หลังจากระยะเวลา 5 เดือนของโครงการ "Go Green with Taiwan" โดยกรมการค้าระหว่างประเทศ (TITA) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจ (MOEA) ดำเนินการโดยสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) ทำการเปิดรับข้อเสนอหรือแนวคิดที่สร้างสรรค์และยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม มีนักพัฒนาฯ จากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ร่วมส่งข้อเสนอด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนมากถึง 396 โครงการ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ผู้เข้ารอบ 5 ทีมสุดท้ายได้เดินทางมานำเสนอโครงการต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในไต้หวัน เพื่อพิสูจน์ว่าข้อเสนอด้านนวัตกรรมดังกล่าวฯ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับสังคมได้จริง โดยกระบวนการคัดเลือกอันเข้มข้นนี้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ซึ่ง 3 ทีมสุดท้ายเป็นผู้เข้าแข่งขันจากสหราชอาณาจักร ฮังการี และฟิลิปปินส์ โดยมีแผนข้อเสนอที่โดนเด่น ทำให้เป็นผู้ชนะและรับรางวัลมูลค่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 700,000 บาทไปครอง ซึ่งโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและสร้างสังคมที่ร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสะท้อนถึงแรงบันดาลใจในความมุ่งมั่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของโครงการระดับโลกนี้อีกด้วย
ผู้ชนะระดับโลก 3 ราย ได้แก่
- สหราชอาณาจักร: โครงการ Digital Fashion: Transforming Fashion for a Sustainable Future เปลี่ยนโลกแฟชั่นเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
- ฮังการี: โครงการการศึกษาเกี่ยวกับการใช้วัสดุรูพรุนในกระบวนการทำความเย็นแบบระเหย หรือ Investigation of the application of evaporative cooling using porous materials (row ceramics)
- ฟิลิปปินส์: โครงการ Sweet Solutions to the Plastic Crisis: Compostable Sugarcane-based Alternatives แนวทางแก้วิกฤติพลาสติกด้วยวัสดุทดแทนจากอ้อยที่ย่อยสลายได้
นางซินเทีย เจียง อธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ (TITA) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (MOEA) เผยว่า “เราภูมิใจมากที่โครงการ 'Go Green with Taiwan' สามารถแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และเผยศักยภาพของผู้เสนอโครงการจากทั่วโลก โดยผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ยั่งยืนของไต้หวัน แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในเป้าหมายของเราที่ต้องการสร้างอุตสาหกรรมสีเขียวที่เข้มแข็ง เราหวังว่าความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งนี้จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับโลกในอนาคต”
นายไซมอน หวัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสภาการค้าและการส่งออกไต้หวัน กล่าวว่า “การได้รับข้อเสนอโครงการถึง 396 โครงการจาก 45 ประเทศทั่วโลก เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและการตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืนในระดับโลก แม้ว่าโอกาสที่จะเข้ารอบสุดท้ายจะมีเพียง 1.5% แต่ทุกข้อเสนอล้วนมีคุณค่าและแสดงถึงความพยายามในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ โดยมองว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับโลกที่มีเป้าหมายเดียวกันในการรักษาสิ่งแวดล้อมและอนาคตของโลกใบนี้”
นายสแตน ซือ ผู้ก่อตั้งและประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มบริษัทเอเซอร์ ทูตกิตติมศักดิ์ของแคมเปญ "Go Green with Taiwan" เล่าว่า “จุดมุ่งหมายของโครงการนี้ คือการสร้างผลกระทบเชิงบวกในระดับสากล ด้วยการรวบรวมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและโซลูชันที่ยั่งยืนของไต้หวันเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นเราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีสีเขียวที่นำเสนอในโครงการนี้ จะไม่เพียงมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ประเทศต่างๆ นำไอเดียเหล่านี้ไปต่อยอดและพัฒนาร่วมกัน เพราะเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้โลกของเรายั่งยืนขึ้น”
นางลี-ฟาง โจว เลขาธิการสถาบันพลังงานยั่งยืนแห่งไต้หวัน ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินของแคมเปญนี้เผยว่า “รู้สึกประทับใจกับความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนความมุ่งมั่นของผู้เข้าร่วมทุกทีม มองว่าทุกโครงการที่ส่งเข้ามาล้วนมีเอกลักษณ์และนำเสนอโซลูชันที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้จริง ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสและความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง พร้อมเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและดีขึ้นสำหรับพวกเราทุกคน”
ทั้งนี้ "Go Green with Taiwan" เป็นโครงการนำเสนอแนวคิดหรือข้อเสนอระดับโลกที่เชิญชวนนักคิดนักสร้างสรรค์จากทั่วโลกให้พัฒนาโซลูชันที่มีความหมายและนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งโครงการได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมได้รับข้อเสนอถึง 396 โครงการจาก 45 ประเทศ อาทิ ฮังการี เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส บราซิล สหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไต้หวันในด้านความร่วมมือทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยการสนับสนุนให้บุคคล สถาบันทางสังคม และองค์กรพัฒนาเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทรงพลังของไต้หวัน พร้อมส่งเสริมความพยายามร่วมกันในการแก้ปัญหาระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และโซลูชันของไต้หวันในการสร้างการปรับปรุงแก้ไขที่เป็นรูปธรรมในสังคม แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในระดับสากล
ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของไต้หวัน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/ หรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Go Green with Taiwan ที่ https://gogreen.taiwanexcellence.org/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พิพัฒน์” ลุยสงขลา ปั้นมาตรฐานครูมวยไทย ป้อนไต้หวัน ญี่ปุ่นและประเทศในตะวันออกกลาง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีมอบป้ายศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขา ผู้ฝึกสอนมวยไทย ระดับ 1
ไทเป สงสัยจีนก่อวินาศกรรมเคเบิลใต้น้ำ
ไต้หวันขอให้เกาหลีใต้ช่วยสืบสวนเกี่ยวกับเรือของจีนลำหนึ่ง ที่อาจทำให้สายเคเบิลใต้น้ำได้รับความเสียหาย
ลัดเลาะ 4 แลนด์มาร์คดังแห่ง “หนานโถว” ไต้หวัน พร้อมพาไปเปิดประสบการณ์ งานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Sun Moon Lake 2024 Come! Bike Day
ภาคกลางของไต้หวันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น “หนานโถว”
'เรือรบไห่หนาน' เทียบท่าฮ่องกงโชว์ความยิ่งใหญ่
“เรือไห่หนาน”เทียบท่าฮ่องกง ในวาระเฉลิมฉลอง 75 ปีก่อตั้งจีน โชว์ความยิ่งใหญ่ของเรือรบกองทัพเรือสู่สายตาชาวฮ่องกง
Taiwan Excellence ประกาศ 17 ทีม เข้ารอบรองชนะเลิศ โครงการ "Go Green with Taiwan"
โครงการ "Go Green with Taiwan" ประกาศรายชื่อ 17 ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศจาก 12 ประเทศ ได้แก่ เคนยา แคนาดา สหราชอาณาจักร ลักเซมเบิร์ก ฮังการี ยูเครน
ฮอตเกินต้าน! 'หมีพูห์' เข้าตา 'MILK X' แมกกาซีนดังฮ่องกงดึงถ่ายแฟชั่นเอเชีย
ออร่าจับตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์ สำหรับ “MEEPOOH” หรือ “หมีพูห์-วิน สกุลแสงประภา” ที่ตอนนี้เตรียมตัวเป็นศิลปินหน้าใหม่จากค่าย WhiteFox ในสังกัด GMM MUSIC ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผลงาน Pre-Debut โปรเจกต์ WhiteFox Playlist ที่ปล่อยออกมาให้ได้ชมกันไปไม่นาน