“ชุมชนปลอดขยะ Zero Waste”
เมื่อพูดถึง “ขยะ” หลายคนอาจเห็นเป็นเพียงปัญหาที่ก่อให้เกิดมลภาวะและความเดือดร้อน แต่สำหรับ “กองทุนสวัสดิการชุมชน เขตภาษีเจริญ” นี่คือโอกาสทองในการสร้างการเปลี่ยนแปลง! ด้วยการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ชุมชนแห่งนี้ได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส นำไปสู่โมเดลบริหารจัดการขยะครบวงจรที่สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต และได้รับการยกย่องให้เป็น “ชุมชนปลอดขยะ Zero Waste” แห่งปี
รับรางวัล ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ ปี 2567 ประเภทที่ 5 ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
รางวัล ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’
กองทุนสวัสดิการชุมชนเขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพมหานคร เป็น1 ใน 8 กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ ปี 2567 ประเภทที่ 5 ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
‘กองทุนสวัสดิการชุมชน’ เริ่มจัดตั้งทั่วประเทศในปี 2548 โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และรัฐบาลให้การสนับสนุน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีระบบสวัสดิการรองรับ ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือดูแลกันเอง โดยสมาชิกจะต้องสมทบเงินเข้ากองทุนวันละ 1 บาท หรือสมทบเป็นรายปี จำนวน 365 บาท เพื่อนำเงินกองทุนมาช่วยเหลือดูแลสมาชิกตามข้อตกลง เช่น ช่วยยามคลอดบุตร เจ็บป่วย เสียชีวิต ทุนการศึกษาเด็ก ยามประสบภัยพิบัติ ฯลฯ
กองทุนสวัสดิการชุมชนเขตภาษีเจริญ
กองทุนสวัสดิการชุมชนเขตภาษีเจริญ
ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 18 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ปัจจุบันมีสมาชิกสะสมจำนวน 2,115 คน (ยอด ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2567) มียอดเงินสมทบจากสมาชิกกองทุน และเงินสมทบจาก อปท.(กรุงเทพมหานคร) และรัฐบาลผ่าน พอช. และรายได้อื่นๆ จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,886,383บาท จัดสวัสดิการให้กับสมาชิกจำนวน 12ด้าน ได้แก่ 1. สวัสดิการเกี่ยวกับเด็กแรกเกิด/การคลอด 2.สวัสดิการเกี่ยวกับการเจ็บป่วยรักษาพยาบาล 3. สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ 4. สวัสดิการเกี่ยวกับการเสียชีวิต 5. สวัสดิการเกี่ยวกับการจัดการงานศพ 6. การจัดสวัสดิการให้กับผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ 7. สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษา 8. สวัสดิการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโรคโควิด-19 9.สวัสดิการอัคคีภัย 10.สวัสดิการอุทกภัย 11.สวัสดิการประเภณีวัฒนธรรม 12.สวัสดิการสิ่งแวดล้อม
ธนาคารขยะรีไซเคิล
จากขยะ…สู่ทองคำของชุมชน
กองทุนสวัสดิการชุมชนแห่งนี้ไม่ได้แค่ช่วยเหลือสมาชิกในด้านสวัสดิการ แต่ยังมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม โดย แนวคิดหลักคือเปลี่ยนขยะให้เป็นทรัพยากร ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อม โครงการเด่นของชุมชน ธนาคารขยะรีไซเคิล ขยะมีมูลค่า เปลี่ยนขยะเป็นเงิน และช่วยลดปริมาณขยะไปพร้อมกัน ปุ๋ยหมักอินทรีย์ & น้ำหมักชีวภาพ เปลี่ยนขยะอินทรีย์ให้เป็นสารบำรุงดิน ลดต้นทุนการเกษตร เลี้ยงหนอนแมลงวันลาย ทางออกใหม่ในการกำจัดเศษอาหาร พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่ม ปลูกผักปลอดสารพิษ ใช้ทรัพยากรจากขยะหมุนเวียนสู่การผลิตอาหารปลอดภัย
ปุ๋ยหมักอินทรีย์ & น้ำหมักชีวภาพ
เลี้ยงหนอนแมลงวันลาย
ชาวชุมชนเริ่มต้นจากการแยกขยะภายในครัวเรือน นำขยะรีไซเคิลส่งเข้าสู่ “ธนาคารขยะ” เพื่อนำไปขายให้กับโรงงานรีไซเคิล ขณะที่ขยะอินทรีย์ถูกนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ โดยเฉพาะ “เศษอาหาร” ที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้อีก ถูกนำไปเลี้ยงหนอนแมลงวันลายซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการผลิตโปรตีนสัตว์ ทำให้ชุมชนสามารถลดขยะได้ถึง 80% ในแต่ละปี
ปลูกผักปลอดสารพิษ
รางวัลการันตีความสำเร็จ สู่ความยั่งยืนระดับประเทศ
ความสำเร็จของชุมชนไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำงานอย่างหนักและการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ด้วยพลังของการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง กองทุนสวัสดิการชุมชนเขตภาษีเจริญได้รับรางวัลสำคัญ ได้แก่ รางวัลชุมชนปลอดขยะ Zero Waste ปี 2566-2567 รางวัลชนะเลิศชุมชนต้นแบบการจัดการขยะครบวงจร ปี 2567 สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารจัดการขยะและสวัสดิการชุมชน สามารถไปด้วยกันได้ และสามารถขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
รางวัลชุมชนปลอดขยะ Zero Waste ปี 2566-2567
เคล็ดลับความสำเร็จ: 4 เสาหลักแห่งการเปลี่ยนแปลง
ความสำเร็จของกองทุนสวัสดิการชุมชนเขตภาษีเจริญไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีรากฐานสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ 1. สร้างการมีส่วนร่วม ทุกคนในชุมชนเป็นเจ้าของโครงการร่วมกัน 2. สร้างทุนหมุนเวียน กองทุนรองรับการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม 3. สร้างความเป็นเจ้าของ ทุกคนช่วยกันดูแลและพัฒนาโครงการ 4. สร้างเครือข่ายภาคี ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายกับภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ ทำให้ชุมชนสามารถขยายโครงการด้านสิ่งแวดล้อมให้กว้างขึ้น เช่น การร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในพื้นที่เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก รวมถึงการทำงานร่วมกับโรงเรียนและวัดในเขตภาษีเจริญเพื่อส่งเสริมแนวคิด “ขยะเป็นศูนย์” ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงวัย
“ขยะเป็นศูนย์”
กองทุนสวัสดิการเขตภาษีเจริญต้นแบบแห่งการพัฒนา
กองทุนสวัสดิการเขตภาษีเจริญไม่ได้เป็นเพียงชุมชนที่บริหารจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยภาครัฐและเอกชนต่างให้การสนับสนุนต่อยอดโครงการ ทั้งในรูปแบบของ CSR และความร่วมมือระดับท้องถิ่น ขยายโครงการร่วมกับโรงเรียน และสถานประกอบการเชื่อมโยงเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยและองค์กรภาครัฐ พัฒนาโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ครอบคลุมทั่วเขต “จากชุมชนเล็กๆ สู่โมเดลแห่งอนาคต” นี่คือบทพิสูจน์ว่าการจัดการขยะที่ดีสามารถนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง กองทุนสวัสดิการชุมชนเขตภาษีเจริญ คือเครื่องยืนยันว่า "การพัฒนาที่แท้จริง" ไม่ได้เกิดขึ้นจากนโยบายบนกระดาษ แต่เกิดจาก “พลังของคนในชุมชน” ที่ลงมือทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง
ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง
คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่
เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี
ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ
ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง
หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"
คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน


