ดัน ‘จังหวัดจัดการสุขภาวะ’ ชู ‘พลังชุมชนนำ-ท้องถิ่นหนุน’ สร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืน

“สุขภาวะ” ไม่ใช่แค่เรื่องหมอ พอช. ผนึก สสส. และเครือข่าย ปลุกพลัง “ชุมชน” ให้เป็นผู้นำ ยกระดับท้องถิ่นเป็นกลไกขับเคลื่อน หวังสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืนให้คนไทยทั้งประเทศ

นนทบุรี 0 3 กรกฎาคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมเวที “สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (ศวช.) ม.ขอนแก่น และศูนย์สนับสนุนวิชาการเพื่อการจัดการเครือข่ายภาค (ศวภ.) เพื่อระดมสมองและขับเคลื่อนนโยบาย “เสริมสร้างจังหวัดจัดการสุขภาวะชุมชน” ยกระดับบทบาทภาคประชาชนสู่ระบบสุขภาพที่ยั่งยืนของประเทศ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการ พอช.

พอช. ชู “จังหวัดจัดการตนเอง-จังหวัดบูรณาการ” สู้ความท้าทาย 25 ปี

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการ พอช. กล่าวถึง การดำเนินงานกว่า 25 ปี พอช. ด้วยความศรัทธาในแนวคิด “ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งคือทางรอดของประเทศ” แต่เมื่อมองย้อนกลับก็พบว่าการพัฒนาในระดับ “เต็มพื้นที่” ยังไปไม่ถึงจุดหมาย ด้วยจำนวนตำบลและเขตทั่วประเทศกว่า 7,752 แห่ง หากยังดำเนินงานแบบเดิม “พี่น้องรอไม่ไหว” จึงเกิดการ “ตกผลึกทางความคิด” ร่วมกับเครือข่าย “ตระกูลสอ” และภาคประชาสังคม โดยใช้ “จุดแข็ง” ของแต่ละภาคส่วนมาเชื่อมร้อยกัน เพื่อยกระดับฐานรากจากชุมชนให้ “ฟูขึ้นมา” แทนการกำหนดนโยบายจากบนลงล่าง

นายกฤษดา กล่าวต่อ พอช. จะยังคงเน้นภารกิจหลักในการ “สร้างชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง” ควบคู่ไปกับการผลักดันแนวคิดใหม่ 2 เรื่องใหญ่ คือ “จังหวัดจัดการตนเอง” และ “จังหวัดบูรณาการ” ซึ่งหมายถึง “การสร้างกลไกร่วม” ภายในจังหวัด ที่ภาคประชาชน ภาครัฐ อปท. ภาคธุรกิจ และภาคการศึกษาสามารถทำงานประสานกันบนฐานของ “ปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของประชาชน” ในพื้นที่ เป้าหมายคือการเปิดพื้นที่ให้ภาคล่างมีเสียงและบทบาทกำหนดทิศทางพัฒนาด้วยตนเอง พร้อมดึงหน่วยงานระดับบนมาเติมเต็มอย่างเหมาะสม ไม่ทับซ้อนกัน

นี่คือการเปลี่ยนผ่านสู่ยุทธศาสตร์ใหม่ของ พอช. ที่ไม่ใช่แค่เดินเดี่ยวอีกต่อไป แต่เดินไปด้วยกัน บนฐานของพลังร่วมจากชุมชนและเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อทำให้แนวคิด ‘ชุมชนเข้มแข็ง’ ไม่ใช่เพียงความฝัน แต่เป็นทางรอดที่จับต้องได้ของประเทศไทยในวันนี้ นายกฤษดา กล่าวสรุป

นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส.

‘สุขภาวะ’ ไม่ใช่แค่เรื่องหมอ! ‘ชุมชน’ คือกุญแจสำคัญ

นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ได้กล่าวถึงงบทบาทสำคัญของ “ชุมชนท้องถิ่น” ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาสุขภาวะของประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมซับซ้อนขึ้น “สุขภาวะไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพ แต่คือวิถีชีวิต เศรษฐกิจ การศึกษา และความเหลื่อมล้ำ ซึ่งไม่มีใครแก้ได้คนเดียว ต้องใช้พลังของชุมชนท้องถิ่น” นายแพทย์พงศ์เทพกล่าว และย้ำว่าความฝันของ สสส. คือการที่คนไทยมี “วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคมที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดี” ซึ่งต้องพึ่งพา “พลังของคนในพื้นที่” อย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “ชุมชนต้องนำ ท้องถิ่นต้องหนุน” ที่พิสูจน์แล้วจากภาคสนามว่า หากท้องถิ่นเป็นเพียงกลไกราชการโดยขาดพลังชุมชน การพัฒนาย่อมไม่ยั่งยืน

ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ ประธานกรรมการภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง (ซ้ายมือ)

เปิดมุมมอง “จังหวัดคือคานงัดประเทศ” ดัน “เก้าสอ” สร้างพลังร่วม

ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ ประธานกรรมการภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง (ภสพ.) กล่าวว่า “พื้นที่” และ “ประชาสังคม” คือหัวใจในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยยกแนวคิด “เก้าสอ” ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างพลังความร่วมมือระดับจังหวัด เพื่อมุ่งสู่การสร้าง “ดาวดวงเดียวกัน” คือพื้นที่ที่มีพลังในการจัดการตนเอง โดยมองว่าจังหวัดคือ “คานงัดของประเทศ” ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ยังขาดความชัดเจนว่า “ใครคือภาคประชาสังคม” ที่จะทำหน้าที่นี้ จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความเป็นหนึ่งเดียว สร้างกลไกแทนภาคประชาสังคม และมีกองทุนสนับสนุน ซึ่งเริ่มเห็นความหวังใน 5 จังหวัดนำร่อง อาทิ พัทลุงและตราด ที่ภาคประชาสังคมเริ่มเข้มแข็ง

นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่

“ทางรอดของประเทศอยู่ที่ฐานล่าง”

นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ กล่าวถึงแนวคิดสำคัญในการพัฒนา “ฐานประเทศ” ด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะระดับตำบลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต. เทศบาล) ชี้ว่าแนวคิดตำบลสุขภาวะและจังหวัดจัดการตนเองมีรากเดียวกัน คือ “ทางรอดของประเทศอยู่ที่ฐานล่าง” ดังที่ ศ.นพ.ประเวศ วะสี เคยย้ำไว้

“สำนัก 3” ของ สสส. ขับเคลื่อนชุมชนมา 15 ปี ขยายเครือข่ายกว่า 3,000 แห่ง โดยมีเป้าหมายร่วมคือ “ทำให้ชุมชนท้องถิ่นทุกแห่งมีความเข้มแข็ง” ด้วยการเอา “พื้นที่” เป็นตัวตั้ง และ “ประชาชน” เป็นเป้าหมายหลัก “เจ็ดพันกว่าแห่งขององค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศ ถ้าเราทำให้แต่ละจุดเข้มแข็ง ประเทศไทยจะมั่นคงบนฐานรากที่แข็งแรง” นายสมพรกล่าว และย้ำว่าจะเริ่มต้นเรียนรู้ไปด้วยกัน และขยายผลจาก 5 จังหวัดนำร่องไปสู่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ

นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้าง “พื้นที่กลาง” ที่ทุกภาคส่วนสามารถร่วมวางแผน พัฒนา และติดตามความก้าวหน้าของการจัดการสุขภาวะในแต่ละจังหวัดอย่างเป็นระบบ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนสุขภาวะชุมชนผ่านบทบาทที่หลากหลาย โดยเฉพาะบทบาทเชิงรุกของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ที่พร้อมจะเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ของประชาชนทุกกลุ่มในการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

//////////////

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต

นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน

“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง

คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568

ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’

จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่

เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี

ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ

ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง

หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"

คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน