เปิดความลับสถาปัตยกรรม 'ราชดำเนิน' สนามมวยไทยเก่าแก่ที่สุดในโลก

ท่ามกลางสถานที่สำคัญและทรงคุณค่าบนถนนราชดำเนินนอก หนึ่งในนั้น คืออาคารหลังหนึ่ง ที่เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าไปพร้อมๆ กับความคึกคักของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่ต้องการสัมผัสเนื้อแท้แห่งความเป็นไทยผ่านกีฬาการต่อสู้ที่นานาชาติรู้จักกันในชื่อ “มวยไทย” นั่นคือสนามมวยเวทีราชดำเนินซึ่งก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ในปี 2568  และภายใต้การผนึกกำลังระหว่างกรรมการบริหารกับ บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด (Global Sport Ventures) หรือ GSV โดยมี “คุณแบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ เป็นผู้กุมบังเหียนทิศทางและยกระดับเวทีมวยแห่งนี้ให้ก้าวสู่ความเป็นอินเตอร์มากขึ้น

สนามมวยเวทีราชดำเนินผ่านการรีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ให้มีความเป็นสากล เพื่อให้เป็นสปอร์ต เอนเทอร์เมนต์สำหรับคนทุกเพศทุกวัย มีเสน่ห์ดึงดูดเหมือน Madison Square Garden อันโด่งดังของสหรัฐ ซึ่งใช้เป็นสังเวียนของมวยสากลอาชีพระดับโลก รวมทั้งยังมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างระบบ Ecosystem ให้กับวงการมวยไทย เป็นการยกระดับชีวิตของผู้ทำงานอยู่ในวัฎจักรนี้ในทุกๆ มิติและให้มวยไทยมีความยั่งยืนในระยะยาว

แม้ว่าจะวางตัวเองให้ สนามมวยเวทีราชดำเนิน ให้พัฒนาเป็น World Class Combat Stadium อย่างไรก็ตามแต่ก็ยังรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่ยังคงความงดงามและคลาสสิกตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

ออกแบบอย่างสากลจากปลายปากกาสถาปนิกอิตาเลียน

ผู้เสกสรรค์รูปลักษณ์ของสนามมวยเวทีราชดำเนินที่ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้เป็นสถาปนิกชาวอิตาลี ซึ่งได้ชื่อว่าสร้างผลงานระดับโลกไว้มากมาย

ในยุคนั้น สถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นที่นิยมของคนไทยนับแต่ราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนถึงยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีอาคารหลายแห่งที่เป็นฝีมือชาวอิตาเบียน อาทิ อาคารศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม สถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก ออกแบบก่อสร้างโดย โยคิม กราสซี่ (Joachim Grassi) ช่วงปี พ.ศ.2425-2427 อาคารธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นที่ตั้งของวังบางขุนพรหมและวังเทวะเวสม์ ตำหนักใหญ่สร้างตามสไตล์บาร็อก โดยมาริโอ ทามาคโน จิตรกรรมฝาผนังเป็นผลงานของคาร์โล ริโกลี

ส่วนสนามมวยเวทีราชดำเนินนั้น เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2484 ดูแลการก่อสร้างโดยบริษัทสัญชาติอิตาเลียน ชื่ออิมเพรส อิตาเลียน ออลเอสเตโร-โอเรียนเต (Imprese Italiane All’Estero-Oriente) ซึ่งชนะประมูลการก่อสร้างพร้อมการออกแบบ ไปด้วยราคา 258,900 บาท  แต่ต้องหยุดไประหว่าง สงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง

ต่อมาจึงได้ว่าจ้าง บริษัท Christiani & Nielsen บริษัทก่อสร้างชั้นนำจากเดนมาร์กเข้ามารับช่วงต่อ รวมถึงจัดสร้างหลังคาคลุมสนามมวยซึ่งเป็นจุดเด่นอีกประการของเวทีราชดำเนิน นั่นคือเป็นหลังคาคอนกรีต เป็นความทันสมัยที่สุดแห่งยุค 2490 เฉพาะส่วนหลังคาคอนกรีต ใช้เวลาก่อสร้างไม่นานนักคือเพียงประมาณ 4 เดือนก็แล้วเสร็จ ปัจจุบัน โครงสร้างนี้ยังคงแข็งแรง คลุมแดดคลุมฝนให้กับสนามมวย นักมวย นักดนตรีและผู้ชมอย่างอดทนและมุ่งมั่น

แต่เดิมผังอาคารสนามมวยราชดำเนินมีลักษณะเป็นรูปวงกลม ส่วนที่เป็นทางเข้าหลักของอาคารยื่นออกมาด้านหน้าเพื่อรองรับผู้ที่เข้ามาชมการชกมวย เชื่อมต่อกับอาคารด้านข้างที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งเป็นส่วนของสำนักงานสนามมวย

การวางผังอาคารบริเวณสนามมวยเป็นวงกลม มีอัฒจันทร์ล้อมรอบเวทีมวยที่อยู่ตรงกลาง เวทีมวยเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร ตำแหน่งที่นั่งมีทั้งชั้นล่างสุดซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับเวทีมวย

จากรูปแบบแผนผังอาคารที่หันหน้าเข้าหาจุดสนใจซึ่งอยู่กึ่งกลางเพียงจุดเดียว ทำให้สายตาของผู้เข้าชมมองไปยังจุดเดียวกัน ด้วยการลดหลั่นของที่นั่งในแต่ละชั้นทำให้ไม่มีการบังสายตาถึงแม้เวทีจะไม่ได้สูงมากนัก ทำให้ผู้ชมทุกคนได้รับประสบการณ์เดียวกัน

ด้านหน้าอาคารสนามมวยราชดำเนินมีการจัดวางองค์ประกอบอย่างเรียบง่าย มีเสาซึ่งเป็นองค์ประกอบทางตั้งถูกจัดวางเป็นจังหวะ 3 ช่วงเสา สลับกับผนังสี่เหลี่ยม ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่ามีความคล้ายคลึงกับอาคารในยุคเดียวกัน เช่น อาคารสนามกีฬาศุภชลาศัย โรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง โรงภาพยนตร์เฉลิมไทย

ด้านหน้าอาคารถูกแบ่งเป็น 5 ช่วง ช่วงริมสุดของทั้งสองฝั่งมีการประดับตกแต่งด้วยประติมากรรมนูนสูง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรูปประดับที่ฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและประติมากรรมนูนสูงที่ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ประติมากรรมมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน โดยรูปปั้นนูนสูงที่ประดับอยู่หน้าอาคารสนามมวยราชดำเนินนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้แบบไทยสมัยโบราณ

แม้ว่าจะผ่านกาลเวลายาวนานย่างเข้าสู่ปีที่ 80 ความเป็นสมัยใหม่ของสนามมวยราชดำเนินจึงดำรงอย่างเด่นชัด รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามจึงได้ใช้ใช้สถาปัตยกรรมประเภทสนามกีฬาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสะท้อนสภาวะความเป็นสมัยใหม่ของชาติ นอกจากรูปลักษณ์ของอาคารแล้ว กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในสนามกีฬาก็ถูกบังคับจากการวางผังที่แบ่งแยกสัดส่วนชัดเจน

และในวาระย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ของสนามมวยเวทีราชดำเนินก็ได้สร้างมิติใหม่ให้สมกับเป็นสนามมวยที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลกนั่นก็คืน ราชดำเนิน อิมเมอร์ ซีฟ มวยไทย (Rajadamnern Immersive Muay Thai) หรือการแสดงแสง สี เสียง อันตระการตาบนโดมคอนกรีตเหนือเวทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในศึก RWS presents RAJADAMNERN 80 ทั้งนี้เป็นการลงทุนกว่า 100 ล้านบาทที่ดูเหมือนจะคุ้มค่า เหมือนยกระดับให้สนามมวยเวทีราชดำเนินกลายเป็นสนามมวยระดับเวิลด์คลาสได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการหลอมรวมระหว่างมวยไทยอันเป็นเอกลักษณ์กับสีสันอันโดดเด่น สถาปัตยกรรมที่มีความเฉพาะตัวของเวทีมวยที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดได้อย่างกลมกลืนลงตัวที่สุด

และนับแต่นี้เป็นไปผู้มาเยือนที่เข้ามาชมการแข่งขันมวยไทยว่าจะเป็นคนไทย หรือแฟนมวยจากทั่วโลกจะได้รับอรรถรสมวยไทยที่เวทีราชดำเนินอย่างอิ่มเอิบ และเป็นความประทับใจอย่างไม่รู้ลืม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้องศักด'สั่งย้ายด่วน สนามมวยซีเกมส์ หลัง'พรุค้างคาว'น้ำท่วมหนัก

จากเหตุการณ์ฝนตกต่อเนื่องนานหลายวัน และน้ำป่าทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.สงขลา  1 ใน 3 จังหวัดที่รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33  ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม นี้ ร่วมกับกรุงเทพฯ และ จ.ชลบุรี 

ลุ้น'แดเนียล โรดริเกวซ' โชว์'ฝานลูกบวบ' อาวุธมวยไทยในศึกป้องกันแชมป์ราชดำเนิน

หนึ่งในนักชกที่มีศิลปะการชกครบเครื่องทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ในยุคนี้ไม่ได้มีเพียงนักมวยชาวไทยเท่านั้น แดเนียล โรดริเกวซ นักมวยเชิงดุจากสวิตเซอร์แลนด์เชื้อสายโดมินิกันก็เป็นหนึ่งในนักมวยตัวท็อปดีกรีแชมป์เปี้ยนรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวตคนปัจจุบันของเวทีมวยราชดำเนินที่มีแม่ไม้มวยไทยที่สวยงามและหาชมยากหลายกระบวนท่า ไม่ว่าจะเป็นการเตะก้านคอ ศอกกลับ เข่าลอย โดยเฉพาะอาวุธศอกนั้นสามารถทำได้ทั้งศอกตี,ศอกตัด และศอกงัด ซึ่งถือว่าเป็นนักมวยผู้ที่มีส่วนอนุรักษ์แม่ไม้มวยไทยดั้งเดิมไม่ให้สูญหายไป

เปิดใจ'สมทรง ไตรวาสน์' เบื้องหลังวงปี่กลอง คู่บารมีเวทีราชดำเนินกว่า30ปี

สมทรง ไตรวาสน์ หัวหน้าคณะวงปี่กลองคู่บุญผู้อยู่คู่เวทีมวยราชดำเนินมากว่า 30 ปีประทับใจพัฒนาการของ “บ้านมวยไทย” รวมถึงให้ความสำคัญของคณะดนตรีซึ่งทำหน้าที่ทุกวันที่มีการชก ชี้วงปี่มวยไทยคือองค์ประกอบสำคัญของมวยไทยที่แท้จริง

'ขุนศึกน้อย'มั่นใจชนะ'เพชรสมาน' แย่งแชมป์ซูเปอร์แบนตัมราชดำเนิน ศึกRWSเสาร์7มิ.ย.นี้

ศึก RWS ที่เวทีราชดำเนินในวันเสาร์ที่ 7 มิ.ย. นี้ คู่สำคัญ “เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นต์”แชมป์ซูเปอร์ แบนตัมเวทราชดำเนิน (122 ปอนด์) จะขึ้นชกป้องกันเข็มขัดแชมป์ครั้งที่ห้ากับผู้ท้าชิงก็คือ “ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน” นักชกจากอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแฝดน้องของ ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน เจ้าของตำแหน่งแชมป์ แบนตัมเวทราชดำเนิน ซึ่งหาก “ขุนศึกน้อย” สามารถพลิกล็อคเอาชนะเพชรสมานและกลายเป็นแชมป์คนใหม่ได้ก็จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กลายเป็นนักมวยคู่แฝดที่ครองแชมป์เวทีราชดำเนินพร้อมกันอีกด้วย

'ขุนศึกเล็ก'พร้อมบู๊'เหนือพยัคฆ์' ป้องกันแชมป์แบนตัมเวท เวทีราชดำเนิน24พ.ค.นี้

ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน มีโปรแกรมขึ้นชกป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนินในวันที่ 24 พ.ค. นี้โดยจะเจอกับ "เหนือพยัคฆ์ ว.สังข์ประไพ" โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของ “MAYHEM” พฤษภาฯ มหาโหด เดือดทะลุปรอท" และเป็นไฟต์ที่ต้องการชัยชนะเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการคว้ารางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 มาครองได้ถึง 4 สถาบัน