18 มี.ค.2566 - ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงการกระแสข่าวตั้งเป้าหมายเลือกตั้งได้ ส.ส. 70 เสียงว่า ตนไม่เคยพูดกับใครว่าจะได้ 70 ที่นั่ง ตัวเลขของตนสูงกว่านั้นเยอะ เพราะจากที่เราประเมินไว้ผู้สมัครแข็งแรงมาก มีความนิยมในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เราต้องคัดเลือกผู้สมัครก่อนไม่ใช่ว่าใครจะกรอกใบสมัครอย่างเดียวก็ได้ ตรงไหนดูไม่แข็งแรงสร้างความนิยมไม่ได้เราก็ไม่ส่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่าจะได้ส.ส.มากกว่า 70 ที่นั่ง คาดว่าจะได้จำนวนเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เย็นวันเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ ก็จะทราบ
เมื่อถามว่า ที่ประกาศจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้มีการดีลหรือพูดคุยอะไรกับใครไว้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องพูดคุย เรามั่นใจว่านโยบายความเข้มแข็งของพรรค และผู้สมัคร จะทำให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ
'ธนาธร' โผล่เมืองคอน ปลุกสมัคร สว. 1 บ้าน 1 คน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมเสวนา โดยเฉพาะผู้ที่มีศักยภาพในการจ่ายค่าสมัครจำนวน 2,500 บาท
'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย
นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่
'เศรษฐา' เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง
ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 19: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)
(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า