
หลังจากมีข่าวว่า ชีค ทามิม บินฮาหมัด อัลธานี ประมุขของกาตาร์ พร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อเข้ามาเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการครอบครองของ “ตระกูลเกลเซอร์” มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นแฟนบอลของทีม “ปีศาจแดง” ตัวยง
ล่าสุดมีการเปิดเผยจาก “เดลี เมล” สื่อชั้นนำในเมืองผู้ดี ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด นำโดยตระกูลเกลเซอร์ และทีมงาน เริ่มต้นการเจรจากับกลุ่มนายทุนต่างๆ ที่ยื่นข้อเสนอเพื่อเทคโอเวอร์สโมสรอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มทุนจากกาตาร์ของ ชีค ทามิม บินฮาหมัด อัลธานี
ก่อนหน้านี้ ตระกูลเกลเซอร์ ตั้งราคาขายทีมเอาไว้สูงลิ่วถึง 6,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2.4 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่าการเจรจาในครั้งนี้ตัวเลขการขายทีมอาจลดลงมาอยู่ที่ราว 4,500 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท
แต่หนึ่งสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด วางเอาไว้อย่างชัดเจนให้แก่กลุ่มทุนนายใหม่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม นอกจากพวกเขาต้องจ่ายเงินก้อนโตในการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรแล้ว ยังต้องจ่ายเงินอีกราว 2,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 8 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนา และปรับปรุงสนามซ้อม รวมถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด รังเหย้าของพวกเขาให้มีความทันสมัยมากขึ้น
ถ้าหากการเจรจากับกลุ่มทุนต่างๆ เรื่องการเข้ามาเทคโอเวอร์แบบเต็มตัวไม่ประสบความสำเร็จ ตระกูลเกลเซอร์ อาจยอมขายหุ้นส่วนใหญ่ทิ้งแต่ไม่ทั้งหมด และถอยลงไปเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยแทน ซึ่งเคสนี้ถึงแม้สิทธิ์การบริหารจะไปตกอยู่กับกลุ่มทุนรายใหม่ แต่มหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าของคนปัจจุบัน ก็ยังมีสิทธิ์มีเสียงอยู่ตามจำนวนหุ้นที่พวกเขาถือ
อย่างไรก็ตาม ชีค ทามิม บินฮาหมัด อัลธานี ประมุขของกาตาร์ ยืนยันกับแหล่งข่าวอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการเข้ามาเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเบ็ดเสร็จเป็นการถาวร ไม่อยากจะเข้ามาซื้อหุ้นแค่บางส่วนเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่มีปัญหากับการจ่ายเงินเพิ่มราว 2 พันล้านปอนด์เพื่อพัฒนาสนามซ้อม และสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกด้วย
นอกจากนี้ในประเด็นที่ว่ากลุ่มทุนจากกาตาร์ที่จะเข้ามาซื้อ “ปีศาจแดง” ถือเป็นกลุ่มเดียวกันกับ กาตาร์ สปอร์ตส อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป (QSI) ของนาสเซอร์ อัล เคไลฟี เจ้าของทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ในลีกเอิง ฝรั่งเศส และน่าจะผิดกฎของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า เพราะห้ามเจ้าของทีมเดียวกันลงสนามแข่งขันด้วยกัน พวกเขามั่นใจมากว่าจะไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว และสามารถแก้ไขได้ เพราะที่มาของการเงินระหว่างกลุ่มทุนกาตาร์ กับ QSI จะแยกกันอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ร้อยเปอร์เซนต์


