
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เกมบิ๊กแมตช์ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นาทีที่ 27 กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ถึงแม้จะบุกน้อยกว่า แต่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับ คริสเตียน อีริคเซ่น แทงทะลุช่องให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษก่อนตัดเข้ากลางแล้วยิงด้วยขวา อารอน แรมสเดล พยายามปัดแต่ไม่ออก บอลเช็ดเสาเข้าไป
เสียประตูได้เพียงนาทีเดียว น.28 อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูไล่ตามตีเสมอ 1-1 แบบทันควัน กาเบรียล มาร์ติเนลลี จ่ายบอลเข้ากลางให้ มาร์ติน โอเดการ์ด วิ่งมายิงด้วยซ้ายหนีมือ อังเดร โอนานา เข้าไป และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง น.59 ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะโดน 2 แนวรับของทีมเยือนเข้ามาสกัด ทีแรกผู้ตัดสินแอนโธนี เทย์เลอร์ เป่าให้จุดโทษ แต่เมื่อดู VAR แล้วกลับคำตัดสิน
นาทีที่ 88 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ คาเซมิโร แทงบอลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช ที่ลงเป็นตัวสำรอง หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนยิงผ่านมือ อารอน แรมสเดลเข้าไป แต่เมื่อดู VAR แล้ว การ์นาโช อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าเสียก่อน
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แล้วแต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+6 กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่มาได้ประตูสำคัญแซงนำ 2-1 จากจังหวะลูกเตะมุม บอลตกมาเสาสองเข้าทาง ดีแคลน ไรซ์ ยิงผ่านมือ อังเดร โอนาน่า เข้าไป
เท่านั้นยังไม่พอ น.90+11 เจ้าถิ่นอาร์เซน่อลได้จังหวะสวนกลับ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ล็อกหลบกองหลังทีมเยือนหนึ่งจังหวะ และยิงผ่านมือ อังเดร โอนาน่า เข้าไป “ปืนใหญ่” หนีห่าง 3-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำสกอร์กันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน อาร์เซน่อล เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบสุดมัน 3-1 คว้าสามแต้มได้สำเร็จ


