
มหกรรมวิถีพลังไท 3: พลังองค์กรชุมชน เปลี่ยนประเทศไทย" ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่
ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ – งาน "มหกรรมวิถีพลังไท 3: พลังองค์กรชุมชน เปลี่ยนประเทศไทย" (Community Power : Transforming Thailand) จัดโดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 โดยวันสุดท้ายจัดขึ้นภายใต้ธีม "สานพลังภาคี สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ตอกย้ำถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศจากฐานราก ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ

เสวนาหัวข้อ “พลังจตุภาคี สร้างชุมชนเข้มแข็ง เปลี่ยนประเทศไทย”
‘จตุภาคี’ ระเบิดพลัง! ชำแหละสารพัดวิกฤต ‘พม.’ ชี้คนคือหัวใจชุมชนเข้มแข็ง ‘SME’ ฟันธง ‘หนี้ครัวเรือน-สินค้าจีน’ ตัวฉุดเศรษฐกิจ ‘ม.ทักษิณ’ ลั่น! การเมืองอ่อนแอ ต้องพึ่ง ‘พลังรากหญ้า’ ขับเคลื่อนประเทศ
เวทีเสวนาหัวข้อ “พลังจตุภาคี สร้างชุมชนเข้มแข็ง เปลี่ยนประเทศไทย” ในมหกรรมวิถีพลังไท 3 สร้างความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) รับหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ส่วนวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นางสาวบุษยา ใจสว่าง ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม, ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์ SME ไทย ผู้แทนภาคธุรกิจ และ รศ.ดร.ณฐพงษ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้แทนสถาบันการศึกษา มาร่วมไขความหมายของ "ชุมชนเข้มแข็ง" บทบาทภารกิจ และข้อเสนอแนะทั้งในเชิงรัฐบาล นโยบาย และภาคี

‘พม.’ ชี้ปัญหาหนัก สังคมสูงวัย-ภัยพิบัติ-ยาเสพติด รุมเร้า ย้ำ ชุมชนจะเข้มแข็งครอบครัวต้องอบอุ่น
นางสาวบุษยา ใจสว่าง ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงประเด็นด้วยภาพรวมสถานการณ์สังคมไทยที่ชัดเจน เผยปัญหาผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น สวนทางกับเด็กที่ลดลง ส่งผลต่อระบบสวัสดิการและงบประมาณภาครัฐอย่างหนัก ซ้ำเติมด้วยวิกฤตสภาพภูมิอากาศ น้ำท่วม โลกร้อน ภัยพิบัติ ปัญหายาเสพติด ครอบครัว และสแกมเมอร์ ล้วนส่งผลกระทบต่อ "กลุ่มเปราะบาง" ในชุมชน
นางสาวบุษยา ย้ำ "ความหมายของชุมชนเข้มแข็งไม่ได้หมายถึงถนน ไฟฟ้า! แต่หมายถึงการมีครอบครัวที่อบอุ่น มีระบบการดูแล พึ่งพาตนเอง และการรวมพลังของชุมชนในการจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ!" พร้อมชี้ว่าอาสาสมัครและผู้นำชุมชนคือฐานรากสำคัญ! พม. จึงเร่งสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่าน 6 ประเด็นหลัก! ตั้งแต่ สร้างบทบาทภารกิจร่วมกัน (หุ้นส่วนการพัฒนา), หนุนเสริมเครือข่ายกว่า 3 แสนอาสาสมัครทั่วประเทศ, พัฒนาระบบสวัสดิการชุมชน (กองทุน พอช. และ พรบ.สวัสดิการสังคม พม.), เสริมความเข้มแข็งสถาบันครอบครัว, ขับเคลื่อนนโยบาย/กฎหมาย (เช่น พรบ.ครอบครัว) และสนับสนุนงบประมาณกองทุนต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย

‘SME’ เตือนหนี้ครัวเรือนพุ่ง-สินค้าจีนทะลัก-นวัตกรรมต่ำ โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจไทย 10 ปีไม่เปลี่ยน
ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์ SME ไทย ได้ตอกย้ำ ถึงบทบาทของ SME ในการส่งเสริมชุมชน โดยเฉพาะการ "สร้างรายได้" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน! ชี้ชุมชนต้องเปิดใจและปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างช่องทางหารายได้เพิ่ม
ดร.ณพพงศ์ กล่าวถึง ความท้าทายที่ SME ไทยต้องเผชิญมาตลอด 10 ปี คือ หนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ของรายได้ ฉุดกำลังซื้อ การแข่งขันจากสินค้าจีนราคาถูก! ต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน! และปัญหาใหญ่สุดคือ "การขาดนวัตกรรมและเทคโนโลยี" (ช่องทางการขายออนไลน์อย่าง TikTok, Lazada) รวมถึงการทำบัญชีไม่เป็นระบบ "เมื่อสิบปีที่แล้วก็พูดเรื่องเดียวกัน แต่ปีนี้ชุมชนเริ่มนำนวัตกรรมมาใช้บ้างแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร"
ดร.ณพพงศ์ ย้ำ สมาพันธ์ฯ พร้อมร่วมมือกับ พอช. หนุนชุมชนและ "ต่อปลั๊กให้คนรุ่นใหม่" มาช่วยด้านการตลาดและเทคโนโลยี

‘อธิการบดี ม.ทักษิณ’ ฟันธง การเมืองอ่อนแอ ต้องอาศัยพลังประชาสังคม สร้างชุมชน 3 ระดับ สู่การเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง
รศ.ดร.ณฐพงษ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ในฐานะผู้แทนสถาบันการศึกษา ยอมรับตรงไปตรงมาว่า "สังคมการเมืองของไทยอยู่ท่ามกลางความอ่อนแอ การเมืองไร้ความหวัง ระบบประชาธิปไตยถอยห่างออกไปเรื่อยๆ" แต่ชี้ว่า "ชุมชน-สังคม" คือพื้นที่สำคัญที่ค้ำจุนประชาธิปไตย ต้องอาศัยภาคชุมชนประชาสังคมที่เป็นพลังขับเคลื่อนสังคม
รศ.ดร.ณฐพงษ์ ย้ำ นิยามชุมชนเข้มแข็งไว้ 2 ประเด็นหลักคือ "การจัดการตนเองได้ และการฝ่าวิกฤตปัญหาของตนได้!" พร้อมเสนอแนวคิดการขับเคลื่อน 3 ระดับ คือ ระดับพื้นที่, ระดับนโยบายท้องถิ่นและจังหวัด และระดับโครงสร้าง/นโยบายแห่งชาติ (เช่น การแก้กฎหมายที่ล้าสมัย) การพัฒนาต้องอาศัยความร่วมมือ "3 รุ่น" ทั้งใหม่ กลาง อาวุโส เพื่อผสมผสานจุดแข็ง! โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับเทคโนโลยี จะเข้ามาช่วยด้านการตลาดได้อย่างชัดเจน ดังตัวอย่างที่ทะเลน้อย! ชี้บทบาทภาคีต้องเป็น "สะพานเชื่อม" นำวิทยาศาสตร์ วิจัย นวัตกรรมสังคม มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเน้นการพัฒนาคนที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละชุมชน

ประกาศทิศทางการขับเคลื่อนงานพัฒนา
ประกาศทิศทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาของขบวนองค์กรชุมชนและภาคี
ปฏิญญาแจ้งวัฒนะ เรื่องทิศทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาของขบวนองค์กรชุมชนและภาคี เพื่อให้การขับเคลื่อนงานพัฒนาของขบวนองค์กรชุมชนและภาคี บรรลุเป้าหมายจัดการตนเองได้อย่างยั่งยืน มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและสร้างระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง จึงมีแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาร่วมกัน ภายใต้ 5 ร่วม ดังนี้
- ร่วมสร้างองค์กรชุมชน ซึ่งเป็นสังคมฐานรากที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแตกต่างหลากหลายเฉพาะถิ่นให้มีความเข้มแข็ง ส่งเสริมให้แกนนำมีความรู้ และตื่นตัวในสิทธิของชุมชน และความเป็นพลเมือง เพื่อลุกขึ้นมาร่วมพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างมีส่วนร่วม
- ร่วมเปิดพื้นที่กลาง แห่งการพัฒนาในทุกระดับเพื่อให้ชุมชนและภาคีทุกภาคส่วน มาทำงานร่วมกันอย่างเท่าเทียม ภายใต้กลไก กติกาการทำงานที่ยืดหยุ่น มีส่วนร่วมและมีธรรมาภิบาล
- ร่วมกำหนดอุดมการณ์ เป้าหมายและทิศทางการพัฒนา โดยถือหลักสิทธิและประโยชน์ของชุมชนเป็นสำคัญ เพื่อให้ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดการพัฒนาในทุกระดับ สร้างรูปธรรมและองค์ความรู้ของการพัฒนา นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย และการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นในที่สุด
- ร่วมมือกับภาคีพัฒนาในทุกระดับ ก่อให้เกิดการบูรณาการทุนด้านต่าง ๆ ทั้งความรู้ ข้อมูล งบประมาณ และทุนมนุษย์ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- ร่วมนำหลักการทำงาน ที่เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนหลักแห่งสังคมคุณธรรม อันเป็นรากฐานที่มั่นคงของสังคมมาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างจริงจัง


งาน "มหกรรมวิถีพลังไท 3" ได้ปิดลงอย่างเป็นทางการด้วยพิธีปิดงานที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมาย ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมกันบันทึกภาพประวัติศาสตร์ความร่วมมือ ปิดงานอย่างน่าประทับใจ ตอกย้ำถึงความสำเร็จของมหกรรมครั้งนี้ ที่ได้รวบรวมพลังและความมุ่งมั่นจากทุกภาคส่วน เพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในการ "เปลี่ยนประเทศไทย" ด้วยพลังของคนในชุมชนอย่างแท้จริง
“คิดถึงงานพัฒนา คิดถึง พอช.”


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง
คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่
เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี
ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ
ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง
หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"
คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน


