'เมอร์เรย์' ประกาศลงเล่นโอลิมปิก 2024 เป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในอาชีพ

แอนดี เมอร์เรย์ อดีตนักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลก ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า มหกรรมกีฬา โอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะเป็นการแข่งขันครั้งสุดท้ายของอาชีพนักหวดลูกสักหลาด

เมอร์เรย์ ในวัย 37 ปี กำลังจะแขวนแร็กเก็ตในปีนี้ หลังคว้าแชมป์ 3 แกรนด์ สแลม และแชมป์เอทีพี ทัวร์ 46 สมัย เฉพาะประเภทชายเดี่ยว รวมถึงคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2012 ที่ลอนดอน และ 2016 ที่ริโอ เด จาเนโร

เจ้าตัวตั้งเป้าทิ้งทวนต่อหน้าแฟนๆ ศึกวิมเบิลดัน 2024 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทว่าบาดเจ็บหลังจนขอถอนตัวจากการแข่งขันประเภทเดี่ยว และ เอ็มมา ราดูคานู สาวน้อยมหัศจรรย์ของ สหราชอาณาจักร ถอนตัวจากการเล่นคู่ผสม เนื่องจากเจ็บข้อมือ

ถึงกระนั้น เมอร์เรย์ ยังลงเล่นประเภทชายคู่กับ เจมี พี่ชาย แต่จอดป้ายแค่รอบแรก ที่ออลล์ อิงแลนด์ คลับ อย่างไรก็ตาม “ปารีสเกมส์” แอนดี เมอร์เรย์ มีโปรแกรมลงเล่น โอลิมปิก ครั้งที่ 5 ของอาชีพ ทั้งประเภทเดี่ยว และคู่ ซึ่งจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในชีวิต

เมอร์เรย์ โพสต์ข้อความบน “เอ็กซ์” สื่อสังคมออนไลน์ ว่า “เดินทางถึงปารีส เพื่อลงเล่นเทนนิสรายการสุดท้ายของผม”

“การรับใช้ สหราชอาณาจักร เป็นความทรงจำอันมีค่าสุดของอาชีพ และผมภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับการทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย”

เมอร์เรย์ เข้าร่วมโอลิมปิกครั้งแรก ที่กรุงปักกิ่ง ปี 2008 แต่ตกรอบแรก กระทั่งคว้าเหรียญทองสมัยแรก ที่กรุงลอนดอน ปี 2012 โดยเอาชนะ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จาก สวิตเซอร์แลนด์ ล้างแค้นศึกวิมเบิลดัน รอบชิงชนะเลิศ ปีเดียวกัน

ปี 2016 เมอร์เรย์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นป้องกันแชมป์โอลิมปิกคนแรก โดยเอาชนะ ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร จาก อาร์เจนตินา ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร

เมอร์เรย์ สัมผัสแชมป์ แกรนด์ สแลม ครั้งแรก ปี 2012 รายการ ยูเอส โอเพน โดยเอาชนะ โนวัค ยอโควิช จาก เซอร์เบีย 3-2 เซต ตามด้วยแชมป์วิมเบิลดัน 2013 โดยย้ำแค้น ยอโควิช 3 เซตรวด และปี 2016 เอาชนะ มิลอส ราโอนิค จาก แคนาดา 3 เซตรวด