ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ

ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง โศกนาฏกรรมที่เป็นจุดเปลี่ยน วันที่ 23 เมษายน 2547 เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ทำลายบ้านเรือนกว่า 717 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องกระจัดกระจายและไร้ที่พักพิง

ทางเลือกใหม่ หลังเหตุการณ์ รัฐบาลและภาคีเครือข่ายเสนอ 2 แนวทางแก้ไข คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร (เลือก 60%) และ โครงการบ้านมั่นคง (เลือก 40%) ซึ่งชาวบ้านที่เลือก "บ้านมั่นคง" มีความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการและช่วยเหลือกันเองของชุมชน

รากฐานความมั่นคง

แกนนำชุมชนและเครือข่ายได้ร่วมกันจัดกระบวนการใหม่ ตั้งแต่การสำรวจข้อมูลครัวเรือน การจัดตั้งองค์กร ไปจนถึงการจัดหาที่ดินอย่างถูกต้อง  มีการจัดตั้ง "สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนสวนพลู จำกัด" (ปี 2548) โดยมีสมาชิกเริ่มต้น 330 ราย เพื่อบริหารจัดการเงินออมและเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนโครงการ

สหกรณ์ฯ ได้ดำเนินการ เช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์โดยตรง 30 ปี บนพื้นที่ 6 ไร่เศษ ในอัตราผ่อนปรน (9 บาท/ตารางวา/เดือน) ซึ่งสร้างความมั่นคงทางกฎหมายอย่างแท้จริง  ชุมชนได้รับสินเชื่อและงบสนับสนุนจาก พอช. โดย คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบบ้านเอง ด้วยความช่วยเหลือจากสถาปนิกชุมชน ทำให้ได้บ้านหลายรูปแบบ (2 ชั้น, 2.5 ชั้น, 3 ชั้น หรือห้องชุด) ที่สอดคล้องกับกำลังทรัพย์และการใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัว

"บ้านที่มากกว่าบ้าน"ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน

ปัจจุบัน บ้านมั่นคงสวนพลูเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นระบบสวัสดิการและแหล่งเรียนรู้ที่ครบวงจร

การเงินและสวัสดิการ สหกรณ์ฯ มีทุนหมุนเวียนกว่า 15 ล้านบาท และ ชำระหนี้ พอช. หมดแล้ว มีการบริหารเงินทุนอย่างยั่งยืน เช่น ลงทุนในสลากออมสิน และปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่สมาชิกเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพ จัดตั้ง กองทุนสวัสดิการชุมชน และกองทุนย่อย 10 กอง เพื่อดูแลสมาชิกในทุกมิติ ทั้งการศึกษา สุขภาพ และผู้สูงอายุ

สิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหาร สวนผักคนเมือง มีการจัดตั้ง "สวนผักชุมชน" ที่เป็นมากกว่าพื้นที่ปลูกผัก แต่เป็น ศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร และแหล่งเรียนรู้การเกษตรในเมือง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นวัตถุดิบหลักในการทำ "ครัวกลาง" ช่วงวิกฤตโควิด-19 การจัดการขยะ มีระบบจัดการขยะที่ชัดเจน เช่น คัดแยกขยะอินทรีย์ทำปุ๋ย และนำขยะรีไซเคิลไปขายเข้ากองทุนสวัสดิการ

การดูแลทุกช่วงวัย ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กอย่างมีมาตรฐาน ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ผู้สูงอายุและสุขภาพ มี ศูนย์สุขภาพชุมชน และ อสส. คอยดูแลสุขภาพ มีการจัดกิจกรรมและสวัสดิการเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุในชุมชนอย่างสม่ำเสมอ

ศูนย์เรียนรู้และเครือข่ายความร่วมมือ

ชุมชนสวนพลูได้ยกระดับตนเองเป็น "ศูนย์เรียนรู้งานบ้านมั่นคง" ที่ต้อนรับคณะศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในเมืองใหญ่เป็นไปได้จริง บทบาทการเป็นครู สมาชิกชุมชนทำหน้าที่เป็น "ครู" ถ่ายทอดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจ

ความร่วมมือกับภาคี มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานสำคัญอย่างต่อเนื่อง เช่น พอช. ในการสนับสนุนโครงการ, สสส. ในการสนับสนุนทุนและองค์ความรู้ "สวนผักคนเมือง" เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะที่ดี, และกรมธนารักษ์

ความสำเร็จของสวนพลูคือการรวมพลังเล็กๆ ให้กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต สร้างความมั่นคง และเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาให้กับเมืองอื่น ๆ

เรื่อง : พรทิพย์ วงจอม 

เรียบเรียง : ศิริพร ฉุนตู

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต

นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน

“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง

คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568

ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’

จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่

เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี

หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"

คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน

แหลมโพธิ์ จากปัญหาสู่การพัฒนาที่เข้มแข็ง

บ้านในความหมายของคนตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี คือรากฐานของชีวิต ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล ทำให้พื้นที่จำกัดและเกิดปัญหาความแออัด ที่อยู่อาศัยทรุดโทรมจากการสร้างด้วยวัสดุไม่คงทน และการรวมตัวกันของครอบครัวขยาย รวมถึงรายได้ที่ไม่แน่นอนจากการประกอบอาชีพประมง นำไปสู่ปัญหาทางสังคมอื่นๆ ตามมา