วิ่งปลอดภัยไร้โควิด-19' กกท.จัดยิ่งใหญ่ปีที่2

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานการจัดกิจกรรมวิ่งปลอดภัยไร้โควิด-19 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2564 ภายใต้โครงการ "RUNNING ZONE CHALLENGE SEASON-2" โดยมี นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายบริหาร, พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ, นายยุธยา จีนหีต ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ พร้อมด้วยเหล่านักวิ่งเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ณ ราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาหัวหมาก กกท. เมื่อวันที่ 21 พ.ย ที่ผ่านมา

ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวว่า กกท. จัดโครงการวิ่งปลอดภัยไร้โควิด-19 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2564 "RUNNING ZONE CHALLENGE SEASON-2" แบบนิวนอร์มอล ขึ้นภายใต้มาตรการการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ถือเป็นอีกวันประวัติศาสตร์ของการจัดงานวิ่ง เพราะนักกีฬาที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมแบบเวอร์ชวลรัน ผ่านทางออนไลน์กว่า 7,000 คน และนักกีฬาที่เข้าร่วมกิจกรรมในรอบสุดท้ายจะต้องมีผลการตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นลบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดย กกท. มุ่งหวังว่ากิจกรรมครั้งนี้จะเป็นต้นแบบของการจัดกิจกรรมการวิ่งแบบปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ที่จะมีขึ้นทั่วประเทศในอนาคต และหวังว่านักวิ่งทุกคนจะแข่งกับตัวเองเพื่อทำสถิติให้ดีที่สุดด้วย

"ในปีที่ผ่านมาการดำเนินโครงการวิ่งปลอดภัยไร้โควิด ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีประชาชนเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดกระแสความตื่นตัวในการออกกำลังกายด้วยการวิ่งในรูปแบบนิวนอร์มอล เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงจัดโครงการนี้ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 มีระยะเวลาการจัดกิจกรรมทั้งสิ้น 1 เดือน เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.-21 พ.ย.64 รูปแบบของการจัดงานจะใช้ลู่วิ่งในราชมังคลากีฬาสถาน กกท. ให้เป็นสนามฝึกซ้อมและประลองความเร็วของเยาวชนคนรุ่นใหม่และประชาชนที่รักการวิ่ง มีเป้าหมายให้วิ่งในระยะทาง 10 กม. ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อย่างเคร่งครัด"

สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มีนักกีฬาที่ทำสถิติได้ดีที่สุด ใน 3 สัปดาห์แรก แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 25 คน และนักกีฬาหญิง 25 คน ลงชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งผลการแข่งขันใน 3 อันดับแรก มีดังนี้ นักกีฬาชาย อันดับ 1 ได้แก่ ณัฐวุฒิ อินนุ่ม เวลา 32.37.157 นาที อันดับ 2 ได้แก่ ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม เวลา 32.38.233 นาที อันดับ 3 ได้แก่ วงศ์บวร ผัสดี เวลา 33.58.273 นาที โดยประเภทชาย มี บุญถึง ศรีสังข์ นักกรีฑาทีมชาติไทย ร่วมการแข่งขันในฐานะนักวิ่งรับเชิญด้วย

ทางด้านนักกีฬาหญิง อันดับ 1 ได้แก่ ปรียา สนเส็ม เวลา 39.28.924 นาที อันดับ 2 ได้แก่ ศรัญญา บังไพร เวลา 39.43.997 นาที อันดับ 3 ได้แก่ อรอนงค์ วงศร เวลา 39.49.054 นาที โดยอันดับ 1 จะรับเงินรางวัล 10,000 บาท อันดับ 2 ได้รับ 9,000 บาท อันดับ 3 ได้รับ 8,000 บาท
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทัพฮีโร่ชาติผนึกกำลัง สานต่อความยิ่งใหญ่ Sawasdee SEA Games 2025 ปลุกสปิริต “ชวนคนไทย เชียร์คนไทย ที่เมืองไทย”

ยิ่งใกล้ถึงวันจัดการแข่งขันยิ่งคึกคัก! สำหรับมหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 20 ธันวาคม 2568 นี้ นับเป็นวาระสำคัญที่ประเทศไทยได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในรอบ

กกท.เติมโภชนาการ เสริมแกร่งทัพไทย ล่าทอง'ซีเกมส์-อาเซียนพาราฯ'

หลังจากที่ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ได้เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา และการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ที่จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ทั้งงบประมาณเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวฝึกซ้อม และวิทยาศาสตร์การกีฬา นำมาเสริมความแข็งแกร่งครบทุกด้าน

กกท.ปรับโฉมใหม่ ฉลองครบรอบ61ปี พลังขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่อนาคต

กกท. ฉลองครบรอบ 61 ปี ผนึกพลังขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่อนาคต ภายใต้แนวคิด “WE Move The Forward (วี มูฟ เดอะ ฟอร์เวิร์ด) พลังเราเพื่อก้าวสู่ออนาคตไทย”

'ดร.ก้องศักด'เปิดนโยบาย โชว์วิสัยทัศน์ จุดพลังกีฬาไทยก้าวสู่เวทีโลก

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. โชว์วิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่ระดับโลก เริ่มจาก Sports For All ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงกีฬาอย่างเท่าเทียม พร้อมยกระดับนักกีฬาไทยด้วยการพัฒนาทักษะทั้งพื้นฐานและขั้นสูง สู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ ภายใต้ศูนย์ฝึก NTC ที่เสริมสร้างศักยภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เดินหน้านำวิทยาศาสตร์การกีฬามาบูรณาการอย่างครบวงจร ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานสนามกีฬารองรับการแข่งขันทุกระดับ เพื่อผลักดันนักกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศบนเวทีนานาชาติ พร้อมต่อยอดสู่กีฬาอาชีพ การจัดบิ๊กอีเวนต์เพื่อสร้างโอกาสให้แก่นักกีฬาไทย สร้างรายได้มหาศาลสู่ประเทศ