นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายอำนวย จั่นเงิน ประธานสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนสำนักงานยูเนสโกส่วนภูมิภาค ณ กรุงเทพฯ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมการประชุม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ ดังนี้ การประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. 2568 จำนวน 28 รายการ ได้แก่ ประเภทรายการที่เสี่ยงต่อการสูญหายต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1.ระบบเขียนภาษามลายูปาตานี อักษรยาวี 2.จาปิง 3.ประเพณีการขึ้นเปลเด็ก 4.ประเพณีงานกระจาด 5.ระหัดวิดน้ำลำตะคอง 6.ผ้าไททรงดำ 7.การต่อเรือหัวโทง 8.ผ้าปักชาวเขาเผ่าเมี่ยน 9.รถสองแถวไม้ 10. กลองหลวงลำพูน 11.โลงมอญ 12.ทุงผะเหวดอุบลราชธานี
ประเภทรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ดังนี้ 13.สินไซ 14.ตำนานเมืองฟ้าแดดสงยาง 15.โหวด 16.หมอลำ 17.กลองตึ่งโนง/ตึ่งโนง 18.ประเพณีและพิธีกรรมเกี่ยวกับกลองปู่จา 19.ประเพณีและพิธีกรรมเกี่ยวกับการแข่งเรือ 20. งานเจ้าพ่อศรีนครเตา 21.ข้าวเม่า 22.ไก่ฆอและ 23. แกงมะแฮะ 24.ทอดมันหน่อกะลา 25 .สไบมอญน้ำเค็ม 26.ผ้าไหมชาติพันธุ์จังหวัดสุรินทร์ 27. เซปักตะกร้อ และ 28.วิ่งเปี้ยว และมอบกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำเนินการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. 2568 ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
นางสาวซาบีดา กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางส่งเสริมการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมและเสื้อพระราชทาน ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญในการสืบสาน รักษา และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติในด้านการแต่งกาย จึงได้กำหนดแนวทางส่งเสริมการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมและเสื้อพระราชทาน เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้และความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของไทย ส่งเสริมให้ประชาชนแต่งกายอย่างถูกต้อง เหมาะสม และสอดคล้องกับกาลเทศะ รวมถึงการสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนต่าง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำไปสู่การธำรงรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้คงอยู่สืบไป โดยมี 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริมให้มีการสวมใส่ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ เสื้อพระราชทาน 3 แบบ และชุดประจำถิ่น ตามวาระโอกาส ,สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมและเสื้อพระราชทาน และสร้างการรับรู้และความเข้าใจการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ และเสื้อพระราชทาน ๓ แบบ ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
"นอกจากนั้น ที่ประชุมเห็นชอบการเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ได้แก่ “ว่าว” เป็นมรดกร่วมในบัญชีรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ตามที่มาเลเซียเสนอ เนื่องจากว่าวเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายแสดงถึงชุมชนและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมทั่วเอเชีย อีกทั้งการเล่นว่าว เป็นขนบประเพณีที่ยังคงแพร่หลายทั่วภูมิภาค โดยหยั่งรากลึกในมรดกทางวัฒนธรรมและเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเทศกาล กิจกรรมตามฤดูกาล และการรวมกลุ่มกันของชุมชน ด้วยความสำคัญทางวัฒนธรรมและการแพร่หลายในภูมิภาค ขนบประเพณีนี้จึงสมควรได้รับการยอมรับในการอนุรักษ์ในฐานะเป็นส่วนสำคัญของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของสังคมเอเชีย" นางสาวซาบีดา กล่าว
รมว.วธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประเทศไทยได้ขึ้น บัญชี “ว่าวไทย” ในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยที่มีความคล้ายคลึงกับมรดกภูมิปัญญาของประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียได้รับการยอมรับในคุณค่าและความสำคัญ ตลอดจนความเคารพ และเกิดความชื่นชมร่วมกัน
นางสาวซาบีดา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบถึงประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ โครงการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2566 โดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก เพื่อดำเนินโครงการ “โรงเรียนภาคสนามเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการสงวนรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชุมชนชาติพันธุ์ในประเทศไทย” (Field School for Capacity-building in Safeguarding Living Heritage of Ethnic Communities in Thailand)
ทั้งนี้ ทางการไทยได้รายงานผลการดำเนินโครงการในเบื้องต้นต่อที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 20 (20th session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ระหว่างวันที่ 8-13 ธันวาคม 2568 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เรียบร้อยแล้ว
การประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร หรือหน่วยงาน ที่ทำคุณประโยชน์เกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ประกอบด้วย ประเภทบุคคล จำนวน 10 คน และประเภทกลุ่มบุคคล องค์กร หรือหน่วยงาน จำนวน 4 แห่ง ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ ฯ เมื่อวันที่ 29สิงหาคม 2568 เรียบร้อยแล้ว โดยได้จัดงานเพื่อประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์เกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. 2568 ภายใต้งานไทยฟุ้ง ปรุงไทย (Thai Taste Thai Fest 2025) เมื่อวันที่ 12-14 กันยายน 2568 ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ซึ่งได้จัดทำข้อมูลในสูจิบัตร วีดิทัศน์ และได้มอบโล่รางวัล พร้อมเข็ม เพื่อประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติฯ รวมทั้งมีแสดงทางวัฒนธรรม และกิจกรรมอื่น ๆ ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมด้วย
ผลการดำเนินงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2568 มีจำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการดำเนินงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม 2.โครงการส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล 3.โครงการส่งเสริมศักยภาพวัฒนธรรมไทยประยุกต์สู่สากล และ 4.โครงการเงินอุดหนุนการสืบทอดและจัดทำคลังข้อมูล ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 อีกทั้งในส่วนของแผนการดำเนินงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2569 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำเนินโครงการต่อเนื่องทั้ง 4 โครงการข้างต้น โดยเพิ่มเติมกิจกรรมใหม่ให้สอดคล้องตามภารกิจในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ในการพัฒนาต่อยอด เสริมศักยภาพชุมชน
การประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 20 (20th session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ส่งผู้คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 8-13 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของประเทศไทย ได้แก่ การรายงานตามรอบ (Periodic Reporting) เกี่ยวกับการดำเนินงานตามอนุสัญญาฯ สำหรับรอบภูมิภาคกลุ่มเอเชียและแปซิฟิก การรายงานผลลัพธ์โครงการ Field School for capacity-building in safeguarding living heritage of ethnic communities in Thailand ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และกำหนดวันประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลฯ ครั้งที่ 21 นอกจากนี้ ยังมีประเด็นจากการหารือเกี่ยวกับการเสนอรายการมรดกร่วม ได้แก่ “ว่าว” เสนอโดยมาเลเซีย และ “โสร่ง” เสนอโดยอินโดนีเซีย และกำหนดวันประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลฯ ครั้งที่ 21ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วธ.นำทีมไทยแลนด์ร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเกาะไห่หนาน หนุนลงทุนในอุตสาหกรรมหนัง-โทรทัศน์
นางสาวรานี อิฐรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนางสาวปราณิสา เตียวพิพิธพร ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและชุมชน

