
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน “วันความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ” ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน มีผู้แทนจาก ILO ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน แรงงาน นักเรียน นักศึกษา และเครือข่ายความปลอดภัยทั่วประเทศ เข้าร่วมกว่า 300 คน ณ ชั้น 5 ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า “ความปลอดภัยในการทำงานไม่ใช่แค่ข้อบังคับทางกฎหมาย แต่คือหลักประกันพื้นฐานของชีวิตแรงงานไทยทุกคน” พร้อมย้ำว่าในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การพัฒนาทักษะแรงงานต้องเดินคู่กับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในทุกสถานประกอบการ กระทรวงแรงงานได้ดำเนินนโยบาย “Safety Thailand” อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในทุกจังหวัด โดยตั้งเป้าลดอุบัติเหตุร้ายแรงจากการทำงานเหลือไม่เกิน 1 ต่อ 1,000 คน และลดการเสียชีวิตจากการทำงานเหลือไม่เกิน 3 ต่อ 100,000 คน ภายในปี 2573

.
นายพิพัฒน์ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติและอุบัติเหตุในอนาคต ทั้งจากเครื่องจักรในไซต์งาน ไปจนถึงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและอุทกภัย โดยระบุว่า “การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอและการมีระบบรับมือที่ชัดเจน จะช่วยลดความสูญเสียได้มากกว่าการรอให้เกิดเหตุการณ์”
.
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจากการก่อสร้างบนท้องถนน กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ถนนพระราม 2 ที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดประชุมเจ้าของโครงการ ผู้รับเหมา และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย เพื่อกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยร่วมกัน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา พร้อมได้แต่งตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจด้านความปลอดภัยแรงงานเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและเฝ้าระวังโครงการก่อสร้างเสี่ยงสูงอย่างใกล้ชิด จึงได้กำชับให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎเหล็ก 5 ข้อ (5 Golden Rules) อย่างเคร่งครัด กฎเหล็ก 5 ข้อ ความปลอดภัยงานก่อสร้าง (Safe Cons. Together) ได้แก่ 1. กำหนดเขตก่อสร้าง–เขตอันตรายให้ชัดเจน 2. โครงสร้างต้องออกแบบได้มาตรฐาน 3. ตรวจสอบเครื่องจักรหนักตามหลักวิศวกรรม 4. ผู้ควบคุมงาน–ผู้อนุมัติต้องรับผิดชอบชัดเจน 5. แรงงานต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน
.
“การบาดเจ็บอาจแก้ไขได้ แต่การสูญเสียคือ สิ่งที่เราไม่มีวันได้กลับคืน กระทรวงแรงงานจะทำทุกทางเพื่อให้แรงงานไทยกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยทุกวัน” นายพิพัฒน์ กล่าวปิดท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.บุณณดา โฆษกกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามงานศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน ภาค 1 จ.ปทุมธานี พร้อมผลักดันยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) พร้อมด้วยนายกานต์ กิตติอำพน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (ด้านต่างประเทศ) ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม
มาเลย์เปิดรับสมัครหมอนวดแผนไทยหญิง 25 อัตรา!
โอกาสมาถึงแล้ว รีบสมัครด่วน ภายใน 12 ธ.ค. นี้ กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครหญิงไทย 25 อัตรา ทำงานนวดแผนไทยในมาเลเซีย
“สปส.” เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย กระทุ้งนายจ้างต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน30วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน
กระทุ้งนายจ้าง ต้องยื่นแบบขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างเริ่มทำงานวันแรกในสถานประกอบการ ขู่ฟอดนายจ้างไม่ปฏิบัติจะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
เจรจา ‘ไดกิ้น’ ได้ข้อยุติ เปลี่ยนระบบจ่ายทองเป็นเงินแทน พนักงานเตรียมกลับเข้าทำงาน
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเจรจาร่วมกันระหว่างบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับ สหภาพแรงงานไดกิ้น อมตะ รักษ์เสรี

