้อคือ 1.ความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษา 2. ขาดแคลนครูที่มีคุณภาพและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง 3.หลักสูตรเน้นการท่องจํามากกว่าการคิดวิเคราะห์ 4.หลักสูตรการศึกษาไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน 5.ค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่สูง สร้างหนี้สินให้กับผู้ปกครอง 6.โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาองค์ความรู้ที่มีไม่ทันสมัย 7.เด็กเรียนจบไม่ตรงกับสายที่ทำงาน 8.โอกาสที่จบการศึกษาก่อนเวลาน้อย โดยเดินหน้าทํางานร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก มีคุณภาพชีวิตมั่นคงและยั่งยืน

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน กล่าวอีกว่า โดยกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบาย "เรียนดีมีความสุข" แบ่งการศึกษาเป็นสองขาคือการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงในชีวิต มีเป้าหมาย ลดภาระของครู นักเรียนและผู้ปกครอง โดยมีการยกเลิกครูเวร การจ้างนักการภารโรง การลดงานที่ซ้ำซ้อน จ้างครูผู้ช่วยเป็นกรณีพิเศษ จัดอาหารกลางวันให้นักเรียน โครงการสุขาดี มีความสุข ส่วนเรื่องเครื่องแบบนักเรียนได้ผ่อนผัน และของบประมาณอุดหนุนในปี 2568

"ปัญหาการศึกษาของเด็กปฐมวัย เรื่องเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาและกลุ่มเด็กเปราะบางทำอย่างไรให้การศึกษาไร้รอยต่อ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่ให้เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เรื่องกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก เราได้นำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการดําเนินการศึกษาตามความจำเป็นและเร่งด่วน ภายใต้งบประมาณที่มีอย่างจํากัด จึงเป็นเรื่องของความท้าทายที่จะทำให้สำเร็จ อยากให้สมาชิกเห็นชอบร่างงบประมาณในครั้งนี้ รวมทั้งฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องทางการศึกษาทุกท่านที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันในการพัฒนาและปรับเปลี่ยนการศึกษาเพื่อให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ และกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมไม่สามารถทําอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือเพียงแค่ปฏิรูป แต่จําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเร่งด่วน จึงขอเชิญชวนมาช่วยกันปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ"พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วิสุทธิ์' เผย 'ภูมิใจไทย' ไม่ขัดข้อง ญัตติด่วนยื่นศาลตีความแก้ รธน.

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 17 มี.ค.

รัฐบาลย้ำ 'ไม่จบไม่เลิก' ปราบบุหรี่ไฟฟ้า เตือนครู-บุคลากรการศึกษา มีเอี่ยวรับโทษทันที!

รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนและสถานศึกษา พร้อมประกาศมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกับครูและบุคลากรทางการศึกษา หากมีเอี่ยวจะถูกลงโทษทางวินัยทันที ย้ำสถานศึกษาและที่ทำงานต้องเป็นเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

'กรวีร์' แนะปรับปรุงกฎหมายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า

'กรวีร์' เผย ปราบปราม 'บุหรี่ไฟฟ้า' ได้ดีขึ้น หลังมีข้อสั่งการจาก 'นายกฯ' กังวล หากนำขึ้นมาบนดิน จะควบคุมยาก เหตุเด็กอาจเข้าถึงได้ง่าย ชี้ต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย บอก สส. สูบในสภาเป็นเรื่องส่วนบุคคล

‘อิ๊งค์’ ปัดไม่มีล็อบบี้ประธานสภาฯเอาชื่อพ่อออก

“อิ๊งค์” แจง คุยภท.เรื่องปกติ เล็งนัดรองนายกฯพรรคอื่นคุยเพิ่ม ยัน แดง-น้ำเงินไม่ขัดแย้ง แค่เห็นไม่ตรงกัน ปัดไม่มีล็อบบี้ประธานสภาฯ เอาชื่อพ่อออก แต่ชี้ ไม่ควรมีชื่อคนนอก

กยท.เดินหน้าผลิตน้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำเฟส 2 เผยช่วยเพิ่มผลผลิต-ลดต้นทุนได้ เตรียมขอขึ้นทะเบียนเป็นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ

จากกรณีครูทำอนาจารเด็กนักเรียนในห้องเรียนของโรงเรียนในจ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 8 ราย พร้อมทั้งถ่ายภาพและคลิปวิดีโอและนำมาโพสในโซเชียล ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจแล้ว นั้น

ปิดดีล 'ฮั้วเลือก สว.' เกมวิน-วินของ 'สีน้ำเงิน-แดง' กับชะตากรรมอธิบดี DSI

เมื่อคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) หรือ "บอร์ดคดีพิเศษ" มีมติให้คดีฮั้วเลือก สว. ปี 2567 เข้าสู่การสอบสวนในฐานะคดีพิเศษ โดยเฉพาะประเด็นการฟอกเงิน ซึ่งเป็นอำนาจของดีเอสไอ (DSI) โดยไม่ต้องขอมติจากบอร์ดคดีพิเศษอยู่แล้วนั้น