'เสธ.โต'ย้ำไทยต้องจัดอช.อินดอร์ หากเลิกจะเสียถึง'ซีเกมส์' อย่าอ้างเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล

"เสธ.โต" พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย
จากการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการ บอร์ด กกท. มีมติจะขอยกเลิกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งกำหนดจัดในเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่กรุงเทพฯ กับ ชลบุรีนั้น
 
ล่าสุด"เสธ.โต" พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ออกมาพูดถึงกรณีที่มีข่าวว่า ประเทศไทยนั้นจะขอเลิกจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งจะแข่งขันในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ออกไป โดยเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้นว่า มันเสียชื่อประเทศชาติมาก ในความคิดเห็นของผม ทำไมปล่อยเวลาให้ล่วงเลยนานมาแล้วไม่ทำงานกัน พอเวลาใกล้จะทำไม่ทันหาเรื่องเลิก
 
"ซึ่งประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพมหกรรมเกมแข่งขันระดับนานาชาติมากว่า 10ๆ ครั้ง ใหญ่กว่านี้ต้องเยอะแยะไม่เคยที่จะผิดพลาด หรือจนจัดไม่ได้ไม่ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งเมื่อครั้งที่ ประเทศไทยเป็นกีฬาซีเกมส์ จัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในปี 2550 ก็ยังจัดได้ไม่มีปัญหา และประสบความสำเร็จผ่านพ้นไปด้วยดี การที่จะเลื่อนหรือยกเลิกจัดต้องคิดให้ดี ชื่อเสียงของประเทศไทย มันเป็นของทุกคน แล้วก็ไม่ใช่ของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะเราทำสัญญาเอ็มโอยูไว้ชัดเจนซึ่งเราก็เลื่อนมา 2 ปีแล้วจากสถานการณ์โควิด มันไม่มีเหตุผลอะไรตอนนี้ที่จะบอกยกเลิกการแข่งขัน เพียงแต่ว่าที่แน่ๆคนทำงานมีประสิทธิภาพไม่พอ เลยทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้"
 
พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ยังกล่าวต่อว่า "ทางออกตอนนี้ต้องจัดกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ให้ได้ตามกำหนดวันเวลาเดิมที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งต้องเริ่มทำกันวันนี้อย่างจริงจังทำได้แน่นอน ทุกคนต้องจริงจังร่วมกันจัดเกมนี้ขึ้น เงินไม่ใช่ปัญหา ผมคิดว่าควรจะใช้ความพยายามในการแก้ปัญหามากกว่า ถ้าจัดรายการเอเชี่ยน อินดอร์ฯนี้ไม่ได้ ก็จะส่งผลกระทบการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในอีก 2 ปีข้างหน้า จะทำให้ความเชื่อถือของคนกีฬาในระดับเอเชีย และอาเซียนจะมองประเทศไทยอย่างไร"
 
"อย่าอ้างเรื่องการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลจะต้องเข้ามาดำเนินการสิ่งที่ไทยได้ทำเอาไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมาเนื่องจากมีข้อตกลงมีสัญญากันไว้อยู่แล้ว หากกรณีเลิกใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของค่าปรับ เพราะต้องหาคนรับผิดชอบเนื่องจากเป็นเงินหลวง ผมขอย้ำว่าจะมาอ้างเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลแล้วจัดไม่ได้เด็ดขาด ขอให้ทุกคนคิดถึงผลเสียที่จะเกิดจากการยกเลิกครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญด้วย และที่สำคัญการยกเลิกจัดการแข่งขันก็ต้องรอมติจากคณะรัฐมนตรีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจในทางกฎหมาย ไม่ใช่การประชุมจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา"เสธ.โต กล่าวปิดท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธุรกิจ'คว้าทองที่10ให้จักรยาน พาไทยผงาดเจ้าทอง ซีเกมส์ครั้งที่33

“ธุรกิจ บุญรัตนธนากร” ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง ผงาดคว้าเหรียญทองพอยต์เรซชาย เป็นเหรียญทองที่ 10 ปิดฉากให้ทัพจักรยานไทย ในการแข่งขันจักรยานกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ส่วนทีมสปรินท์ชายได้เหรียญเงิน ด้าน “เสธ.หมึก” ปลื้มทีมสองล้อไทยยึดตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” หลังโกยไป 10 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง

'ชวิศา-ชนกพล'ฟอร์มขั้นเทพ รูดม่านยิมนาสติกกวาด6ทอง

ยิมนาสติกแอโรบิก ปิดท้ายได้อย่างสวยหรู  “ชนกพล เจียมสุขใจ” กับ ชวิศา อินทกุล โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์โลก นำทีมเก็บเพิ่มได้อีก 1 เหรียญทอง รวมเบ็ดเสร็จกวาดได้มากถึง 6 เหรียญทอง สร้างผลงานทะลุเป้า เตรียมเปิดแคมป์ทีมชาติเลี้ยงขอบคุณฉลองความสำเร็จ พร้อมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในวันที่ 21 ธันวาคม นี้ 

'อุบลคิดส์'ทีมเดียวจากนอกลีก ลุ้นสร้างตำนานล้มยักษ์ บุกเยือน'บีจี'ยิงสดที่AIS PLAY

ฟุตบอลไทยลีก 1 "บีวายดี ซีไลออน 6 ลีกหนึ่ง" จบการแข่งขันในช่วงเลกแรก ก่อนจะคัมแบ็คกลับมาแข่งขันกันใหม่ในเลกที่สองช่วงต้นเดือนมกราคม 2026 สุดสัปดาห์นี้จึงขอเปลี่ยนบรรยากาศไปชมบอลถ้วย "ช้าง เอฟเอ คัพ" รอบ 32 ทีมสุดท้าย โดย AIS PLAY ยิงสดให้ชมครบทุกแมตช์แบบฟรีๆ เช่นเคย 

'ซีเกมส์'ครั้งที่33 เงินสะพัด12,000ล้าน เศรษฐกิจไทยคึกคัก-บูมกระแสกีฬา

มหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 บูมกระแสกีฬาไทยคึกคัก และยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ชี้เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่ไทยเคยจัดมหกรรมกีฬามา พร้อมเผยยอดผู้ชมเข้าสนามแข่งขันต่าง ๆ สะสมเกือบ 400,000 คนแล้ว