เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วย รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวมอบนโยบาย ในหัวข้อ “การนำ อววน. เพิ่มศักยภาพพื้นที่ จ.ภูเก็ต” ในโอกาสลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนงานด้าน อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน. ) โดยมี พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.การอุดมศึกษาฯ นายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) นางสาวปัทมา แจ้งใจ ผู้จัดการโครงการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดร.พรสรรค์ โรจนพานิช รองผู้อํานวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) รศ.ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการหน่วยภารกิจยุทธศาสตร์ อววน. การพัฒนาเศรษฐกิจไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ให้การต้อนรับ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
นายศุภชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงสําคัญของโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการอุดมศึกษาและการพัฒนากําลังคน ทั้งเรื่องรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปเป็นแบบหลายช่วง (Multistage Life) การเปลี่ยนโครงสร้างประชากรซึ่งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society)
รวมถึงแนวโน้มความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัล ก่อให้เกิดกระบวนทัศน์ทางการศึกษาและการจ้างงานในรูปแบบใหม่ สู่กลุ่มผู้เรียนบบ Non-age
group บทบาทการอุดมศึกษาในการขับเคลื่อนเป้าหมายประเทศจึงจำเป็นต้องมีการกําหนดยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาอุดมศึกษาออกเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.พัฒนาศักยภาพคน (Capacity Building) 2.ส่งเสริมระบบนิเวศวิจัยอุดมศึกษา (Research Ecosystem Building) และ 3.จัดระบบอุดมศึกษาใหม่ (Higher Education Transformation) โดยมุ่งเน้นนโยบายหลัก (Flagship Policies) ที่ครอบคลุม 3 มิติ ประกอบด้วย 1.ด้านการจัดการศึกษา มุ่งเน้นการผลิตกําลังคนตามความต้องการของประเทศ 2.ด้านการวิจัย สร้างนวัตกรรม และบริการวิชาการ โดยกลไกการส่งเสริมความร่วมมือในการวิจัยและบริการวิชาการ การนําผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์และสร้างผู้ประกอบการใหม่ การเคลื่อนย้ายแลกเปลี่ยนบุคลากร และการดึงดูดบบุคลากรความสามารถสูงจากต่างประเทศมาร่วมดําเนินการวิจัยและนวัตกรรมตามความต้องการของประเทศ และ 3.ด้านการบริหารจัดการ มุ่งเน้นให้เกิดธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา การยกระดับคุณวุฒิและตําแหน่งวิขาการอาจารย์ Digital Transformation และการปฏิรูประบบการเงินให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่า นอกจากนี้ จําเป็นต้องมีกฎหมายและเครื่องมือสนับสนุนในการขับเคลื่อนการอุดมศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ
ผู้ช่วย รมว.อว. กล่าวต่อว่า หัวใจของกระทรวง อว. ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคต คือการเตรียมคนไทยให้พร้อมกับศตวรรษที่ 21 และการใช้องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบให้กับประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้แนวคิดว่ามหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยต้องไม่ใช่แค่ ‘แหล่งสอนหนังสือ’ แต่ต้องเป็นศูนย์กลางของการแก้ปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ให้กับชุมชน และเพื่อให้ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง กระทรวง อว. จึงมุ่งเน้นการปฏิรูป 3 ด้าน คือ ระบบบริหาร กฎหมาย และงบประมาณ เพื่อให้สถาบันในพื้นที่มีอิสระในการคิด แต่มีความรับผิดชอบในการลงมือทํา
“นี่คือ Transformation Code ที่จะพาเราสู่ Thailand 5.0 อย่างแท้จริง นอกจากนี้ กระทรวง อว. ได้มีการผลักดันในเรื่อง ‘University Holding Company’ หรือ ‘บริษัทโฮลดิ้งของมหาวิทยาลัย’ ซึ่งถือเป็นโครงสร้างใหม่ในการบริหารจัดการธุรกิจนวัตกรรม จากงานวิจัยและองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัย” โดยมีเป้าหมายให้เป็นสะพานนวัตกรรมที่ต่อยอดองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัยสู่เศรษฐกิจจริง กระทรวง อว. มุ่งเน้นให้มหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่เพียงในรั้ว แต่ ‘ลงไปอยู่ในใจของชุมชน’ ให้ได้จริง เป็นพื้นที่ที่สร้างนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง เปิดกว้างสําหรับทุกวัย และเป็นระบบการศึกษาที่เปิดให้คนเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต" นายศุภชัย กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ
สุรศักดิ์ พร้อมยกระดับศูนย์พักพิงชั่วคราว ม.อ.เป็นโรงพยาบาลสนาม เผยระบบการสื่อสารบริการโทรศัพท์ฟรีจากเครือข่าย AIS และฟรีไวไฟจาก True
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2568 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อบัญชาการและติดตามสถานการณ์วิกฤติน้ำท่วม
GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และผู้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชิงพาณิชย์รายแรกของไทย ประกาศความร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในโครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” เพื่อขยายจุดรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) สู่เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ มุ่งสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
11.11 เปิด “ฟิวเจอเรียม” เต็มรูปแบบวันแรก “สุรศักดิ์” ตรวจเยี่ยมการให้บริการ ทดสอบระบบ พร้อมถอดสูทสวมบทบาทเป็น “นักธรณีวิทยาปิโตรเลียม” และ “นักคิดค้นยา”
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.68 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เดินทางลงพื้นที่ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM เพื่อติดตามการเปิดให้บริการฟิวเจอเรียม (FUTURIUM)
ดีเอสไอมีหนาว! โฆษก ยธ.ข้องใจจุดเริ่มต้นทั้งคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.
'ศุภชัย' ตั้งคำถาม 'ดีเอสไอ' เริ่มต้นสืบสวนคดีที่ดินเขากระโดงถูกต้องหรือไม่ ย้ำต้องสืบสวนคดีด้วยหลักนิติธรรม ชี้อาจต้องย้อนกลับจุดเดิม เหน็บ 'ทวี - ภูมิธรรม' กรณีถูกศาล รธน.คุ้ยต่อแสดงว่ามีมูล
NIA - อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอีด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ร่วมบ่มเพาะและทดลองตลาด สร้างนวัตกรรมสู่โรงงานอัจฉริยะ
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า NIA ร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Startup), เอสเอ็มอี (SME)


