
'สุรศักดิ์ นาคดี' ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 4 จากเพื่อไทย ควงภรรยา และลูกสาว ลงพื้นที่หาเสียงถึงบันไดบ้าน ร้านค้า ตลาด เผยกระแสตอบรับดี ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง มั่นใจแลนด์สไลด์เกิดที่บุรีรัมย์ แต่หวั่นการโกงเลือกตั้ง วอนเล่นการเมืองตามกรอบกติกา
12 เม.ย.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 10 เขต เป็นไปอย่างเข้มข้นขึ้นทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 4 นายสุรศักดิ์ นาคดี ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 4 พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของนายรังสิกร ทิมาตฤกะ จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม และยังมีนายนันทภพ ทองนุ่น จากพรรคก้าวไกล นายกริชเทพ อุปจันแพงวงศ์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสุเทพ ใสงาม จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ล้วนเป็นคู่แข่งคนสำคัญด้วย ส่วนผู้สมัครรายอื่นก็เป็นตัวสอดแทรก ซึ่งในเขตเลือกตั้งที่ 4 นี้มีผู้สมัคร 11 คน จึงทำให้เป็นเขตพื้นที่การแข่งขันค่อนข้างเข้มข้นอีกเขตหนึ่งของสนามเลือกตั้งจังหวัดบุรีรัมย์ ครั้งนี้
โดยนายสุรศักดิ์ นาคดี หรือ “เฮียเพียว” ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 4 พรรคเพื่อไทย พร้อมภรรยา ได้พา “น้องออร์คิด , น้องเอแคร์ และ น้องไอคิว” ลูกสาว ทั้ง 3 คน พร้อมด้วยทีมงาน ได้ลงพื้นที่ออกเดินหาเสียงกับประชาชนตามหมู่บ้าน ร้านค้า ตลาดในเขตพื้นที่ อ.แคนดง แบบเคาะประตูบ้านทุกหลังคาเรือน พร้อมแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัคร และนโยบายพรรค เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน ทั้งยังได้ระดมรถแห่ ออกแห่หาเสียงตามถนนในหมู่บ้าน ชุมชน และตลาด เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร และประชาสัมพันธ์นโยบายพรรคให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งได้รับทราบอย่างทั่วถึง ซึ่งได้รับความสนใจและกระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะนายสุรศักดิ์ นาคดี เป็นอดีตส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ มาแล้ว 2 สมัย
นายสุรศักดิ์ นาคดี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้มีกระแสตอบรับจากประชาชนที่ดีมาก ซึ่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องเจออะไรหลายสิ่งหลายอย่าง จึงอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งก็ตอบโจทย์กับพรรคเพื่อไทย ชาวบ้านก็มั่นใจ และเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศนโยบายออกมาสามารถทำได้ และโดนใจกับชาวบ้าน อีกทั้งเชื่อว่าใน จ.บุรีรัมย์ กระแสพรรคเพื่อไทยเกิดแลนสไลด์แน่นอน
"ในบุรีรัมย์อย่างที่ทราบกันดีว่า ไม่เฉพาะกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงหลายๆพรรค หรือแม้กระทั่งชาวบ้านเองสิ่งที่หวั่นเกรงกัน ก็คือเรื่องของการโกงการเลือกตั้ง ซึ่งจากการลงไปในหลายพื้นที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็กลัวเรื่องการโกงการเลือกตั้ง ที่ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงอยากฝากถึงนักการเมืองทุกพรรค ได้เล่นการเมืองตามกรอบกติกา ประชาธิปไตย" นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกลยุทธ์หาเสียง สิ่งที่เน้นในการหาเสียงครั้งนี้ เป็นการเข้าถึงชาวบ้านให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินพบปะ หรือการปราศรัยย่อย ไปให้ได้ครบทุกหมู่บ้าน เพื่อกระจายเรื่องของนโยบายพรรคให้ชาวบ้านได้เข้าใจนโยบายเพื่อไทยอย่างถ่องแท้ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยประกาศเราทำได้ สิ่งที่ชาวบ้านสงสัยเราจะได้อธิบาย นี่คือกลยุทธ์ที่เราจะต้องไปให้ถึงทุกครัวเรือนในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านก็ให้การตอบรับดีมาก
สำหรับนโยบายการปราศรัยเน้นไปที่นโยบาย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” โดยเฉพาะนโยบายปราบยาเสพติด, รายได้เกษตรกรไทย เพิ่มเป็น 3 เท่า ภายในปี 2570, จัดหาที่ดินทำกิน พิสูจน์สิทธิ์ด้วยเทคโนโลยี แก้กฎหมาย และระเบียบการต่างๆ ให้เป็นธรรมถูกต้อง, สาธารณะสุขไทยยกระดับ 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทั่วไทย จองคิวได้เร็ว, ดิจิทัลวอเล็ต ตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป ทุกคนจะได้รับกระเป๋าตังค์ดิจิทัล และเติมเงินให้คนละ 10,000 บาท ให้ใช้ภายใน 6 เดือน ในรัศมี 4 กิโลเมตร



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สีข้างถลอก! ภูมิธรรมบอกไม่ได้ยกเลิกแจกเงินหมื่นแค่เลื่อนออกไป
'ภูมิธรรม' อ้างไม่ได้ยกเลิกแจกเงินหมื่น แค่เลื่อนไปก่อน ระบุ ศก.ดีขึ้น ค่อยมาดูจะทำอย่างไร ชี้เลือกตั้งยังอีกยาว
'สมชาย' หวั่นกู้เงินโดยการออก ‘G-Token' เดินตามรอยเวเนซูเอลา ปลุกผู้รักชาติลุกขึ้นสู้
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า รัฐบาลไทยกำลังเดินตามรอยเวเนซูเอลา?
'ภูมิธรรม' ยันรัฐบาลแพทองธาร เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้านโยบายรัฐบาล
งอมแงม! 'นอร์ทกรุงเทพโพล' เผยผลสำรวจปชช.เอาด้วยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจแม้ว แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นอร์ทกรุงเทพโพล” มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจ
ใช้บังคับแล้ว พ.ร.บ.งบฯรายจ่ายเพิ่มเติมวงเงิน 122,000,000,000 บาท รองรับดิจิทัลวอลเล็ต
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
'ทักษิณ' ยังไม่เปลี่ยน! 17 ปีผ่านไป ขี้โม้เหมือนเดิม
นายเทพ เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 17 ปี ผ่านไป “ทักษิณ” ยังขี้โม้เหมือนเดิม

