บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ยังต้องรอคอยการคัมแบ็คลงเล่นที่สนามคัมป์ นู ต่อไป หลังล่าสุดสภาเมืองได้ทำการปฏิเสธการออกใบอนุญาตสำคัญเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
เดิมทีแชมป์ลาลีกา สเปน ซีซั่นที่แล้ว หวังว่าจะได้ใช้ คัมป์ นู โฉมใหม่ ในการเปิดบ้านเจอ เรอัล โซเซียดาด ในวันอาทิตย์นี้ แต่สุดท้ายต้องโยกไปเล่นที่ โอลิมปิก สเตเดียม มอนต์จูอิก สังเวียนที่ บาร์ซ่า ใช้มาตลอดสองปีหลัง ระหว่างปรับปรุง คัมป์ นู
สโมสรออกแถลงขอบคุณสมาชิก และแฟนบอลที่เข้าใจ พร้อมเข้ามาสนับสนุนในช่วงเวลาที่ซับซ้อน และท้าทายต่อทีมในตอนนี้ พร้อมยืนยันว่ากำลังแก้ไขข้อสังเกตที่สภาเมืองยื่นมาให้เสร็จสิ้น
ก่อนหน้านี้ บาร์เซโลนา ลงเล่นเกมเหย้า 2 นัดแรกของฤดูกาลกับ บาเลนเซีย และ เคตาเฟ่ ที่สนามโยฮัน ครัฟฟ์ สเตเดียม ความจุแค่ 6,000 ที่นั่ง ซึ่งปกติใช้เป็นรังเหย้าของทีมหญิง ก่อนจะโยกมาใช้ โอลิมปิก สเตเดียม มอนต์จูอิก ความจุ 55,000 ที่นั่ง
โดยหน่วยดับเพลิงเมืองบาร์เซโลนา เผยว่า ตอนนี้คัมป์ นู ยังมีปัญหาเรื่องเส้นทางการอพยพ และความปลอดภัยอื่นๆ ที่ยังไม่พร้อม ขณะที่ โฆน เซนเตเยส ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสโมสรยืนยันระหว่างพาสื่อชมสนามว่า “ตอนนี้สนามแค่ยังไม่เสร็จ ไม่ได้แปลว่ามันไม่ปลอดภัย”
ซึ่งทาง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสโมสรบาร์เซโลนา ยังเสริมว่าหลังคาของสนามคัมป์ นู โฉมใหม่ จะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2027 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเดิมไปอีกหนึ่งปี
โครงการปรับปรุง สังเวียน คัมป์ นู เริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 ด้วยงบประมาณราว 1.1 พันล้านปอนด์ เป้าหมายคือการทำให้สนามทันสมัยขึ้น และขยายความจุเป็น 105,000 ที่นั่ง ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในสังเวียนที่ใหญ่ที่สุดของโลก
เดิมทีแผนเดิมคือการกลับมาเปิดใช้งานในเดือนพฤศจิกายน 2024 ให้ตรงกับวาระครบรอบ 125 ปีสโมสร แต่เส้นตายนี้ก็พลาดไป ก่อนจะถูกเลื่อนหลังจากนั้นอีก 2-3 ครั้ง เพราะยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาเมือง
ด้าน ไลอา โบเนต รองนายกเทศมนตรีบาร์เซโลนา ย้ำว่าหน้าที่หลักของสภาเมือง คือการการันตีความปลอดภัยของทุกคนที่เข้ามาในสนาม โดยเจ้าตัวยืนยันว่านี่คือเรื่องสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด
