ที่รัฐสภา วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 - นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “สภาไทยไร้ควัน : พื้นที่ต้นแบบปลอดบุหรี่สู่สังคม” เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคมประจำปี 2568 จัดโดย คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวปาฐกถาว่า ในวาระพิเศษของ “วันงดสูบบุหรี่โลก” ประจำปี 2568 ว่า รัฐสภาไทยขอแสดงจุดยืนเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100% เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานราชการอื่น ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมที่ใส่ใจสุขภาพ และห่วงใยอนาคตของลูกหลาน เพราะ “บุหรี่” ไม่ใช่สิ่งเสพติดธรรมดา แต่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขปีละประมาณ 10,137 ล้านบาท รัฐสภาไทยในฐานะองค์กรนิติบัญญัติ ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับภารกิจนี้ ผ่านบทบาทในการออกกฎหมาย กำหนดนโยบาย และร่วมสนับสนุนทุกภาคส่วนในการควบคุมการบริโภคยาสูบ โดยอาคารรัฐสภาแห่งนี้จึงได้กำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ มีการจัดสรรสถานที่ที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมปลอดควัน มีป้ายประชาสัมพันธ์ที่มองเห็นได้เด่นชัด และมีการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับโทษของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า มีการสื่อสารทุกช่องทางทั้งภายในและภายนอก เพื่อส่งเสริมความตระหนักและสร้างพฤติกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
“ผมอายุยืนเพราะไม่สูบบุหรี่ ตั้งใจเลิกเพราะอยากอายุยืน 100 ปี เพราะมีตัวอย่างคือท่านอดีตนายกรัฐมนตรี มหาธีร์ โมฮัมหมัด ที่จะอายุครบ 100 ปี ในเดือน ก.ค.นี้ ท่านไม่สูบบุหรี่ รักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารที่เป็นประโยชน์ ผมอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการเลิกบุหรี่ การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาอดทน แต่คือความกล้าหาญที่จะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง และคนที่เรารัก เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น เพราะตราบใดที่เรายังสูบบุหรี่ แต่ไปห้ามลูกหลานไม่ให้สูบบุหรี่ ควันบุหรี่มือสองของเรายังคงไปทำร้ายลูกหลานของเราอยู่ดี” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นภัยอันตรายสำคัญที่เป็นบ่อนทำลายสุขภาพของทั้งผู้สูบและผู้ที่อยู่รอบข้างอย่างต่อเนื่อง บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร นำไปสู่โรคเรื้อรังมากมาย เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ และโรคทางเดินหายใจ ฯลฯ ขณะที่ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า แท้จริงแล้วก็ยังคงมีสารพิษและนิโคตินที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่กำลังถูกชักจูงเข้าสู่พฤติกรรมเสพติดในรูปแบบใหม่อย่างน่าเป็นห่วง คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขฯให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก ในการสนับสนุนการออกกฎหมาย ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ ทั้งในเรื่องของการควบคุมการโฆษณา การจำกัดพื้นที่สูบ และการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งเน้นขับเคลื่อนนโยบายด้านการควบคุมยาสูบ เพื่อให้พื้นที่รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100% สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการ ลด ละ เลิกบุหรี่ผ่านรูปแบบต่างๆ รวมถึงการจัดตั้ง “คลินิกเลิกบุหรี่” ที่เป็นการทำงานร่วมกันในระยะยาว เพื่อให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่อยากเลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2567 ระบุว่า กลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-59 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่เป็นประจำสูงสุด ร้อยละ 39.8 ไม่เฉพาะผู้สูบเองที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง หรือเรียกว่า “ควันบุหรี่มือสอง” จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพโรคเรื้อรังที่ตามมา เช่น มะเร็ง ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ
“ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่า แต่ละปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่เฉลี่ยปีละ 8 ล้านคน ในจำนวนนี้ พบว่า มีประมาณ 1.2 ล้านคนที่เสียชีวิตจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง สำหรับในประเทศไทย พบคนไทยเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองสูงถึงปีละ 20,688 ราย เมื่อคำนวณภาระโรคจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง โดยพิจารณาจากค่าการสูญเสียปีสุขภาวะ หรือจำนวนปีที่เสียไปเพราะสุขภาพไม่ดี พิการ หรือเสียชีวิตก่อนวัย พบว่า การได้รับควันบุหรี่มือสองทำให้คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะถึง 534,186 ปี เมื่อเปรียบเทียบการสูญเสียปีสุขภาวะทั่วโลก พบว่า ภาระโรคจากควันบุหรี่มือสองของไทยอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อยู่ที่ 117.1 ปีต่อแสนประชากร, ญี่ปุ่น 221.69 ปีต่อแสนประชากร และอังกฤษ 154.48 ปีต่อแสนประชากร” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันงดสูบบุหรี่โลก 2568 สสส. สานพลัง ธปท. จัดนิทรรศการมีชีวิต FAKE OR FRESH? - MY LIFE EXHIBITION กระชากหน้ากาก "บุหรี่ไฟฟ้า" แฉกลยุทธ์การตลาดหลอกล่อเด็ก-เยาวชน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ค. 2568 ที่ลานนิทรรศการหมุนเวียนชั้น 1 ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริ มสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดพิธีเปิดนิทรรศการมีชีวิต FAKE OR FRESH? - MY LIFE EXHIBITION ภายใต้โครงการ
'เศรษฐา' หนุนกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค.แต่ไม่ไปร่วมงาน
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ หนุนกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. ช่วยสร้างความตระหนักรู้ภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า
สธ. รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก 2566 ภายใต้แนวคิด “บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย”
กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก เนื่องจากวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
31 พ.ค.วันงดสูบบุหรี่โลก “อาจารย์มหิดล” ปลุกสังคมร่วมต้านบุหรี่ไฟฟ้ามีสารอันตรายนิโคตินทำร้ายสุขภาพคนไทย
รศ.ดร.มณฑา เก่งการพานิช หัวหน้าภาควิชาสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และหัวหน้าโครงการพัฒนานวัตกรรมเครื่องนวดเท้าเพื่อการควบคุมการสูบบุหรี่ การดื่มสุราและยาเสพติด กล่าวถึงสถานการณ์การสูบบุหรี่ทั่วโลกเนื่องในวันที่ 31 พฤษภาคม “วันงดสูบบุหรี่โลก”
โพลวันงดสูบบุหรี่โลกบอก 81.3%อยากเลิกแต่ส่วนใหญ่ทำได้ยาก!
กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจเรื่องบุหรี่ในวันงดสูบบุหรี่โลก ชี้คนติดกว่า 81.3%อยากเลิก แต่ส่วนใหญ่เลิกยาก อึ้ง! 67% ของผู้สูบไม่เคยคิดถึงภัยควันบุหรี่มือ 2 เลย

