'ชวน' ขอกระบะ 1 คัน หาเสียงเลือกตั้งช่วยปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.


29 มี.ค.2566 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการลงพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะเริ่มตระเวนลงพื้นที่หาเสียงทั่วประเทศ หลังจากวันจับสลากหมายเลขผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ และแจ้งต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ให้ทราบถึงแผนการหาเสียงของตนแล้ว โดยขอให้ช่วยเตรียมรถกระบะให้หนึ่งคัน เพื่อที่จะใช้ในการตระเวนลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงในส่วนของบัญชีรายชื่อของพรรค โดยจะไม่ไปวุ่นวายกับผู้สมัครแบบแบ่งเขต ซึ่งในส่วนนั้นพรรคดูแลดีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะที่ลงพื้นที่จะมีใครร่วมออกตระเวนด้วยบ้าง นายชวน กล่าวว่า คงมีผู้ร่วมคณะกับตน3-4คน โดยขณะนี้กำลังดูอยู่ว่าจะมีใครมาร่วมบ้าง ส่วนวันเริ่มออกเดินทางทางหัวหน้าพรรคได้ขอให้มาเริ่มต้นจากที่ทำการพรรคซึ่งจะมีการปล่อยขบวนพร้อมๆกับขบวนอื่นๆ


เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว นายชวน กล่าวว่า ปกติพรรคก็เสนอชื่อเดียว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องถามทางพรรคดีกว่า

ถามถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะไม่ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ คิดว่าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีควรที่จะต้องเป็นส.ส.หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนที่ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรกในการมาทำงานการเมืองเต็มตัวเหมือนกับพวกตน ดังนั้นจึงไม่อยากตำหนิ แต่เห็นใจทุกคนและรู้ว่าเวลาที่เขาตัดสินใจต้องคิดมากเหมือนกัน และเขาคงมีคณะที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่พวกเราเป็นคนที่ตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นมาเป็นนักการเมืองต้องการมาทำงานการเมืองจริงๆจึงไม่กลัวว่าจะแพ้หรือชนะ


ถามย้ำตำแหน่งนายกฯควรจะมาจากผู้ที่ประชาชนเลือกโดยตรง นายชวน กล่าวว่า เขาถือโอกาสว่ากฎหมายไม่ได้บังคับ สมัยที่ตนเป็นนายกฯตอนนั้นกฎหมายบังคับว่าคนที่จะเป็นนายกฯต้องเป็นส.ส. ซึ่งตนเป็นนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งก็เป็นนายกฯที่มาจากส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน

“ผมคิดว่าคงไม่สามารถเทียบมาตรฐานกันได้ เพราะแต่ละคนคิดในทางการเมืองต่างกัน และมีความตั้งใจว่าจะเข้ามาทำการเมืองเพื่ออะไร ซึ่งตรงนี้แต่ละคนก็คิดแตกต่างกันไป เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ขอวิจารณ์ แต่ถ้าเราดูจากตัวอย่างเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็จะได้เห็นบางอย่าง สมมุติถ้ารัฐบาลไม่มีคนที่เป็นหลัก เราก็จะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ซึ่งเคยพูดไว้หลายครั้งว่าเนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมานายกฯไม่ได้เป็นส.ส. รวมถึงพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ได้อยู่ในสภา ดังนั้นเวลาที่เกิดปัญหาองค์ประชุมก็ไม่รู้จะถามใคร ผมเห็นใจคนที่มาทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเสียง เพราะเวลาที่เขาไปขอร้องส.ส.ก็มีส.ส.หลายคนที่ไม่ค่อยเกรงใจเขา” นายชวน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่

'เศรษฐา' เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง