'อิชิอิ'นำทัพช้างศึกบุกจีน 'มุ้ย'รู้ตัวอายุมาก สู้เต็มที่ทิ้งทวนบอลโลก

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รวมตัวกันเพื่อเดินทางไประเทศจีน ทำศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มซี แมตช์เดย์ ที่ 5 พบกับ จีน
 
การเดินทางครั้งนี้นำโดย มาซาทาดะ อิชิอิ พร้อมด้วย 26 นักเตะ ขาดแค่ สุภโชค สารชาติ ที่จะตามไปสมทบที่ประเทศจีน
 
ก่อนการเดินทาง มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนกล่าวว่า "ถึงนักเตะจะไม่ครบตามจำนวน แต่หลายวันที่เราเตรียมทีมที่ผ่านมานักเตะก็ทำได้ดี จากที่ มาดามแป้ง แม้จะอยู่ที่อังกฤษ แต่ได้มีการติดต่อสื่อสารกับผมตลอดเวลา ก่อนเดินทางได้พูดคุยกันทางออนไลน์ และประชุมกับนักเตะ เพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่เราจะเจอกับจีน และสิงคโปร์ จะทำให้ดีที่สุดตามที่แฟนบอลคาดหวัง และที่มาดามแป้งสนับสนุนเราอย่างเต็มที่ในการเดินทางไปจีนในครั้งนี้ด้วย"
 
"จากแคมป์ที่ผ่านมา เราได้ลงทีมและซ้อมหนัก หลายคนมีอาการล้า แต่ด้วยคุณภาพและสภาพความฟิตที่ดี หลังจากที่เราไปถึงจีน เราก็จะเน้นเรื่องสภาพร่างกายเพื่อให้พร้อมที่สุดในการเจอกับจีน เราได้ดูการเล่นของจีน ก่อนผมมาคุมทีม พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ช และวิธีการเล่นที่เปลี่ยนไปก็ต้องวิเคราะห์ และดูรายละเอียดอีกครั้งเพื่อให้เราพร้อมที่สุดในการเจอกับพวกเขา"
 
ในรายของชนาธิป สามารถซ้อมได้ครบทุกเซสชั่น ตามที่เราวางแผนเอาไว้ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนการแต่งกายเดินทาง วันนี้ดูวัยรุ่นดี ถ้าสำหรับนักบอลแล้ว ก็เหมาะกับนักบอล ตามแฟชั่น ด้วยเที่ยวนี้เราเดินทางแบบเหมาลำ ทำให้นักบอลมีความสะดวกสบายในการเดินทางด้วย ขอบคุณสปอนเซอร์ ที่สนับสนุน ในการเช่าเหมาลำในครั้งนี้เพื่อให้ทีมชาติไทย เดินทางไปด้วยความสะดวกสบาย"
 
"เป้าหมายก็แน่นอน ตัวผมได้แถลงข่าวออกไปแล้ว ว่าเราเตรียมพร้อมเพื่อเจอกับจีน และ สิงคโปร์ เราต้องการหกแต้มจากทั้งสองเกม"
 
ด้าน ธีรศิลป์ แดงดา กล่าวว่า "จากการที่ผมมาซ้อมในแคมป์นี้ ทุกคนก็มีความพร้อมและความมุ่งมั่นตั้งใจ แม้จะเป็นช่วงปิดฤดูกาลไปแล้วสำหรับหลายๆทีม และต้องได้พัก แต่ทุกคนยังมีสมาธิและมุ่งมั่นกับสองเกมที่รออยู่ข้างหน้า เชื่อว่าทุกคนรวมถึงแฟนบอลคงรู้ว่า มันเป็นเกมสำคัญทั้งสองเกม เพื่อโอกาสเข้ารอบ 3 ในการคัดบอลโลก ทุกคนทุ่มเท ตั้งใจฝึกซ้อม เตรียมตัวกันอย่างดีที่สุด หวังว่าสองเกมข้างหน้าที่เราจะเล่น จะทำผลงานได้ตามเป้า และมีผลการแข่งขันที่ดีออกมา"
 
"ผู้เล่นที่เข้ามาของจีน เราได้ดูและมีข้อมูลบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจมาก เชื่อว่าเราเองก็เปลี่ยนแปลงทีมไปในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน หวังว่าการบ้านที่เราทำ สภาพร่างกายที่เราเตรียม จะพร้อมสำหรับเกมวันที่ 6 มิถุนายน นี้ ในตำแหน่งกองหน้า ถ้าเป็นไปได้ในทุกนัดทุกเกมที่ลงสนาม ก็อยากทำประตู มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ว่าสำหรับผม สิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรก คือมีส่วนร่วมช่วยทีมให้ได้รับชัยชนะ ไม่ต้องยิงก็ได้ แค่ทีมชาติไทย ชนะ มีผลการแข่งขันที่ดีออกมา เชื่อว่าทุกคนที่ลงไปเล่น เดินทางไปครั้งนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน คือต้องการผลการแข่งขันที่ดี"
 
"ด้วยอายุของผม อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของผมในการเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มีเวลาอีกสองนัดก็พยายามทำเต็มที่ถ้ามีโอกาสได้ลงไปเล่น หวังว่าจะยังไม่จบแค่ตรงนี้ และผ่านเข้ารอบต่อไป จะพยายามทำอย่างเต็มที่ 4 ปีข้างหน้าอาจจะมีเปลี่ยนแปลงทีมอาจจะมีน้องๆสายเลือดใหม่ขึ้นมา เป็นเรื่องปกติของฟุตบอล ผมพยายามโฟกัสสองนัดที่เหลือ หวังว่าเราจะผ่านเข้าไปเล่นรอบต่อไปของฟุตบอลโลก ครั้งนี้"
 
"ผมยังไม่ได้คิดเลิกเล่น ฟุตบอลโลกครั้งนี้มีความสำคัญ มีความหมาย รายการนี้ไม่ได้เตะทุกปี 4 ปี มีครั้ง อยากให้ทุกคนในทีมเห็นความสำคัญ ครั้งนี้เรามีโอกาส เราพยายามทำเต็มที่ ไม่ใช่รออีกครั้งมันก็ตั้ง 4 ปี ก็เดี่ยวเอาครั้งนี้ให้มันดีที่สุดและค่อยว่ากันครั้งหน้า"
 
สำหรับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีโปรแกรมต้องทำการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5 พบกับ ทีมชาติจีน ที่ เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ สเตเดียม ประเทศจีน วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐ ทีวี ทั้งสองนัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไทยเบฟ'หนุนช้างศึกชิงเจ้าอาเซียน เปิด'อะคาเดมี่'เป็นสนามซ้อม ตั้งเป้าคว้าทองซีเกมส์2025

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ “ไทยเบฟ” ผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลไทยมากว่า 25 ปี มุ่งมั่นสร้างรากฐานความยั่งยืนของกีฬาในทุกมิติ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ผ่านโครงการต่างๆ พร้อมถ่ายทอดแนวคิด Sportsmanship เพราะ มากกว่ากีฬา คือ น้ำใจนักกีฬา พร้อมส่งทัพช้างศึกฟุตบอลทีมชาติไทยชุด U-23 และสนับสนุนสนามซ้อม “ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่” ตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา “ซีเกมส์” ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย “ไทยเบฟ” ร่วมผลักดันและพัฒนาวงการกีฬาของไทยบนเวทีนานาชาติ ในฐานะ Official Bronze Sponsor