30 ปี ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 พร้อมเดินหน้านำไทยสู่โลกสีเขียวอย่างยั่งยืน

กระทรวงพลังงาน – พพ. – กฟผ.  พร้อมหน่วยงานพันธมิตร เผยผลสำเร็จ 30 ปี ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 40,000 ล้านหน่วย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  22 ล้านตัน พร้อมร่วมเดินหน้าพัฒนาฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 โฉมใหม่ มั่นใจคูณ 2 เพื่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานครบรอบ 30 ปี โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ด้วยรัก(ษ์) และผูกพัน โดยมีนางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ดร.นรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ.

พร้อมทั้งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน ผู้บริหารหน่วยงานพันธมิตรโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ร่วมงาน ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยว่า กระทรวงพลังงานได้ยกระดับและพัฒนาแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ โดยมุ่งเน้นมาตรการเชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการอนุรักษ์พลังงาน รองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี รูปแบบการใช้พลังงาน ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและสร้างการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2050  โดยโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ กฟผ. ดำเนินการตลอดระยะเวลา 30 ปี รวมถึงโครงการฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงของ พพ. เป็น 2 โครงการ

ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นับเป็นโครงการต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคอาเซียน และระดับสากล ตอบสนองนโยบายภาครัฐ สร้างผลลัพธ์การประหยัดพลังงานให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล กระทรวงพลังงานจึงให้นโยบายในการควบรวมฉลากทั้ง 2 ชนิดเป็นรูปแบบเดียวกัน สร้างความมั่นใจคูณ 2 โดยยึดการสร้างคุณค่าและเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น ซึ่งฉลากเบอร์ 5 ใหม่จะครอบคลุม 45 ผลิตภัณฑ์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เริ่มวางจำหน่าย 16 มกราคม 2569 เป็นต้นไป

ดร.นรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ. เสริมว่า เป็นเวลากว่า 30 ปี ตั้งแต่ กฟผ. เริ่มดำเนินโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5  มุ่งยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้าควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมามีการปรับรูปแบบฉลากเบอร์ 5 ให้แสดงประสิทธิภาพมากขึ้นเป็น เบอร์ 5 “3 ดาว” และเบอร์ 5 สูงสุด “5 ดาว” ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากเบอร์ 5 ทั้งสิ้น 27 ผลิตภัณฑ์ กว่า 520 ล้านดวง ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 40,000 ล้านหน่วย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) กว่า 22 ล้านตัน เทียบเท่าปลูกต้นไม้กว่า 1,720 ล้านต้น (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2568) และ กฟผ. วางแผนดำเนินโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขยายผลไปยังบ้าน อาคาร โรงเรียน และโรงแรม ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ร่วมผลักดันโครงการฯ ให้ประสบผลสำเร็จ และการร่วมมือกับ พพ. ในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาฉลากเบอร์ 5 ใหม่ ไปสู่การสร้างโลกสีเขียวที่ยั่งยืน

ภายในงานมีพิธีมอบโล่ขอบคุณหน่วยงานพันธมิตรโครงการฉลากเบอร์ 5 ของ พพ. และ กฟผ. รวม 54 ราย นิทรรศการผลสำเร็จ 30 ปี ฉลากเบอร์ 5  และเสวนาในหัวข้อ “ความรัก(ษ์) และผูกพัน ที่มีต่อฉลากเบอร์ 5” โดยพันธมิตรโครงการฯ ด้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ บริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงชุดนักเรียนประหยัดพลังงาน บริษัท น้อมจิตต์ แมนนูแฟกเจอร์ริ่ง จำกัด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชวนทำบุญ อิ่มใจ ร้านกาชาด กฟผ. จัดเต็มสอยดาวฉลากเบอร์ 5 ชมนิทรรศการแสงแห่งพระเมตตา สถิตย์ในใจประชานิจนิรันดร์ รำลึก’พระพันปีหลวง’

เริ่มแล้วงานกาชาดประจำปี 2568 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ร้อยดวงใจปวงประชา น้อมสำนึกพระเมตตา องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย”

กฟผ.ลั่นหากไม่มี SMR เป็นทางเลือกต้นทุนค่าไฟพุ่งสูงแน่

กฟผ.รับพีดีพีล่าช้าแต่ไม่ห่วง ยัน SMR ไม่ใช่โครงการระยะสั้นที่ต้องรอจังหวะรัฐบาล แต่เป็นการลงทุนเชิงโครงสร้างที่ต้องเตรียมการ 10 ปีขึ้นไป ย้ำสิ่งสำคัญคือการยอมรับของสังคมที่ต้องอาศัยการสื่อสารและความต่อเนื่องของนโยบาย ลั่นหากไม่มี SMR เป็นทางเลือก ต้นทุนค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“เทด้า” คว้ารางวัล “คู่ค้าดีเด่นจาก กฟผ.” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2

นายครองเกียรติ์ อุดมรัตนชัยกุล (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทด้า จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

‘พลังงาน’ ยันไม่มีส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาตั้งแต่ก.ค. 2568

พลังงานลั่นยึดความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ย้ำชัดไทยไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแจงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ผู้ค้าน้ำมันจะต้องรายงานข้อมูลปริมาณการส่งออกให้กรมธุรกิจพลังงานทราบ หากฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานข้อมูลเท็จจะมีโทษตามกฎหมาย

มะม่วงหิมพานต์กับปาฏิหาริย์เรื่องราวแห่งแรงใจจากบ้านหาดไก่ต้อย จังหวัดอุตรดิตถ์

เรื่องราวของ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย จังหวัดอุตรดิตถ์ คือบทพิสูจน์ชั้นดีว่า “ความไม่ยอมแพ้” สามารถเปลี่ยนผืนดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้