
กกต.แจงยิบเลือกตั้งล่าวงหน้าปัญหาเพียบ ยันภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกปัญหาแก้ไขได้ ชี้ปมเขียนรหัสเขตผิด แก้ไข ตรวจสอบได้จากติ้วเล็ก รับรองส่งถึงเขตของผู้มีสิทธิ เผยกรณีอ้างรายชื่อพรรคหาย เกิดที่ชลบุรี เหตุไอโม่งฉีกหาย 3 แผ่น แจ้งความแล้ว พร้อมขุดข้อมูลคนขนลงคะแนน อุบตอบรายละเอียด
7 พ.ค.2566-เวลา18.00 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงสรุปภาพรวมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าว่า หลังปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไป 1 ชั่วโมงแล้ว อยู่ระหว่างการคำนวณว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนเท่าไหร่ แต่คาดการณ์ด้วยสายตา คาดว่าไม่น่าจะน้อยกว่า 70% สถานการณ์ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ใช้เวลาเฉลี่ย 3-5 นาที ต่อคน ส่วนปัญหาอุปสรรคมีอยู่ 3 อย่าง 1. อากาศร้อน 2. บางแห่งสถานที่คับแคบเมื่อเทียบสัดส่วนผู้มาลงคะแนน ทำให้รอคิว และแออัดบ้างบางจุด และ 3. สภาพการจราจร
ส่วนปัญหาในการอำนวยความสะดวกกับประชาชน และการลงคะแนน อย่างแรกคือการจ่าหน้าซองผิดเขต แต่อยากให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสบายใจว่าบัตรถึงเขตที่ท่านมีชื่อในทะเบียนอย่างถูกต้อง เพราะมีระบบการตรวจสอบ โดยในการจ่าหน้าซอง จะมีประธานเขต จังหวัดเขตเลือกตั้ง และรหัสเขต สิ่งที่เราใช้ตรวจสอบคือรหัสเขตเลือกตั้ง ที่ประชาชนเคยบอกว่าทำไมเราไม่เอารหัสไปรษณีย์ เพราะเราจะตรวจสอบอีกครั้งว่า ถ้าหากกรอกเขตผิดพลาด เราก็จะรู้จากรหัสเขตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ใช่รหัสไปรษณีย์ตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้ยังตรวจสอบจากกระดาษจดลำดับที่ ตอนที่เข้าไปที่หน่วยเลือกตั้ง หรือเรียกว่าติ้วเล็ก ซึ่งจะบอกเขตเลือกตั้ง จังหวัด รหัสเขตเลือกตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเป็นคนจดและมอบให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเข้าคิวออกเสียงลงคะแนน อย่างไรก็ตาม การที่กปน.จ่ายบัตรที่ระบุเขตคาดเคลื่อน อาจจะเกิดจากชุดที่ใช้ลงคะแนน อย่างเช่นเมื่อเช้า ชุดที่ 4 อาจจะสำคัญผิดว่าเป็นเขตที่ 4 แต่ตัวรหัสกรอกถูกต้อง เพราะกรอกตามติ้วเล็ก ซึ่งจะเก็บไว้ทุกแผ่น จึงสามารถตรวจสอบได้ทุกซองที่จะส่งไปที่เขตเลือกตั้ง จึงอยากให้สบายใจ ว่าเราออกแบบมาเพื่อใช้เวลามีปัญหาจากการทำงานของคน แต่ระบบสามารถแก้ไขตรงนี้ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งเป็นหน้าที่ของกกต.ที่ต้องทำอยู่แล้ว สำหรับกรณีหน่วยเลือกตั้งที่จังหวัดนนทบุรีที่เคยให้ข่าวว่ามีการลงรหัสเขตเลือกตั้งผิดกว่า 100 รายนั้น ตรวจสอบล่าสุดแล้วพบว่ามี 48 ราย
“อยากให้สบายใจว่าไม่ว่าจะจ่ายหน้าซองผิดอย่างไร ก็มีระบบตรวจสอบที่สามารถนำซองที่มีทั้งบัตรแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อที่ส่งไปที่เขตอย่างถูกต้อง” นายแสวง กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าไม่มีการลงรายละเอียดหน้าซองเลยนั้น ก็จะส่งไปที่เขตไม่ได้ แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานว่าพบปัญหานี้ แต่ก็จะมีการตรวจสอบ”
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า อย่างที่ 2 เรื่องความผิดพลาดเรื่องเอกสารว่า มีชื่อพรรคบ้าง ไม่มีบ้าง จริงบ้าง เท็จบ้าง ซึ่งเราได้รับรายงานตั้งแต่เช้า จากผอ.จังหวัดก่อนจะเป็นข่าว และมีการแก้ไขแล้ว บางเรื่องเกิดจากคนไปฉีก ในข่าวบอกว่าเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่มีจังหวัดสุรินทร์ เพราะสุรินทร์ไม่มีโรงเรียนตามที่เป็นข่าว แต่ที่จริงเป็นเหตุที่เกิดที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งรายงานมาตั้งแต่เช้า จากคนไปฉีก หายไป 3 แผ่น และเป็นข่าวแล้ว แต่ก็มีการแก้ไข เช่นเดียวกับในจังหวัดอื่นก็มีการแก้ไข และไม่มีปัญหาอีก และมีการแจ้งความแล้ว
สำหรับบัตรเลือกตั้งที่เหลือ เราจะมีการเจาะ และมีการบอกจำนวน โดยกปน.จะประกาศติดที่หน้าหน่วย มีทั้งหมด 3 สำเนา ส่วนการดำเนินการหลังปิดหีบ 17.00 น. ไปรษณีย์ จะมีรถทั้งหมด 475 คัน ไปรับบัตรที่อยู่ในซองลงคะแนนวันนี้ ไปยังที่ลงคะแนนที่เลือกตั้งกลาง 475 แห่ง จากนั้น กปน.จะนับจำนวนบัตร แล้วใส่ถุงใส ส่งให้ไปรษณีย์ ตรวจนับว่าจำนวนตรงกันหรือไม่ รัดถุงใส่อีกชั้น ใส่สายรัด เซ็นลงนามรับมอบบัตร จากนั้นจะนำบัตรมาส่งที่ศูนย์ไปรษณีย์ 15 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแล และมีจีพีเอสติดตาม เพื่อนำบัตรเข้ามาที่ศูนย์ใหญ่ที่หลัก 4 เพื่อคัดแยก ส่งเก็บที่ที่ปลอดภัยในเขตเลือกตั้งทุกเขต ในวันที่ 11 พร้อมบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
ส่วนสถานการณ์อื่นที่เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พบว่ามีการถ่ายบัตรประชาชนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีการแจ้งความแล้ว ส่วนกรณีขนคนไปลงคะแนน ได้รับรายงานจากรองเลขาธิการกกต. ที่ลงในพื้นที่ มีชุดเคลื่อนที่เร็ว ผู้ตรวจจุดจากส่วนกลางไปหลายจังหวัดเป้าหมาย ซึ่งมีการรายงานกลับมาแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงยังไม่สามารถพูดในที่นี้ได้ แต่ ทุกความเคลื่อนไหวเราสามารถดูแลได้ ตั้งแต่ช่วงเช้า ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดที่มีคนไปลงคะแนนเยอะขนคงไปลงคะแนน หรือมีพฤติการณ์ในการลงคะแนนอย่างไรมีรายงานเบื้องต้นมาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังปิดหีบ เจ้าหน้าที่สามารถเทบัตรออกมาทำการแก้ไขข้อมูลการจ่ายหน้าซองให้ถูกต้องได้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะต้องมีกระบวนการนับเพื่อส่งไปรษณีย์ หากไม่มีการลงข้อมูลให้ถูกต้อง ไปรษณีย์ก็จะไม่สามารถส่งไปยังเขตของผู้ใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ไปสังเกตการณ์สามารถถ่ายวิดีโอได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อภิสิทธิ์' ลั่น ปชป.พร้อมคัดสรรบุคคลลงเลือกตั้ง
'อภิสิทธิ์' เผย 'ปชป.' พร้อมคัดสรรบุคคลลงเลือกตั้ง สั่ง 'รองหัวหน้าพรรค' เตรียมการ หลัง 'กกต.' ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่ จนนครศรีธรรมราชหาย 1 เขต
สส.บริจาคภัยพิบัติเต็มที่ ท้องถิ่นระวังช่วง180วัน!
กกต.ไฟเขียวบริจาคช่วยภัยพิบัติ สส.-สมาชิกพรรค ทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท
กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด
กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก
กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้
กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


