ปั้น 'ป่าคาร์บอนเครดิต' บ้านถ้ำเสือ 200 ไร่ สร้าง 'ป่าหลากสี-เขาผีเสื้อ' แลนด์มาร์กใหม่ระดับโลก

ปลูก "ป่าคาร์บอนเครดิต"ชุมชนบ้านถ้ำเสือ

พลิกโฉมป่าชุมชนสู่ตำนานใหม่ ไอเดียสุดล้ำ พอช. จับมือ แบงก์กรุงเทพ พร้อมหน่วยงานภาคี ปั้น "ป่าคาร์บอนเครดิต" ที่ถ้ำเสือ จ.เพชรบุรี เนรมิตเป็น "ป่าหลากสี-เขาผีเสื้อ" ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก  "ดร.รอยล" ร่วมวางระบบน้ำบนเขา สร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ด้วยพลังชุมชน สร้างจุดเช็คอินระดับโลก โมเดล "ป่าชุมชนยั่งยืน" แห่งอนาคต

ร่วมกันปลูกป่าพื้นที่เชิงเขา

เพชรบุรี – 17 กรกฎาคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. จับมือ แบงก์กรุงเทพ พร้อมหน่วยงานภาคี ร่วมกันปลูก "ป่าคาร์บอนเครดิต" โดยมีเป้าหมายที่จะเนรมิตพื้นที่กว่า 200 ไร่ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ระดับโลก ที่ไม่เพียงสร้างคาร์บอนเครดิต แต่ยังเป็น "ป่าหลากสี" และ "เขาผีเสื้อ" แห่งใหม่ของประเทศไทย ณ ป่าชุมชนบ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ไอเดียเจ๋งไม่เหมือนใคร ปลูกป่าต้อง 'สร้างแบรนด์' สู่แหล่งท่องเที่ยว

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ พอช. และ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ แบงก์กรุงเทพ  กล่าวว่าโครงการนี้ฉีกแนวการปลูกป่าแบบเดิมๆ ที่มักปลูกต้นไม้เป็นแถวเหมือนขบวนทหาร แล้วเคลมคาร์บอนเครดิต ในการปลูกป่าบ้านถ้ำเสือครั้งนี้ ตั้งใจสร้างความแปลกใหม่และ "สร้างแบรนด์" ที่แข็งแกร่ง ด้วยการปรึกษาหารือกับพี่น้องชุมชน เพื่อให้พื้นที่นี้เป็นมากกว่าแค่ป่า แต่เป็น "พื้นที่ท่องเที่ยว" ของนักท่องเที่ยวด้วย หัวใจสำคัญคือการบริหารจัดการน้ำอย่างชาญฉลาด ด้วยการจับมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำระดับประเทศ โดยจะสูบน้ำจากแหล่งน้ำใต้ดินและจากแม่น้ำเพชรบุรีที่มาจากแก่งกระจาน ซึ่งมีน้ำตลอดทั้งปี ขึ้นไปบนยอดเขา และปล่อยให้ไหลกลับลงมาด้านล่าง คาดหวังให้เกิด "แอ่งน้ำ" ขนาดเล็กบนเขา สร้างความอุดมสมบูรณ์ และบรรยากาศที่สวยงาม

ปลูกต้นไม้สร้างป่าคาร์บอนเครดิต

เนรมิต 'ป่าหลากสี' อวดดอกหางนกยูงแดงสะพรั่ง! ดึง 'ผีเสื้อ' นับพันสู่ 'โป่งผีเสื้อ' แห่งใหม่!

ดร.กอบศักดิ์  กล่าวต่อ พื้นที่แห่งนี้จะจะกลายเป็น "ป่าหลากสี" ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกนานาพรรณ โดยจะเน้นปลูก "ต้นดอกหางนกยูงสีแดง" ที่จะออกดอกสะพรั่งแดงไปทั้งเดือน นอกจากนี้ ยังมีแผนจะปลูกต้นไม้หลากหลายสีสัน และหวังจะนำ "ดอกเพเดนเดียร์" (Peden Dia) มาปลูก เพื่อให้สวยงามไม่แพ้ญี่ปุ่น ในอนาคตอาจไม่ต้องไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว แต่ต้องมาที่นี่แทน  ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในพื้นที่ยังมีเรื่อง "ผีเสื้อ" โดยจะทำงานร่วมกับทางวิจัยแห่งชาติ เพื่อสร้าง "โป่งผีเสื้อ" (พื้นที่ที่มีแร่ธาตุและเกลือ เพื่อดึงดูดผีเสื้อ) หวังให้ฝูงผีเสื้อจากแหล่งต่างๆ เช่น เขากระโจม และบ้านกร่าง มารวมตัวกันที่ยอดเขาแห่งนี้ พร้อมดอกไม้บานสะพรั่ง กลายเป็นภาพสุดอัศจรรย์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน

พนักงานแบงก์กรุงเทพฯร่วมปลูกป่า

ดร.กอบศักดิ์  กล่าวย้ำ พื้นที่ 200 ไร่นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม และยังมีแผนขยายโครงการไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกกว่า 500 ไร่ และ 700 ไร่ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างมูลค่าทั้งในด้านคาร์บอนเครดิต การท่องเที่ยว และเป็น "จุดเช็คอิน" รวมถึง "จุดที่เป็นต้นแบบ" ในการพัฒนาป่าชุมชนทั่วไทย ภายใต้ฝีมือของชาวบ้านและพันธมิตรทุกคน  สำหรับที่นี่ชุมชนได้ร่วมกันทำ "ทางขึ้น" สู่ยอดเขาที่สวยงามกว่า 400-500 เมตร ด้วยความสูงเทียบเท่าตึก 15 ชั้น แต่ทำทางไว้อย่างดีเยี่ยม ไม่ต่างจากทางเดินในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะสร้างทางจักรยานรอบภูเขาอีกด้วย

'ดร.รอยล' ชี้ป่าถ้ำเสือลดโลกร้อน' ต้นแบบสู้ภัยพิบัติ

ดร.รอยล จิตรดอน ประธานกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) กล่าวถึง “ป่าคาร์บอนเครดิต” ที่ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จ.เพชรบุรี ว่า มีคุณประโยชน์มหาศาลในการสร้างเสถียรภาพอุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในเมืองใหญ่ที่กำลังเผชิญกับผลกระทบจาก "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" หรือ "ไคลเมทเชนจ์" อย่าง

ดร.รอยล เผยสิ่งที่หลายคนมองข้าม นั่นคือ "ป่าไม้ดอก" ในไทย โดยเฉพาะที่ จ.แพร่ และพะเยา ที่มีต้นไม้บางชนิดออกดอกสะพรั่งยาวนานนับเดือน ตั้งแต่กรกฎาคม-กันยายน ซึ่งแตกต่างจากจีนหรือญี่ปุ่นที่ดอกไม้อยู่เพียง 2 สัปดาห์ การมีป่าดอกไม้ยิ่งใหญ่ในไทย จึงเป็นความงามที่ไม่ต้องไปหาไกลถึงต่างแดน

"ปลูกป่าแบบเดิมรอดแค่ 20%” ชี้ระบบน้ำเพิ่มรอดถึง 90%

ดร.รอยล เผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า การปลูกป่าแบบทั่วไปที่ผ่านมา มีอัตราการรอดเพียงแค่ 20% เท่านั้น แต่หากมีการทำระบบน้ำควบคู่ไปด้วย อัตราการรอดจะพุ่งสูงถึง 90% กว่า ซึ่งในโครงการล่าสุดนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 80% กว่า ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อฝนตกหนัก น้ำจะถูกชะลอลงมา ช่วยให้สิ่งที่ชาวบ้านปลูกอยู่ข้างล่างได้รับประโยชน์และเติบโตได้ดีขึ้น   การดำเนินโครงการนี้ เป็นการเดินตามรอยพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และประเทศไทย ซึ่งเป็น "เมืองของพ่อ" ได้รับผลกระทบจากไคลเมทเชนจ์ต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด (ไทยบวกลบแค่ 20% ขณะที่ออสเตรเลีย สหรัฐฯ จีน เจอฝนเพิ่ม-หาย 3 เท่า) และหากยังคงเดินหน้าในแนวทางนี้ต่อไป ประเทศไทยก็จะกลับมามีสภาพอากาศที่เสถียรยิ่งขึ้น คือบวกลบเพียง 10% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลก

พอช. ร่วมกันปลูกต้นไม้ชุมชนบ้านถ้ำเสือ

พอช.ยัน 'ถ้ำเสือ' หัวใจชุมชน 'ป่าคือปอด' ประเทศ

นายวิชัย นะสุวรรณโน รองผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.  กล่าวยืนยันว่า พอช. ได้ทำงานร่วมกับพี่น้องชุมชนแห่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และพบว่า "ป่า" คือหัวใจหลักที่ชาวบ้านอนุรักษ์และดูแลมาอย่างยาวนาน ในการร่วมมือครั้งสำคัญนี้ พอช., ธนาคารกรุงเทพ, กรมป่าไม้ และหน่วยงานท้องถิ่น เข้ามาร่วมกันปลูกและอนุรักษ์ป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์  ป่าแห่งนี้จะเปรียบเสมือน "ปอด" ของทั้งคนในพื้นที่และคนไทยทั้งประเทศ ช่วยให้สภาพภูมิอากาศสมดุล และทุกคนมีอากาศบริสุทธิ์ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

นายวิชัย กล่าวต่อ  "ผู้นำชุมชน" ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ที่มีความเข้มแข็งอย่างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มั่นใจว่า โครงการนี้จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและเกิดความยั่งยืนในพื้นที่สูงมาก ต้องการให้ป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ เป็น "แหล่งท่องเที่ยว" และ "แลนด์มาร์ก" สำคัญของจังหวัดเพชรบุรีในอนาคต  พอช. ในฐานะหน่วยงานหนึ่งที่เข้ามาสนับสนุน รู้สึกดีใจและขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายที่ร่วมมือกัน ทำให้ป่าแห่งนี้กลับมาอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

'ป่าชุมชน' เรื่องที่ชุมชนจับต้องได้ภาคีเครือข่ายคือพลังสำคัญ

นายสุเทพ พิมพ์ศิริ หรือ "ลุงน้อย" ประธานธนาคารต้นไม้บ้านถ้ำเสือ  เผยความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างสุดซึ้ง ที่ได้รับความอนุเคราะห์และการหนุนเสริมจาก พอช. และธนาคารกรุงเทพ ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและศักยภาพของชุมชนในการพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว "เรื่องของการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ชุมชนสามารถจับต้องได้" แต่กระบวนการพัฒนาต่างๆ นั้น หากปราศจากภาคีเครือข่ายที่มาหนุนเสริม ก็เชื่อเหลือเกินว่าชุมชนคงไม่สามารถไปถึงเป้าหมายได้ วันนี้พลังของชุมชนเต็มเปี่ยม

นายสุเทพ พิมพ์ศิริ

เมื่อเห็นคณะจากกรุงเทพฯ และสมาคมฯ เดินทางมาถึง เสียงแรกที่พี่น้องในชุมชนพูดออกมาคือ "เขามากันแล้วเขามากันแล้ว" ซึ่งเป็นคำพูดที่สะท้อนถึงความรู้สึกของชาวบ้าน ที่รับรู้ได้ว่า การที่พวกเขาพยายามทำเรื่องสิ่งแวดล้อมและพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนนั้น พวกเขาจะไม่ต้องเดินคนเดียวอีกต่อไป "ลุงน้อย"  เล่าถึงวินาทีสุดประทับใจ ในตอนท้าย

ในการปลูกป่าครั้งนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมีส่วนร่วมของ "พี่น้องชุมชนบ้านถ้ำเสือ" ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จ ต้นไม้ที่ปลูกในปีนี้ แม้จะเริ่มต้นที่สิบต้น ร้อยต้น ก็จะกลายเป็นพันต้น และหมื่นต้นได้ด้วย "มือของชาวบ้าน"  เพราะชุมชนมีความรักและความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะให้ที่นี่เป็น "ป่าชุมชนที่แท้จริง" ซึ่งจะนำมาซึ่งสมุนไพร เห็ด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนในระยะยาว

ปลูกต้นไม้บนภูเขาเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ของป่า