'CKPower' ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ เป็น 'A-' จาก 'BBB+' โดยทริสเรทติ้ง

กรุงเทพฯ 8 เม.ย. 2568 – นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้นำในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่ง เปิดเผยว่า บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตตราสารหนี้ (Issue Rating) จาก "BBB+" เป็น "A-" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ทริสเรทติ้ง) เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 พร้อมคงอันดับเครดิตองค์กร (Company Rating) ที่ระดับ "A-" และแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่ปรับสูงขึ้นนี้สะท้อนถึงโครงสร้างหนี้ที่แข็งแกร่งขึ้น จากการบริหารหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ การทยอยลดภาระหนี้ของบริษัทย่อย และการรักษาระดับความสามารถในการชำระหนี้ให้อยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง ส่งผลให้ภาพรวมทางการเงินของบริษัทมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยของการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มาจากการทยอยลดลงของหนี้สินระยะยาวของบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (NN2) และ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) ส่งผลให้ระดับความเสี่ยงเรื่องการด้อยสิทธิในการเรียกร้องชำระหนี้ของบริษัทเทียบกับบริษัทย่อยลดลง ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ควบคู่ไปกับการบริหารหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถรักษาระดับความสามารถในการชำระหนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแกร่งท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และที่สำคัญทริสเรทติ้งยังคงเชื่อมั่นในความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดของบริษัทในระดับสูงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงการมีพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีศักยภาพ ซึ่งช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับฐานะการเงินของ CKPower มีโครงสร้างทางการเงินที่ดีเช่นเดิม โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 1.86 เท่า เพิ่มขึ้น 0.18 เท่าจากปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.52 เท่า โดยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” สะท้อนความเชื่อมั่นของทริสเรทติ้งว่า กลุ่มโรงไฟฟ้าของ CKPower ยังคงมีผลการดำเนินงาน และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง

สำหรับแผนงาน ปี 2568-2573 CKPower ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตจากโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในรูปแบบ Private PPA และ ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเฟส 2 จากภาครัฐ ควบคู่ไปกับการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ด้านโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ที่ร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในเฟสแรก จะทยอยแล้วก่อสร้างแล้วเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ BEM ได้ครบทุกโครงการในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 ขณะที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง มีความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ สิ้นปี 2567 ที่ร้อยละ 42 และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามแผนในปี 2573 ทั้งนี้ CKPower พร้อมสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการลดการใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

เกี่ยวกับ “บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower”

บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 18 แห่ง รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3,640 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย (1) โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 46% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ภายใต้ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 42.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ และ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง ภายใต้ บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 50% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,460 เมกะวัตต์ (2) โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น 2 แห่ง ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และ (3) โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 13 แห่ง ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% จำนวน 11 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 28 เมกะวัตต์ ภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท เชียงราย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้อนรับปีใหม่! TSB ขยายบริการรับ-ส่ง ท่าเรือเอเชียทีค ดีเดย์ 25 ธ.ค.นี้

บริษัท ไทย สมายล์ โบ้ท จำกัด ในเครือไทย สมายล์ กรุ๊ป (TSB) มอบของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ขยายเส้นทางให้บริการเรือไฟฟ้าสายสีเขียว (City Line) เพิ่มจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ ท่าเรือเอเชียทีค บนเส้นทาง สยามเจริญนคร – พระปิ่นเกล้า เริ่มเปิดให้บริการต้อนรับวันคริสต์มาสที่ 25 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

ทรู คอร์ปอเรชั่น เชิดชู “ทรูจิตอาสา” คว้าโล่รางวัลซีพีร้อยเรียงความดี 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 5

ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมพิธีมอบรางวัล “โครงการซีพีร้อยเรียงความดี 24 ชั่วโมง” ครั้งที่ 5 เพื่อเชิดชูเกียรติพนักงานผู้ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “ซีพีร้อยเรียงความดี”

ท่าแร่สว่างทั้งเมือง เปิดยิ่งใหญ่ “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส” ขบวนแห่คึกคัก–โดรนโชว์สุดตระการตา ดึงนักท่องเที่ยวคับคั่ง ยกระดับประเพณีศรัทธาสู่ Signature Thailand Event

ค่ำคืนวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เทศบาลตำบลท่าแร่ จังหวัดสกลนคร จัดพิธีเปิดงาน “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ท่าแร่ จังหวัดสกลนคร ประจำปี ค.ศ. 2025” โดยนายชูวิทย์ ศิริเวชกุล รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน

‘Whyso’ ประกาศศักดา แชมป์โลกงานแข่งขัน ROLC 2025 ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์

บริษัท Maxion Tech ผู้ให้บริการเกม Ragnarok Online Landverse ประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการ แข่งขัน E-Sport

ทส. จัดกิจกรรม “พิทักษ์ผืนป่า ถวายพระมารดาแห่งแผ่นดิน” สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

วันนี้ (24 ธันวาคม 2568) เวลา 11.00 น. ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พิทักษ์ผืนป่า ถวายพระมารดาแห่งแผ่นดิน” โดยมีคณะผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

สหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วย จ.กาฬสินธุ์ ส่งเสริมเลี้ยงจิ้งหรีดส่งออก ปลูกพืชสมุนไพร ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ต้นแบบความสำเร็จสหกรณ์ในพื้นที่คทช.“ดงกล้วยโมเดล”

การเข้าไปสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบานที่ดินแห่งชาติหรือคทช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นระบบครบวงจร ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะเลขานุการคทช.และคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด (คณะอนุ 3) โดยมุ่งเน้นการรวมกลุ่ม เพิ่มทักษะอาชีพ การเข้าถึงเงินทุน