เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 01.48 น. เกิดเหตุตอม่อสะพานซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถล่มต่อเนื่อง เป็นทางยาว มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 ราย และมีผู้เสียชีวิตทันที 5 ราย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกำชับให้สำนักงานประกันสังคมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบทันที
ด้านนางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการทางพิเศษสาย พระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ซึ่งขณะนั้นตอม่อสะพานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ช่วงพระรามที่ 2 ซอย 25 ถนนพระรามที่ 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ได้ทรุดตัวถล่มลงอย่างต่อเนื่องเป็นทางยาวตั้งแต่ซอย 17 ถึง ซอย 25 ทำให้ลูกจ้างที่อยู่ระหว่างปฏิบัติงานได้รับบาดเจ็บ จำนวน 30 ราย แบ่งเป็น บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 6 ราย อยู่ระหว่างส่งต่อเพื่อรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 24 ราย และมีผู้เสียชีวิตทันทีจำนวน 5 ราย ดังนี้
• ลูกจ้างผู้เสียชีวิตอันเนื่องจากการทำงาน (ผู้ประกันตนมาตรา 33) จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายนรากร อายุ 39 ปี 2. นายรุจธร อายุ 48 ปี 3. นาย ZIN KO AUNG 4. นาย NAIMG LIN AUNG โดยทายาทผู้มีสิทธิของลูกจ้างที่เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคม ดังนี้ เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต ร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 10 ปี และเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผล
• ผู้ประกันตนมาตรา 39 (มีสถานะเป็นนายจ้างผู้รับเหมา) จำนวน 1 ราย คือ นายสิทธิชัย อายุ 40 ปี โดยทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย และเงินบำเหน็จชราภาพ โดยประกันสังคมจะจ่ายค่าทดแทนให้ทายาทผู้เสียชีวิต รวมทั้งสิ้น 5 ราย กว่า 3.7 ล้านบาท
• สำหรับลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ดังนี้ 1. ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 65,000 บาท และจ่ายเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์จนสิ้นสุดการรักษา และยังได้รับค่าทดแทน รายเดือน จำนวน 70% ของค่าจ้างรายเดือนแต่ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน และค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานอีกด้วย
ในวันเดียวกัน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเพมหานครพื้นที่ 7 และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประกันตน ณ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 และ โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์อินเตอร์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำขอให้ลูกจ้างคลายกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะสำนักงานประกันสังคมพร้อมดูแลช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมทั้ง ทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนในทุกกรณี

***************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานประกันสังคมลงพื้นที่ช่วยเหลือลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงานในไซต์ก่อสร้างจังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. เกิดอุบัติเหตุโครงนั่งร้านบริเวณชั้น 3 ภายในไซต์งานก่อสร้างของบริษัท ไทย-ฮอง เทคโนโลยี จำกัด ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
“สปส.” ห่วงแรงงานพลาดสิทธิคุ้มครอง “กองทุนเงินทดแทน”ภัยที่ทำงาน เตือนนายจ้างป้องสิทธิรักษาพยาบาลลูกจ้างหลังเกิดภัยภายใน 15วัน
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ในทุกสถานประกอบการอาจซ่อนความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิดไว้เสมอและเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยชีวิตและการใช้สิทธิอย่างถูกต้องและทันเวลา
“ สปส.” แนะช่องทางนายจ้างชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสร้างหลักประกันให้แรงงานไทย
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ได้ให้ความสำคัญอย่างมากในการยกระดับคุณภาพกลไกลการทำงานของ “กองทุนเงินทดแทน” ให้มีมาตรฐานมายิ่งขึ้น
“สปส.” เดินหน้ายกระดับกลไกคุ้มครองแรงงาน“กองทุนเงินทดแทน”
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า เพื่อให้แรงงานทุกคนมีหลักประกันเมื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน กองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมจึงให้ความคุ้มครองและให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกจ้างอย่างทั่วถึงตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561
“สปส.” เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย กระทุ้งนายจ้างต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน30วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน
กระทุ้งนายจ้าง ต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างเริ่มทำงานวันแรกในสถานประกอบการ ขู่ฟอดนายจ้างไม่ปฏิบัติจะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
“สปส.” เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์ “กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ
สำนักงานประกันสังคมเร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์“กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ และได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง

