
ศ.ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เสด็จพระดำเนินไปยังอาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2568 โดยมี ศ.เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เฝ้ารับเสด็จฯ การนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กราบทูลรายงานและเบิกผู้แทนนักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2568 ทุกหลักสูตร เข้าเฝ้าถวายพานธูปเทียนแพและถวายคำสัตย์ปฏิญาณตน เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดระบบการคัดเลือกนักศึกษาที่ชัดเจน เพื่อให้ได้นักศึกษาที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับที่กำหนดในหลักสูตร มีการวางระบบการดูแลให้คำปรึกษา ทั้งในด้านวิชาการ วิชาชีพและวิชาชีวิต เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมทางปัญญา สุขภาพกายและจิต มีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาเล่าเรียน รวมทั้งดำเนินการช่วยเหลือนักศึกษาที่มีความจำเป็นและขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้นักศึกษาทุกคนสามารถสำเร็จการศึกษาได้ตามระยะเวลาที่กำหนด สำหรับจำนวนนักศึกษาใหม่ในปีการศึกษา 2568 มีจำนวนทั้งหมด 478 คน จำแนกตามรายคณะ ประกอบด้วย คณะพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต จำนวน 96 คน , หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (ปริญญาตรีสาขาอื่น) จำนวน 90 คน และหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (นานาชาติ) จำนวน 16 คน
คณะแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาฟิสิกส์การแพทย์และวิศวกรรมการแพทย์ จำนวน 3 คน , หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาฟิสิกส์การแพทย์ จำนวน 6 คน , หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพดิจิทัล จำนวน 4 คน , หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาตจวิทยา จำนวน 4 คน , หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จำนวน 32 คน และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ จำนวน 21 คน
คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ หลักสูตรเทคโนโลยีมหาบัณฑิต จำนวน 2 คน , หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารังสีเทคนิค จำนวน 55 คน , หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ จำนวน 23 คน และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์ จำนวน 33 คน
คณะวิทยาศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 34 คน , หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ จำนวน 30 คน และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหารทางการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 29 คน
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดตั้งขึ้นตามพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน และการวิจัยขั้นสูงที่มุ่งสร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ โดยทุกหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอนเป็นหลักสูตรที่มีความสำคัญตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะสาขาวิชาที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสังคมไทยและนานาชาติ ทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ การจัดการเรียนการสอนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยังได้บูรณาการงานวิจัย งานบริการวิชาการสู่สังคม และการมุ่งเน้นเรื่องความเป็นไทย ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนการเทิดทูนสถาบันหลักของแผ่นดินผสมผสานในการจัดการเรียนการสอน เพื่อมุ่งให้เกิดผลลัพธ์ของบัณฑิตในทุกมิติ ที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้พระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2568 ความว่า
” ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกคนด้วยความยินดียิ่ง การศึกษาในระดับอุดมศึกษานั้นเป็นการศึกษาเพื่อพัฒนากำลังคนขั้นสูงให้มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง การศึกษาหาความรู้มีความสำคัญ คือ ต้องศึกษาให้เกิดความฉลาดรู้ และควรจะศึกษาให้ตลอดครบถ้วนทุกแง่มุมและเรียนรู้การปฏิบัติ ไปพร้อมกัน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เล็งเห็นความสำคัญของการให้ความรู้ ส่งเสริมทักษะการวิจัยและปลูกฝังความมีจิตสาธารณะ เพื่อสร้างบุคลากรในการพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างประโยชน์สุขให้มวลมนุษยชาติ ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าก่อตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้
ข้าพเจ้าขอน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่องของการศึกษาที่พระราชทานไว้ว่า “ลักษณะของการศึกษาหรือการเรียนรู้นั้น มีอยู่สามลักษณะ ได้แก่ เรียนรู้ตามความรู้ความคิดของผู้อื่นอย่างหนึ่ง เรียนรู้ด้วยการขบคิดพิจารณาของตนเองให้เห็นเหตุผลอย่างหนึ่ง กับเรียนรู้จากการปฏิบัติฝึกฝนจนประจักษ์ผลและเกิดความคล่องแคล่วชำนาญอีกอย่างหนึ่ง การเรียนรู้ทั้งสามลักษณะนี้ จำเป็นจะต้องกระทำไปด้วยกัน ให้สอดคล้องแลอุดหนุนส่งเสริมกัน จึงจะช่วยให้เกิดความรู้จริง พร้อมทั้งความสามารถที่จะนำมาใช้ทำการต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ การเรียนรู้ทุกอย่างนั้น จะต้องเรียนตามความรู้ของผู้อื่นก่อนเป็นเบื้องต้น เมื่อรู้แล้ว จึงนำมาพิจารณาให้เห็นแจ่มชัดละเอียดลงไปอีกขั้นหนึ่ง ให้ถึงเนื้อหาสาระ อันจะอ้างอิงอาศัยเป็นหลักฐานได้ มิให้เป็นการเรียนรู้อย่างเลื่อนลอยแต่เมื่อถึงขั้นที่สองนี้แล้ว ก็ยังถือว่าจะนำมาใช้ให้ได้ผล แน่นอนจริง ๆ ไม่ได้ ยังจำเป็นต้องนำความรู้นั้น มาปฏิบัติฝึกฝนอีก ให้เกิดผลประจักษ์แจ้ง และเกิดความคล่องแคล่ว ชำนิชำนาญขึ้นพร้อมกันไปด้วย จึงจะนำไปใช้ปฏิบัติให้สำเร็จผลได้ไม่ขัดข้อง” ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะใช้เวลาและโอกาสอันมีค่านี้ สั่งสมความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างฉลาดและมีสติ ประสบความสำเร็จในการศึกษาตามที่มุ่งหวัง และเป็นบัณฑิตที่มุ่งมั่นทำความดี มีเมตตาและสามัคคี เป็นทรัพยากร มนุษย์ที่มีค่า สร้างความมั่นคงให้แก่ตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติต่อไป “



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
จุฬาราชมนตรี สำนึกพระเมตตา สร้างอาชีพ3จว.
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "สมเด็จพระพันปีหลวง”
“ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผนึก โนวาร์ตีส ร่วมขับเคลื่อนการบริการทางการแพทย์ งานวิจัย และนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไทย”
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'
2 พ.ย.2568 - เวลา 10.40 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ ทรงคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์พระพิธีธรรมสวดอภิธรรม แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา จากนั้น เสด็จไปทรงคมที่หน้าเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารหน้าพระแท่นพระนพปฎมหาเศวตฉัตร แล้วทรงคมที่หน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วเสด็จกลับ.
แม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่สร้างหลุมหลบภัย รั้วชายแดน ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่แนวชายแดน ตรวจการก่อสร้างหลุมหลบภัย พร้อมติดตามแผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน 6 จุด ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์


