สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เตรียมทำการสอบสวนเหตุทะเลาะวิวาทในสนามมาราคาน่า เกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ระหว่างเจ้าบ้าน “แซมบ้า” บราซิล พบคู่รักคู่แค้น “ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า
ผลการแข่งขันดังกล่าวชัยชนะตกเป็นของทัพ “ฟ้าขาว” ดีกรีแชมป์โลก 2022 ที่บุกมาเก็บชัยเหนือ บราซิล 1-0 จากประตูชัยของ นิโคลัส โอตาเมนดี ส่งให้ทีม “แซมบ้า” พ่ายแพ้ 3 นัดรวดในการคัดบอลโลก โซนอเมริกาใต้
อย่างไรก็ตามเกมนี้มีเหตุการณ์ให้พูดถึงมากกว่าผลสกอร์ เนื่องจากมีการปะทะกันระหว่างกองเชียร์ของทั้งสองทีมถึงขั้นที่นักฟุตบอลทำการวอล์คเอาต์เดินออกจากสนามก่อนจะเขี่ยบอล ทำให้เกมเริ่มคิกออฟล่าช้าไป 30 นาที
ตามการรายงานเปิดเผยถึงสาเหตุว่าแฟนบอลเจ้าถิ่นโห่ใส่เพลงชาติของผู้มาเยือน ทำให้กลุ่มกองเชียร์ฮาร์ดคอของทั้งคู่ปะทะคารมบนอัฒจันทร์อย่างดุเดือด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์
แต่ทันทีที่เจ้าหน้าที่พยายามมาควบคุมเหตุการณ์ แฟนบอลอาร์เจนติน่าดูเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ ทำให้ตำรวจต้องใช้ไม้แข็ง เอาอาวุธฟาดไปที่กลุ่มแฟนบอลทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นที่ ลิโอเนล เมสซี ต้องเดินมาบอกให้เจ้าหน้าที่ใจเย็นลง และหยุดทำร้ายแฟนบอลของเขา
โดย สมาพันธ์ฟุตบอลของบราซิล อาจโดนลงโทษตามกฏข้อ 17 ของระเบียบฟีฟ่า ที่ระบุเอาไว้ว่า “ทีมเจ้าบ้าน และสมาคมฯ มีหน้าที่สั่งการ และรักษาความปลอดภัยก่อน ระหว่าง และหลังจบเกม เจ้าบ้านจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นภายในสนาม”
ส่วน โกลโบ สื่อท้องถิ่นของบราซิล เปิดเผยอีกว่า องค์กรลูกหนังโลก หรือ “ฟีฟ่า” จะเปิดการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ตอนนี้ยังไม่มีบทลงโทษออกมา แต่กฎที่เขียนไว้นั้นจะมีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่โทษปรับ, ห้ามแฟนบอลเข้าสนาม, เล่นสนามกลาง หรือถึงขั้นตัดแต้มเลยทีเดียว
หากสุดท้ายแล้วทีมชาติบราซิลโดนโทษหนักถึงขั้นตัดแต้มก็จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งเพราะพวกเขามีแค่ 7 คะแนนจาก 6 เกมแรกที่ลงสนาม อยู่อันดับ 6 จาก 10 ทีม
