ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/23 วันเสาร์ที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บีแมตช์ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี
เริ่มเกม แมนฯ ซิตี เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าตามสไตล์ แต่ในช่วง 20 นาทีแรกไม่มีโอกาสยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อาศัยเกมรับที่มีวินัย ได้โอกาสโต้กลับน่ากลัวหลายครั้ง แต่ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้
ช่วงท้ายครึ่งแรก มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงตัวเก่งของทีมปีศาจแดง บาดเจ็บกล้ามเนื้อกระตุกจากจังหวะสปรินต์ไปเอาบอล แต่เจ้าตัวยังฝืนเล่นต่อได้ ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ขึงเกมบุกใส่เจ้าถิ่นตั้งแต่เริ่ม และนาทีที่ 60 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลให้ แจ็ค กรีลิช ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง วิ่งมาโหม่งแถวกรอบ 6 หลาเข้าไป
แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกใส่ทีมเยือนเพื่อหวังทวงประตูคืน และความพยายามก็มาประสบผลสำเร็จในนาทีที่ 80 จากจังหวะที่ คาเซมิโร จ่ายทะลุช่องจะให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแต่ไม่ได้เล่นบอล ก่อนจะเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดส วิ่งมาปั่นโค้งๆ เข้าไป เจ้าถิ่นตีเสมอ 1-1 ซึ่งจังหวะนี้ผู้เล่น แมนฯ ซิตี เข้าไปประท้วง เพราะมองว่า แรชฟอร์ด ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าจงใจวิ่งไปเล่นบอลก่อน
หลังได้ประตูตีเสมอโมเมนตั้มกลับมาเป็นของเจ้าถิ่น และนาทีที่ 82 เกมก็พลิกทันที เมื่อบรูโน่ แฟร์นานเดส เปิดบอลลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปาดเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมาชาร์จจ่อๆ เข้าไป “ปีศาจแดง” พลิกนำ 2-1 ถือเป็นการทำประตู 7 นัดติดต่อกันทุกรายการของดาวยิงทีมชาติอังกฤษ
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพลิกสถานการณ์คัมแบ็คกลับมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไปแบบสุดมัน 2-1 คว้าสามแต้มสำคัญ แซง นิวคาสเซิล ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตาราง ไล่จี้ “เรือใบสีฟ้า” เหลือ 1 แต้ม และเขยิบช่องว่างห่างจาก อาร์เซน่อล เหลือ 6 คะแนน
