
ในอดีต ชาวบ้านตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ต้องใช้ชีวิตอย่างไม่มั่นคงมายาวนาน เพราะพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ ทำให้พวกเขาถูกมองว่าเป็น "ผู้บุกรุก" ไม่มีสิทธิในที่ดิน ไม่มีบ้านที่มั่นคงถาวร และขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
ยิ่งไปกว่านั้น การเข้ามาของนายทุนที่ใช้ระบบเกษตรพันธสัญญา ทำให้พื้นที่ป่าถูกบุกรุกเพื่อขยายไร่ข้าวโพดอย่างหนัก ชาวบ้านต้องพึ่งพาสารเคมีและปุ๋ยจากนายทุน และมีรายได้น้อยเพราะราคาผลผลิตต่ำ รายได้จากการทำเกษตรจึงไม่พอเลี้ยงชีพ

ชาวบ้านไม่ได้ยอมแพ้ พวกเขารวมตัวกันเพื่อขอสิทธิ์ในการอยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหลังจากความพยายามหลายปี ในที่สุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 พวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนเพื่อการอยู่อาศัยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่นำมาสู่ โครงการบ้านมั่นคงชนบท

เดิมที บ้านเรือนส่วนใหญ่สร้างจากวัสดุที่ไม่คงทน เช่น ไม้เนื้ออ่อนและใบจาก ซึ่งต้องซ่อมแซมบ่อยครั้งและไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงมรสุม นอกจากนี้ ครอบครัวที่ขยายใหญ่ขึ้นก็ไม่สามารถสร้างบ้านใหม่ได้ ทำให้หลายครัวเรือนต้องอยู่รวมกันอย่างแออัด

เมื่อได้รับงบประมาณจากโครงการบ้านมั่นคง ชาวบ้านจึงใช้โอกาสนี้เปลี่ยนบ้านให้แข็งแรงขึ้น พวกเขาเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่คงทนกว่า เช่น หลังคากระเบื้อง และผนังไม้ฝาเฌอร่า ทำให้บ้านปลอดภัยและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น นอกจากนี้ โครงการยังช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรวม ทั้งการสร้างถนนหนทางให้สัญจรสะดวก และจัดระเบียบพื้นที่ให้สะอาดเรียบร้อย

นายเอกสิทธิ์ วงค์ใหม่ ประธานคณะกรรมการโครงการบ้านมั่นคงชนบทตำบลบ้านทัพ เล่าว่า “ชาวบ้านก็ได้มีการรวมตัวกันขออนุญาตใช้ที่ดินในพื้นที่ป่าสงวน มีการจัดทำ MOU ร่วมโครงการพื้นที่ขยายผลการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีในการแก้ปัญหาที่ดินผ่านกลไกคณะทำงานโครงการหลวงระดับอำเภอ และขับเคลื่อน คทช. ในการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ร่วมกับ SDF และ อำเภอแม่แจ่ม และได้รับมอบโครงการแก้ปัญหาตามมาตรา 19 ในวันที่ 24 เมษายน 2566 ครอบคลุมทั้งพื้นที่ตำบล ให้จัดทำความก้าวหน้าของกระบวนการขออนุญาตใช้ที่ดินแต่ละประเภท และเอกสารหลักฐานประกอบเพื่อยืนยันว่าสามารถดำเนินโครงการบ้านมั่นคงได้”

หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ชาวบ้านร่วมกันตัดสินใจจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นของแต่ละครัวเรือน และนำเงินส่วนที่เหลือมาสร้าง "บ้านเอื้ออาทร" ให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้ยากไร้ในชุมชนถึง 4 หลัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความห่วงใยที่เข้มแข็ง

นอกจากเรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ชาวบ้านยังร่วมกันสร้างความมั่นคงในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมด้วยการตั้งกลุ่มอาชีพต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้ นอกเหนือจากการทำไร่ข้าวโพด พวกเขาส่งเสริมการ แปรรูปผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น การปลูกกาแฟในป่า การทอผ้าตีนจก และการเลี้ยงสัตว์

ในด้านสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านได้จัดกิจกรรม เก็บขยะในชุมชน และตั้งกลุ่มกองทุน "ขยะแลกไข่" เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจัดการขยะที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของป่า ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของชุมชน

จากความลำบากในวันนั้น ทำให้ได้ผ่านเรื่องราวที่มีทั้งคราบน้ำตา ความเหนื่อยล้า ความท้อแท้มาไม่น้อย แต่มันก็ได้สร้างคนในชุมชนมีความแข็งแกร่ง มีจิตสำนึก มีส่วนร่วม มีความสามัคคี จนก่อเกิดเป็นพลังในการต่อสู้เพื่อให้ตัวเองและลูกหลานมีที่อยู่อาศัยแข็งแรง สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ มีอาชีพที่มั่นคงภายใต้ทุนที่เรามี จนบังเกิดรอยยิ้มแห่งความสุขของคนบ้านทับในวันนี้
เรื่องโดย นายเอกสิทธิ์ วงค์ใหม่
ประธานคณะกรรมการเมืองโครงการบ้านมั่นคงชนบทตำบลบ้านทับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดอยอินทนนท์ยังยะเยือก 'เหมยขาบ' รัว 8 วันติด
สถานที่ท่องเที่ยวดังที่ยอดดอยอินทนนท์ ยังคงคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสอากาศหนาวเย็นช่วงนี้ต่อเนื่อง มีนักท่องเที่ยวสะสมเช้านี้กว่า 6,300 คน
เชียงใหม่รวมพลัง น้ำใจทั่วไทยหลั่งไหล ส่งของช่วยน้ำท่วมภาคใต้กว่า 20 ตัน
ท่าอากาศยานเชียงใหม่-ไทยแอร์เอเชีย ระดมคนเมืองเหนือร่วมสมทบสิ่งของแน่นตลอด 4 วัน โครงการ “รวมใจเชียงใหม่ช่วยหาดใหญ่” ส่งต่อความห่วงใยสู่ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้แล้วกว่า 20 ตัน
กองกำลังผาเมือง เด็ดหัวแก๊งยานรก 8 ศพ ในช่วงเกือบ 2 เดือน ยึดยาบ้า 49 ล้านเม็ด
กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้าคาด่านตรวจผาหงส์ 1,500,000 เม็ด ในพื้นที่ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
กองกำลังผาเมือง ปะทะแก๊งขนยาเสพติดชายแดนเชียงใหม่ ยึดยาบ้า 5 แสนเม็ด
กองกำลังผาเมือง ปะทะกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า จำนวน 500,000 เม็ด ในพื้นที่ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
หนาวจัด! ยอดดอยอินทนนท์ เกิดปรากฏการณ์เหมยขาบแรก ฤดูหนาวปี 2568 แล้ว
ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิอยู่ที่ 5 องศา อากาศอยู่ในเกณฑ์หนาวจัด ในขณะที่อุณหภูมิยอดหญ้า วัดได้ เพียง 0.7 องศา
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน


