คุณอาจเคยชินกับเสียงดังของเครื่องจักรในสายการผลิต หรือแม้แต่เสียงลมจากระบบนิวเมติกส์ แต่รู้หรือไม่ว่า “ความดันของเสียง” (Sound Pressure) ไม่ได้จบแค่เรื่องของความรำคาญ เพราะมันคือตัวเลขสำคัญที่สามารถบอกได้เลยว่าระบบของคุณมีปัญหาหรือไม่ ทั้งด้านความปลอดภัย เครื่องจักร และสุขภาพของพนักงาน
เสียงคือพลังงานรูปแบบหนึ่ง และความดันของเสียงคือสิ่งที่เราวัดได้ ยิ่งแรง ยิ่งส่งผลร้าย ถ้าไม่ควบคุมให้ดีตั้งแต่ต้น

- ความดันของเสียง = สัญญาณเตือนความผิดปกติของเครื่องจักร
เสียงแปลกๆ ที่คุณได้ยินในโรงงานอาจดูไม่สำคัญในตอนแรก แต่ในความจริง มันอาจเป็นผลจากความดันของเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปผิดจากค่ามาตรฐาน เช่น
- มอเตอร์เริ่มสึกหรอจนเกิดแรงสั่น
- วาล์วลมรั่วจนเกิดเสียงลมสูง
- แบริ่งใกล้พัง ทำให้เกิดแรงสั่นและเสียงสั้นถี่
ความดันของเสียงที่สูงผิดปกติจึงเป็นเหมือนเครื่องมือตรวจจับปัญหาแบบไม่ต้องหยุดไลน์การผลิต เพียงใช้ Sound Level Meter วัดในจุดเสี่ยงเป็นประจำ ก็ช่วยให้คุณรู้ได้ก่อนที่เครื่องจะพังจริง
- ระดับความดันของเสียง ส่งผลต่อคุณภาพการทำงานของพนักงานโดยตรง
พนักงานที่ต้องทำงานท่ามกลางเสียงดังเกิน 85 dB(A) ต่อเนื่องทุกวัน จะเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินถาวร และมีโอกาสเกิดความเครียดสะสมจากเสียงรบกวน
ความดันของเสียงจึงไม่ใช่แค่ตัวเลขของระบบวิศวกรรม แต่สะท้อนคุณภาพชีวิตของแรงงานอย่างชัดเจน การติดตั้งฉนวนกันเสียง, ปรับผังไลน์การผลิต, หรือใช้วัสดุดูดซับเสียงจึงเป็นสิ่งที่ควรลงทุนเพื่อควบคุมระดับเสียงให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายแรงงาน เพราะเสียงที่ไม่เห็น แต่ได้ยินทุกวัน อาจสร้างต้นทุนระยะยาวให้ธุรกิจโดยไม่รู้ตัว
- ควบคุมความดันของเสียง = ลดต้นทุนซ่อมบำรุงและยืดอายุเครื่องจักร
เสียงที่เกิดจากแรงดันผิดปกติอาจมาจากการที่อุปกรณ์ทำงานหนักเกินไป เช่น เครื่องคอมเพรสเซอร์ที่ต้องเร่งกำลังเพื่อชดเชยความรั่วของท่อ ส่งผลให้เกิดเสียงสูงและแรงสั่นสะเทือน หากละเลยความดันของเสียง คุณอาจพลาดโอกาสป้องกันปัญหาล่วงหน้า ทำให้ต้องจ่ายค่าซ่อมก้อนใหญ่ หรือเสียเวลาในการหยุดไลน์ผลิตโดยไม่จำเป็น
ส่วนนี้ทำให้การติดตามความดันของเสียงอย่างเป็นระบบ ถือเป็นการช่วยวางแผนบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) ได้แม่นยำขึ้น และลดความเสียหายแบบปัจจุบันทันด่วน
ในอุตสาหกรรม การได้ยินเสียงที่ไม่ควรได้ยิน คือโอกาสที่คุณจะปรับปรุงก่อนเกิดวิกฤต เพราะความดันของเสียงเป็นตัวชี้วัดที่แม่นยำและใช้ต้นทุนไม่สูง แต่ช่วยประเมินสุขภาพของเครื่องจักรและความปลอดภัยของแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่ารอให้เสียงในโรงงานกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะเสียงที่แรงเกินไป อาจหมายถึงต้นทุนที่สูงเกินไปเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
PM 2.5 พุ่ง ฝาชีครอบ เมืองกรุงและอีก 2 จังหวัด
นักวิชาการ มีคำตอบ ทำไม ‘กทม.-สมุทรปราการ-สมุทรสาคร’ มีค่าฝุ่นPM 2.5 สูงในช่วงฤดูหนาว ชี้ภาพชัดเป็นลักษณะฝาชีครอบพื้นที่บริเวณแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม
โฆษกรัฐบาล เผยครึ่งปีแรก 67 จำนวนโรงงานเปิดใหม่ มีมากกว่าปิดกิจการ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันตัวเลขจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2567 รวมทั้งสิ้น 7 เดือน ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 31 กรกฎาคม 2567 ทั้งจำนวนโรงงาน ตัวเลขเงินลงทุน และ ตัวเลขการจ้างงาน มีตัวเลขเป็นบวกทั้งสิ้น
พบแคดเมียมอีกเพียบ! แอบซุกทั่วโรงงาน โดนอายัดทั้งหมดพร้อมรถบรรทุกอีก 2 คัน
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ดร.สุบรรณ มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด
โฆษก มท. เผยยังไม่ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ โรงงานซุกกากแคดเมียม ห้ามเข้าพื้นที่ 90 วัน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่จังหวัดสมุทรสาครโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร พบว่ามีกากแคดเมียม และกากสังกะสี
เจาะข้อดีของเครื่องปั่นไฟนำเข้า ไอเทมที่ต้องมีทุกโรงงาน
การมีเครื่องปั่นไฟที่มีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท เพราะนอกจากจะใช้ในงานก่อสร้าง ซ่อมแซม และการทำงานของเครื่องจักรแล้ว ยังต้องอาศัยเครื่องปั่นไฟในกระบวนการผลิตจำนวนมากอีกด้วย


