ระเบิดศึกSAT Super Fight 'มวยไทย วิถีถิ่นไทย' 28ต.ค.นี้สนามช้างฯ ร่วมงาน'ไทยจีพี'

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ร่วมจัดงานมหกรรมการแข่งขันและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย "ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย" คู่เอก ซ้ายอุกกาบาต "กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย"  ปะทะ ขุนเข่าวัวชน "ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน" พร้อมยอดมวยดังแห่งยุคอัดแน่นดวลกำปั้นในการแข่งขันโมโต จีพี 2023 รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ณ เวทีมวยชั่วคราว หน้าสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
โดยงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองอธิบดีกรมพลศึกษา ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย, คุณวรันธร อนันตโสภาจิตร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, คุณพีรพงศ์  ธีระเดชพงศ์ (ชุ้น เกียรติเพชร) โปรโมเตอร์ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงานในครั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย
ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองอธิบดีกรมพลศึกษา ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ในปีนี้นับเป็นปีที่ 4 แล้ว ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกอย่าง โมโต จีพี ภายใต้ชื่อรายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 27 - 29 ตุลาคมนี้
โดยในการจัดงานทุกๆครั้ง ต่างก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และในปีที่ผ่านมา Thai GP ได้สร้างรายได้ให้ประเทศถึง 4,048 ล้านบาท และเชื่อว่าในปีนี้จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
 
นอกจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์อันเร้าใจแล้ว เรายังมีการแข่งขันมวยไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบริงไซด์ใน “ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย” ที่จะเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นมรดกประจำชาติที่ยากจะเลียนแบบให้คนทั้งโลกได้รู้จักมากยิ่งขึ้น ผ่านสายตาผู้ชมหลายหมื่นคน รวมถึงสื่อมวลชนที่มาทำข่าวร่วม 500 คนจากทั่วโลก
 
อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดและเก็บภาพบรรยากาศในงานไปสู่ 207 ประเทศทั่วโลก ใน 800 ล้านครัวเรือนที่จะได้รับชมความงดงามควบคู่ไปกับความแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีงามของมวยไทย พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาประเทศไทย ซึ่งจะสร้างรายได้มหาศาลในอนาคต
 
และนอกจากการโปรโมทภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแล้ว สิ่งสำคัญคือ การร่วมกันพัฒนาวงการกีฬามวยไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้คือการไปแข่งขันโอลิมปิค ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวดีจากการแข่งขันเอเชียน เกมส์ ที่ประเทศไทยได้เข้าชิงเหรียญทองทั้งชายและหญิง และได้โควต้าไปแข่งกีฬาระดับโลกอย่าง โอลิมปิค 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสในปีหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก และหากทุกภาคส่วนช่วยกันพัฒนาเชื่อว่าวงการมวยไทยต้องเติบโตไปแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน”
ด้านคุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า “ในนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย มีหน้าที่และภารกิจที่ต้องส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาของชาติไทย พร้อมเผยแพร่สิ่งที่เป็น Soft Power ของประเทศผ่านศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ อย่าง “มวยไทย” ที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและต้องการเรียนรู้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีชาวต่างชาติหันมาเข้าชมรวมทั้งเรียนรู้ศาสตร์แม่ไม้มวยไทยมากยิ่งขึ้น และมีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
 
รวมถึงการแข่งขัน “ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย” ที่จัดขึ้นในงาน โมโต จีพี ก็เป็นอีกรายการที่ยิ่งใหญ่ของวงการมวยไทย เพราะจากการจัดการแข่งขัน 3 ครั้งที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะหลังจากจบการแข่งขัน โมโต จีพี ในวันเสาร์ คลื่นมหาชนมากมายก็ได้ไปรอชมการแข่งขันมวยไทยรายการนี้เรียกได้ว่าหลายหมื่นคน ยืนยันได้ว่ามวยไทยยังอยู่ในสายเลือด และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนกีฬาทั่วโลก
 
ในปีนี้เราได้เพิ่มคู่มวยเพื่อเอาใจแฟนๆโดยเฉพาะจากเดิม 7 คู่ ในปีนี้เพิ่มเป็น 9 คู่ และยังคงใช้วิธีการนับคะแนนที่จะมีการแสดงคะแนนหลังจากจบยก 1-3 ซึ่งได้ใช้วิธีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรมในการตัดสินของกรรมการ และยุติธรรมต่อนักชกทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการแข่งขันมวยไทยไปสู่ระดับสากล
สำหรับแฟนมวยที่ไปชมที่สนาม สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ส่วนแฟนๆทางบ้านสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่องอมรินทร์ทีวี หมายเลข 34 ตั้งแต่เวลา 18.00 - 20.00 น. สุดท้ายนี้ก็ขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วมชมร่วมเชียร์นักมวยไทยไปพร้อมๆกัน ทั้งในสนามและทางบ้าน รับรองว่ามีความมันส์ เร้าใจ ไม่แพ้การแข่งขันอื่นๆแน่นอน”
การแข่งขัน "ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย 2023"  ได้มีการประกบคู่มวยสุดมันส์ให้ทุกท่านได้รับชมในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคมนี้
 
คู่แรกเป็นการเจอกันของ นำสุข บุญลานนามวยไทย พบ ไกรทอง สุราษฎร์ยิมส์
คู่ที่ 2 บุเรงนอง มวยหูเบียร์ภาคระนอง พบ เอ็กซ์ซ่า ส.จารุวรรณ
คู่ที่ 3 ฉลามดำ นายกเอท่าศาลา พบ เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์
คู่ที่ 4 คมเพชร แฟร์แท็กซ์ พบ คัมแบ็ค ที.เค.ยุทธนา
คู่ที่ 5 ขุนหาญเล็ก เกียรติเจริญชัย พบ รุ่งกิจ บ.รุ่งโรจน์
คู่ที่ 6 คู่เอกของรายการ "กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย" ปะทะ "ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน"
คู่ที่ 7 หยก เบสชะอวด พบ ฟลุ๊คน้อย เกียรติฟ้าลิขิต
คู่ที่ 8 สำราญสิงห์ ศิษย์นายกทวีปตะพง(ศิษย์ฉลองศักดิ์) พบ แหลมสิงห์ ส.เดชะพันธ์
และคู่สุดท้าย คู่ที่ 9 มนต์พระราม ศิษย์เพชรฉลูกัณฑ์ พบ เพชรเมืองเสือ ป.มงคลอินทร์
สำหรับ "ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย" จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว บริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป เปิดให้แฟนหมัดมวยและแฟนมอเตอร์สปอร์ต เข้าชมฟรีเพียงแค่แสดงบัตรเข้าชมการแข่งขันโมโต จีพี 2023 หากไม่มีบัตรเข้าชมการแข่งขัน สามารถซื้อAdmission Ticket 1 วัน ราคา 100 บาท หรือ 3 วัน ราคา 200 บาท นอกจากนี้ยังสามารถชมการถ่ายทอดสดทางช่อง Amarin TV หมายเลข 34 ตั้งแต่เวลา18.00 - 20.00 น. และยังมีคอนเสิร์ตจาก Chang Music Connection นำโดย เนสกาแฟ ศรีนคร และบุ๊ค ศุภกาญจน์ ที่จะมามอบความสุขอย่างต่อเนื่องให้แฟนๆหลังจบการแข่งขันอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บุรีรัมย์'จัดใหญ่ใส่เต็ม 3บิ๊กอีเว้นต์กีฬาระดับโลก 'มาราธอน-โมโตจีพี-รอบเทสต์'ฤดู2026

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยภาคเอกชน ผนึกกำลังจัดการประชุมเตรียมความพร้อมมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2569 ได้แก่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” ฉลองครบรอบ 10 ปี และรุกหนักแผนรับมือ “พรี-ซีซั่นเทสต์และสนามเปิดฤดูกาล” ต่อเนื่องปีที่ 2 “โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026”  เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รองรับคลื่นนักวิ่ง-แฟนความเร็วนับแสนสู่ 3 บิ๊กอีเว้นต์ระดับโลก

ร่าง 'จ่าเริง' วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย ถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์

ครอบครัว ญาติพี่น้องรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง  คลังประโคน วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย กลับสู่บ้านเกิด ในหลวง–พระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เตรียมพระราชทานเพลิงศพ 24 ธ.ค.นี้ ณ วัด ห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่เผย สุดเศร้าหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว  หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีก

ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน

แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้

ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว

แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน