
ศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ เมืองอีสานใต้แห่งนี้เป็นแหล่งอารยธรรมนำเอาศิลปวัฒนธรรมของชาติต่างๆ โดยเฉพาะขอมโบราณ มาหลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตท้องถิ่นอีสานอย่างลงตัว และมีเอกลักษณ์โดดเด่น นอกจากนี้ มีแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษจัดมหกรรมวัฒนธรรมอีสาน “ยลถิ่นดอกลำดวน ชมสวนทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” โดยมีนายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธาน โอกาสนี้นายนพ พงศ์พลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวิทยา วิภารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด และเครือข่ายทางวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศิลปินอีสาน ร่วมงาน ณ หอประชุมอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานนี้

มหกรรมวัฒนธรรมอีสานเน้นขับเคลื่อนงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมให้เข้าถึงชุมชน และชาวศรีสะเกษและพื้นที่ใกล้เคียง ผลักดันให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับศิลปิน เครือข่ายทางวัฒนธรรม รวมถึงการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสืบสาน รักษา และต่อยอดงานศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

นายประสพ เรียงเงิน อธิบดี สวธ. กล่าวว่า สภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เครือข่ายวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเครือข่ายทางวัฒนธรรมในพื้นที่ที่ได้นำเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นมาจัดแสดงเพื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิต ศิลปะและวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น จัดการเรียนรู้ โดยการสาธิตเพื่อถ่ายทอดอย่างเป็นรูปธรรมให้เป็นวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดคุณค่าทางสังคม และส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์ สืบทอดมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นมิให้สูญหาย เป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมของพื้นที่ มาส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ยั่งยืน ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดี กับเครือข่ายทางวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงาน โดยใช้กิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นสื่อ ก่อให้เกิดเกิดความร่วมแรงร่วมใจ เกิดความรัก ทำให้ชุมชน เข้มแข็ง และเกิดสำนึกรักท้องถิ่น

ด้านนายนพ พงศ์พลาดิสัย รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามที่ สวธ. ได้จัดสรรงบประมาณให้กับสภาวัฒนรรมจังหวัดศรีสะเกษดำเนินโครงการมหกรรมวัฒนธรรมอีสาน “ยลถิ่นดอกลำดวน ชมสวนทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” เป็นการส่งเสริมให้เครือข่ายทางวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเครือข่ายทางวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษได้มีกิจกรรมร่วมกัน มีโอกาสในการทำงานร่วมกัน โดยใช้วัฒนธรรมเป็นศูนย์รวมจิตใจ ก่อให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจ เกิดความรัก ความสามัคคี รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เสริมฐานรากวัฒนธรรมให้เกิดความ เข้มแข็ง และพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมต่อไป
ภายในมหกรรม เปิดเวทีเสวนาเรื่อง “Esan Soft Power” ยกระดับมรดกทางวัฒนธรรมจากท้องถิ่นสู่สากล เพื่อระดมความคิดเห็น มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การใช้เทคนิคและวิธีการ ในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ให้กับผู้ประกอบการ ผู้จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่ ศิลปินในพื้นที่ รวมทั้งประชาชนในชุมชน โดยมีความคาดหวังว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

นายวิทยา วิภารัตน์ กล่าวว่า มหกรรมวัฒนธรรมอีสานที่จัดขึ้น ส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น สร้างความร่วมแรงร่วมใจและความสามัคคีในชุมชน ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งและเกิดสำนึกรักท้องถิ่น และเพิ่มบทบาทของหน่วยงานทางวัฒนธรรมในพื้นที่ในการเผยแพร่ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นและวัฒนธรรมของชาติ ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เสริมฐานรากวัฒนธรรมให้เกิดความเข้มแข็ง และพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือย่างดียิ่งจากหน่วยงานราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สภาวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเครือข่ายทางวัฒนธรรมในพื้นที่จ.ศรีสะเกษ
ถือว่ายิ่งใหญ่จริงๆ สำหรับมหกรรมวัฒนธรรมอีสาน ผู้ร่วมงานได้สัมผัสความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงมรดกภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่า อีกทั้งยังได้ความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้ไปสู่ระดับสากล พร้อมกับสร้างเครือข่ายวัฒนธรรมแดนอีสานให้แข็งแกร่งขึ้นผ่านมหกรรมนี้อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทุนสื่อ ประกาศแล้วทุนปี 68 จำนวน 108 โครงการ หลังจากล่าช้ามานานกว่า 4 เดือนเนื่องจากต้องรอกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่
การประชุมครั้งนี้มีวาระการประชุมที่สำคัญเรื่องการรับทราบผลการพิจารณาโครงการหรือกิจกรรมประจำปี 2568 ที่คณะกรรมการอนุบริหารกองทุนฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้หมดวาระลงเมื่อเดือนมีนาคม 2568 และการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 19สิงหาคม ที่ผ่าน

