70 ปี หอจม.เหตุฯ เดินหน้า 3 โปรเจคพิเศษ

เหตุการณ์สำคัญของประเทศไทยที่เกิดขึ้น ทั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562  เหตุการณ์สวรรคตในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ  หรือปฏิบัติการช่วยชีวิต 13 หมูป่าในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน มีการบันทึกเหตุการณ์และจัดทำจดหมายเหตุ เพื่อเติมเต็มข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัย ซึ่งเป็นเพียงหน้างานเดียวที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักงานจดหมายเหตุแห่งชาติ แต่ยังมีภารกิจอนุรักษ์เอกสารจดหมายต้นฉบับ และประเมินคุณค่าเอกสาร จัดเก็บให้บริการเอกสารทรงคุณค่า เพื่อการศึกษาค้นคว้า    

ในโอกาสครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา กรมศิลปากรจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองและนิทรรศการเรื่อง” 70 ปี  จดหมายเหตุแห่งชาติ” เสนอเรื่องราวความเป็นมาของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จัดแสดงเอกสารชิ้นสำคัญของหอจดหมายเหตุแห่งชาติแต่ละแห่ง เช่น เอกสารจดหมายเหตุพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิรูปการบริหารการปกครองประเทศสยาม พ.ศ.2411 ถึง 2453  เอกสารชุดนี้ถือว่าสมบูรณ์ครบถ้วนมีความสำคัญระดับโลก ,เอกสารเรื่องการเพาะเลี้ยงปลานิลพระราชทานของสถานีประมง (กว๊านพะเยา) ,ฟิล์มกระจกและภาพต้นฉบับชุดหอพระสมุดวชิรญาณ ที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำโลก และเอกสารสำคัญอีกมากมาน เพื่อสร้างความตื่นตัวเอกสารประวัติศาสตร์เป็นสมบัติของชาติ  สามารถมาชมได้ ณ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ย่านเทเวศร์

กิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กิจการด้านจดหมายเหตุของประเทศไทยมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านกระบวนการดำเนินงานและการให้บริการสู่ประชาชน เป็นที่ยอมรับในด้านวิชาการและการให้บริการมาโดยตลอด งานด้านจดหมายเหตุแห่งชาติ มีบทบาทสำคัญจัดเก็บรวบรวม รักษาไว้ซึ่งเอกสารสำคัญเอกสารประวัติศาสตร์ของชาติ นำไปสู่การให้บริการเผยแพร่ความรู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
70 ปี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ อธิบดี ศก. กล่าวว่า เพื่อพัฒนางานจดหมายเหตุของประเทศไทยให้เป็นรูปธรรมจึงเปิด 3 โครงการใหม่   ได้แก่  โครงการ” เพิ่มข้อมูล พูนค่าภาพ” ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชน และนักวิชาการในสาขาต่างๆ มีส่วนร่วมในการอ่านภาพเก่าในหอจดหมายเหตุ เพื่อใช้เป็นข้อมูลเอกสารจดหมายเหตุ ,โครงการขึ้นทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำของประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่ให้ประชาชน หน่วยงาน องค์กร ขอขึ้นทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำที่สำคัญของตนเอง และนำไปสู่การคัดเลือกเอกสารสำคัญ เพื่อขึ้นทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก และโครงการระบบการขออนุมัติทำลายเอกสาร ซึ่งเป็นระบบที่หน่วยงานรัฐจะต้องจัดส่งข้อมูลเอกสารจดหมายเหตุเพื่อขอทำลายและเพื่อให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สงวนเอกสารจดหมายเหตุ ระบบนี้อำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยงานภาครัฐในการจัดส่งเอกสารจดหมายเหตุในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ไฟล์ เอกเซล และสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบเอกสารจดหมายเหตุในรูปแบบ API กับระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย เพิ่มความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น


ด้าน ณิชชา จริยเศรษฐการ ผอ.สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินงานของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ  บุคลากรได้ศึกษา พัฒนาองค์ความรู้วิชาการจดหมายเหตุจากต่างประเทศ จัดหาเทคนิคและเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละยุคสมัยมาประยุกต์ใช้บริหารจัดการงานจดหมายเหตุ พัฒนาตั้งแต่การรับมอบเอกสารจากหน่วยงานรัฐ บุคคลสำคัญของประเทศ นำมาประเมินคุณค่าเอกสาร จัดหมวดหมู่ จัดทำเครื่องมือช่วยค้น  จัดเก็บ อนุรักษ์เอกสารจดหมายเหตุ และให้บริการแก่ผู้ค้นคว้า รวมถึงบันทึกเหตุการณ์สำคัญของประเทศ ขยายงานจดหมายเหตุสู่ภูมิภาค สามารถรวบรวมเอกสารประวัติศาสตร์ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของไทย และรักษาเอกสารมรดกวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังใข้เป็นหลักฐานอ้างอิงประวัติศาสตร์สมบูรณ์ที่สุด

“ การพัฒนางานจดหมายเหตุแห่งชาติ อยากผลักดันให้มีหอจดหมายเหตุระดับจังหวัด แม้มันยังไม่เกิดขึ้นในไทย ปัจจุบับเราเน้นย้ำเอกสารราชการ เอกสารการบริหารงาน เห็นความเปลี่ยนแปลงและแนวคิดแต่ละยุคสมัย อยากให้รวบรวมเก็บรักษา หากไม่มีศักยภาพจัดเก็บ ให้สงวน และส่งมอบสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ก่อนทำลายประวัติศาสตร์ประเทศไทย “ ณิชชา กล่าว

ส่วนโครงการขึ้นทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำ ณิชชา กล่าวเสริมว่า คนส่วนใหญ่คุ้นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เป็นสถานที่ แต่ไม่รู้ว่าการเขียนลงหนังสัตว์ ใบลาน แผ่นศิลา เป็นมรดกความทรงจำ เราค้นหาเอกสารลักษณะนี้เพื่อขึ้นทะเบียน เป็นการแสดงถึงรากเหง้าของประเทศ ครบ 70 ปี เป็นครั้งแรกจัดทำระบบให้ประชาชนขอขึ้นทะเบียน ทั้งนี้ ไทยได้ขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลกแล้ว 5 รายการ ได้แก่ ศิลาจารึก หลักที่ 1 , เอกสารจดหมายเหตุพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิรูปการบริหารการปกครองประเทศสยาม ,จารึกวัดโพธิ์ ,บันทึกการประชุมคณะกรรมการสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ในรอบ 100 ปี  และฟิล์มกระจกชุดหอพระสมุดวชิรญาณขึ้นทะเบียน ขณะนี้ ศก.ขอขึ้นทะเบียนตำนานอุรังคธาตุและเอกสารโบราณนัทโปนันทสูตรคำหลวงเป็นมรดกความทรงจำของโลก รอประกาศผลจากยูเนสโก

ทั้งนี้ นิทรรศการ 70 ปี จดหมายเหตุแห่งชาติ เปิดให้เข้าชมจนถึงวันที่ 16 ก.ย.นี้ ทุกวัน ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมศิลป์ เตรียมบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม ค้นพบ 20 ต้น ใช้ในพระราชพิธีพระบรมศพพระพันปีหลวง

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการออกแบบพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังจากสำนักสถาปัตยกรรม

กรมศิลป์ เผยจัดทำร่างแบบพระเมรุมาศ เสร็จแล้ว งดงามสมพระเกียรติ

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)ให้ดูแลรับผิดชอบด้านรูปแบบพิธีการและการจัดสร้างพระเมรุมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้

อธิบดีกรมศิลป์ เผยร่างแบบ 'พระเมรุมาศ' เสร็จสัปดาห์หน้า ก่อนนำทูลเกล้าฯ องค์ที่ปรึกษา

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้กรมศิลปากรอยู่ระหว่างการจัดทำแบบร่างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

กรมศิลปากร วางไทม์ไลน์ 90 วัน จัดทำแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

"รมว.วัฒนธรรม" สำรวจราชรถ-ราชยาน เตรียมขอฤกษ์บวงสรวงเริ่มงานบูรณะ "กรมศิลปากร" วางไทม์ไลน์ 90 วัน ร่างแบบพระเมรุมาศ"สมเด็จพระพันปีหลวง"

'กรมศิลปากร' เตรียมพร้อมจัดสร้างพระเมรุมาศ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรเป็นหน่วยงานหลักในเรื่องการออกแบบและการก่อสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมผู้ปฏิบัติงานในการถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์