บ้านท่ามะเฟือง: เสน่ห์เกษตรสร้างสรรค์ พลิกฟื้นเศรษฐกิจชุมชน สู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

ศูนย์เรียนรู้ท่องเที่ยวชุมชนบ้านมะเฟือง

ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจีของ จังหวัดนครนายก มีชุมชนเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแปลงผักและสวนผลไม้ “บ้านท่ามะเฟือง” แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงหมู่บ้านเกษตรกรรมทั่วไป แต่เป็นต้นแบบของ “เกษตรสร้างสรรค์” ที่ผสมผสาน แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามรอยพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ โคก หนอง นา โมเดล จนกลายเป็น ศูนย์การเรียนรู้วิถีเกษตรพอเพียง ที่ช่วยยกระดับเศรษฐกิจชุมชน พร้อมพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วสารทิศ

อาหารอร่อยจากกลุ่มวิสาหกิจบ้านท่ามะเพือง

จากชุมชนเกษตรกรรม สู่ศูนย์เรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

บ้านท่ามะเฟือง  ต.ป่าขะ อ.บ้านนา จ.นครนายก มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากที่แข็งแกร่งผ่าน “วิสาหกิจชุมชน” และ “กลุ่มออมทรัพย์” เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ชาวบ้านที่นี่ไม่ได้ทำเกษตรเพียงเพื่อบริโภคในครัวเรือน แต่ยังพัฒนาเป็น แหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร  กิจกรรมเด่นของชุมชน   เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ กับแปลงผักสลัด ผักสวนครัว และไข่ไก่อารมณ์ดี เวิร์กช็อปการทำอาหารพื้นบ้าน เช่น ผัดไทยเส้นกล้วย และ กุยช่ายปลอดสารพิษ ทดลองปลูกพืชแบบโคก หนอง นา โมเดล ที่ช่วยจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ  การแปรรูปสมุนไพรท้องถิ่น เช่น ตุ๊กตาสมุนไพร และสปาเท้าสมุนไพร  ชิมผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ น้ำพริก ขนมไทย และของฝากจากผลไม้

"เราไม่ได้แค่ปลูกพืชผักให้โต แต่เราสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและเติบโตไปพร้อมกัน"

ไข่ไก่อารมณ์ดี

ลิ้มรสอาหารพื้นบ้าน ความอร่อยที่หาได้เฉพาะที่นี่

อาหารของบ้านท่ามะเฟืองไม่ได้มีแค่รสชาติอร่อย แต่ยังสะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น และ ความคิดสร้างสรรค์ในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร สำหรับเมนูห้ามพลาด  ผัดไทยเส้นกล้วย – นำกล้วยมาแปรรูปเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เพิ่มความหนึบหนับและรสชาติแปลกใหม่กุยช่ายปลอดสารพิษ – ใช้กุยช่ายที่ปลูกเองในศูนย์เรียนรู้ ปลอดภัยและสดใหม่
สปาสมุนไพร – ใช้สมุนไพรท้องถิ่นมาทำสปาเท้า เพิ่มความผ่อนคลายและบำบัดร่างกาย อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน แต่ยังเป็น การเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต และช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้มีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น

วัตถุดิบและสมุนไพรชุมชนที่นำมาแปรรูป กุยช่าย ตุ๊กตาสมุนไพร และผัดไทยเส้นกล้วย

แหล่งท่องเที่ยวรอบบ้านท่ามะเฟือง: ธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลงตัว

นอกจากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแล้ว บ้านท่ามะเฟืองยังเป็นศูนย์กลางของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม วัดจุฬาภรณวนาราม: อุโมงค์ไผ่สุดร่มรื่น  เป็นวัดที่เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและพักผ่อนใจ ไฮไลต์สำคัญคือ อุโมงค์ไผ่ทอดยาว ที่ให้บรรยากาศร่มรื่น สวยงาม  วัดไม้รวก: พ่อใหญ่สามัคคี พระพุทธรูปศูนย์รวมจิตใจ  วัดเก่าแก่ที่มีอายุ กว่า 200 ปี มีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ชื่อว่า "พ่อใหญ่สามัคคี" ตั้งอยู่หน้าทางเข้า ถือเป็นจุดเด่นของวัดและเป็นที่เคารพของคนในชุมชน

การท่องเที่ยวในชุมชนวัดจุฬาภรณวนารามและวัดไม้รวก"พ่อใหญ่สามัคคี"

จากสวนครอบครัว สู่ธุรกิจแห่งโอกาส: การพัฒนาเกษตรยุคใหม่

บ้านท่ามะเฟืองเป็นตัวอย่างของการ ผสมผสานเกษตรกรรมเข้ากับธุรกิจยุคใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมาใช้ให้เกิดประโยชน์ "สวนศรีทอง มะยงชิด & ของฝากนครนายก"  นำผลไม้พื้นบ้าน เช่น มะยงชิด มะม่วง และส้มโอ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของฝาก แปรรูปผลผลิต เช่น ผัดไทยซอสมะยงชิด หมี่กรอบมะยงชิด แยมมะยงชิด  ขยายตลาดผ่าน โซเชียลมีเดีย ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น "เราต้องการให้เกษตรกรคิดนอกกรอบ นำสิ่งที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่"

ร้านมะยงชิดสาขา1ธุรกิจ “สวนศรีทอง มะยงชิด & ของฝากนครนายก

"สวนศรีทอง มะยงชิด" จากสวนครอบครัวสู่ธุรกิจของฝากสร้างสรรค์แห่งนครนายก

ในโลกของการทำเกษตรยุคใหม่ การผลิตผลไม้เพื่อจำหน่ายแบบเดิมอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ชลันลัคน์ กิติทัศวรรัตน์ หรือ “คุณฟาง” เจ้าของธุรกิจ “สวนศรีทอง มะยงชิด & ของฝากนครนายก” จึงนำแนวคิดการตลาดยุคใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้กับสวนผลไม้ของครอบครัว จนสามารถสร้างจุดขายที่แตกต่าง และยกระดับผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรรมสู่สินค้าของฝากที่มีเอกลักษณ์

ชลันลัคน์ กิติทัศวรรัตน์

จากสวนเล็ก ๆ สู่ธุรกิจเกษตรสร้างสรรค์

สวนศรีทอง เริ่มต้นจากการเป็นสวนผลไม้ครอบครัวที่ปลูก มะยงชิด ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายก แม้ว่ามะยงชิดจะเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม แต่คุณฟางเล็งเห็นว่า การพึ่งพาการขายผลไม้สดเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงเริ่มต้น แนวคิดการแปรรูปสินค้า เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะผลผลิตล้นตลาด หรือสภาพอากาศที่ส่งผลต่อผลผลิต

"การทำเกษตรในยุคนี้ เราต้องคิดให้ไกลกว่าการปลูกและขายผลไม้ เราต้องหาวิธีเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเรา"

สวนมะยงชิดสวนศรีทอง

ต้นแบบของการเกษตรสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน

เหตุผลที่ต้องมาเยือนบ้านท่ามะเฟือง  เรียนรู้เกษตรพอเพียงและการแปรรูปผลผลิต  ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านสุดสร้างสรรค์  สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนแท้ๆ ที่เต็มไปด้วยมิตรไมตรี เยี่ยมชมวัดเก่าแก่ และอุโมงค์ไผ่สุดร่มรื่น

บ้านท่ามะเฟืองจึงไม่ใช่แค่หมู่บ้านเกษตรทั่วไป แต่เป็นตัวอย่างของ “เกษตรสร้างสรรค์” ที่สามารถเชื่อมโยงวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และเศรษฐกิจยุคใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

 "บ้านท่ามะเฟือง: ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ พลิกโฉมชุมชน สู่เศรษฐกิจอนาคต"

แปลงผักอัจฉริยะ

ปลูกผักเพราะรักกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต

นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน

“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง

คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568

ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’

จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่

เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี

ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ

ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง

หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"

คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน