หวั่น'การเมือง'ล้วงลูก ตั้งประมุข'อลป.ไทย' ส.สื่อกีฬาฯแถลงปกป้องอธิปไตยกีฬา

จากที่หลายสมาคมกีฬาได้มีความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่อาจจะสร้างความแตกแยก และอาจจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนากีฬาของชาติอย่างมาก โดยเชื่อกันว่าจะมีการใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงด้วยนั้น
 
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย องค์กรวิชาชีพด้านสื่อสารมวชนการกีฬา ที่ก่อตั้งมายาวนานถึง 60 ปี ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น  ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างอนาคตใหม่ให้กับวงการกีฬาไทย เพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ
      
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการประชุมสมัชชาใหญ่สามัญของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยที่จะถึงนี้ จะได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถเป็นที่ยอมรับ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดทิศทางของการกีฬาประเทศไทย ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป
      
จากธรรมนูญข้อบังคับโอลิมปิคไทย หมวด 6 คณะกรรมการบริหาร ที่กล่าวถึงจำนวนของคณะกรรมการบริหารที่มาจากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สหพันธ์กีฬานานาชาติ (ไอเอฟ)ให้การรับรอง ซึ่งสมาคมกีฬาดังกล่าวมาจากกีฬาที่มีแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว รวมไปถึงสมาคมกีฬาที่บรรจุแข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์อย่างน้อย 2 ครั้ง ให้มีการเลือกตัวแทน 23 คน จาก 37 สมาคมกีฬา เพื่อเข้ามาเป็นกรรมการบริหารนั้น
 
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยขอเรียกร้องให้ทุกสมาคมกีฬาได้ร่วมเข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร มีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพื่อความสมานฉันท์ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ปราศจากการแข่งขัน ซึ่งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกสมาคมกีฬา ได้มีส่วนร่วมรับฟังความเคลื่อนไหวในการถ่ายทอดอุดมการณ์โอลิมปิก อันถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี ) โดยไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจากกระบวนการดังกล่าวและยังจะช่วยให้วงการกีฬาไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องอีกด้วย
      
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย  มีความกังวลเกี่ยวกับการนำการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกีฬา จึงขอเรียกร้องให้การประชุมสมัชชาใหญ่ดำเนินการให้สอดคล้องกับธรรมนูญโอลิมปิก (Olympic Charter) ฉบับล่าสุดในปี 2567 ที่กล่าวถึงพันธกิจของไอโอซี ในข้อที่ 5 “เพื่อสร้างยุทธศาสตร์โอลิมปิกให้มีความเข้มแข็ง เป็นเอกภาพ และปกป้องการแทรกแซงจากภายนอก รวมทั้งรักษาและรณรงค์ความเป็นกลางทางการเมือง ตลอดจนคงไว้ซึ่งอธิปไตยแห่งการกีฬา” และข้อ 11 “เพื่อต่อต้านการใช้การกีฬาและนักกีฬา เป็นเครื่องมือทางการเมืองและการพาณิชย์”
 
ในข้อเรียกร้องดังกล่าว มีความสอดคล้องกับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาบริหารงานในโอลิมปิคไทย ที่ต้องมีความสง่างาม ปราศจากเสียงครหาในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ด้วยเหตุนี้การตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวด เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากกลุ่มผลประโยชน์ และควรให้มีการเสนอตัว แสดงวิสัยทัศน์เพื่อลงรับเลือกตั้ง เช่นเดียวกับไอโอซี แม้ว่าตามธรรมนูญของโอลิมปิคไทย ไม่ได้ระบุไว้ก็ตาม และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวไทย ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒินั้นควรจะกำหนดวาระการทำงาน หรือกำหนดอายุอย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาทำงาน และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการมากขึ้น
      
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ขอยืนยันในเจตนารมณ์ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์วงการกีฬาไทยให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล  โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยครั้งนี้จะได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถโดยแท้จริง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพื่อนำพาวงการกีฬาไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และจะทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยแห่งการกีฬา ด้วยการติดตามและตรวจสอบการดำเนินการอย่างใกล้ชิด
 
                                         17 มกราคม 2568
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เก่งและขยันทันตา! เพื่อไทยออกแถลง การณ์ 7 มาตรการปราบสแกมเมอร์-แก๊งคอลฯ

'เพื่อไทย' ออกแถลงการณ์ 7 มาตรการเชิงรุกปราบสแกมเมอร์-ฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ ยกความสำเร็จที่เคยทำได้ยุค 'แพทองธาร' ย้ำ 'รัฐบาลอนุทิน' ต้องเอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่หวังคะแนนนิยม

ตร.สั่งทำบัญชีแต่งตั้ง 'นายพันสีกากี' เปิดช่อง 'จับคู่ย้าย' ทำบันทึกสมัครใจเสนอต้นสังกัด

ผบช.สกพ.ส่งหนังสือแจ้งเวียนถึงผบช. และ จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ