24 ธ.ค.2568 – เพจประชาคมแพทย์ได้โพสต์ในลักษณะบทความเรื่อง “ประชาธิปัตย์ขีดเส้นแดง และ เผาสะพานจริง เมื่อคำว่า “ไทยไม่เทา” ไม่ใช่แค่คำพูด แบบพรรคประชาชน แต่คือการเผาสะพานทางการเมือง แบบประชาธิปัตย์” ระบุว่า การออกมาประกาศของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ “ไม่สามารถอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกับ พรรคกล้าธรรม ได้” ไม่ใช่เพียงถ้อยคำหนึ่งในเวทีดีเบต แต่คือ การตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ ที่สั่นทั้งกระดานการเมือง เพราะนี่ไม่ใช่การโจมตีเชิงวาทกรรม แต่คือการขีดเส้นแดงทางจริยธรรมอย่างเป็นรูปธรรม
1.ยุทธศาสตร์ของประชาธิปัตย์เลือกศีลธรรมเหนืออำนาจในโลกการเมือง การประกาศว่า “ไม่ร่วมกับใคร” เท่ากับยอมเสียอำนาจต่อรองโดยสมัครใจ แต่ประชาธิปัตย์เลือกทำ เพราะต้องการสื่อสารให้ชัดว่า รัฐบาลต้องมีความชอบธรรม ไม่ใช่แค่เสียงข้างมาก มีบางเส้นที่ “ข้ามไม่ได้” แม้จะแลกกับตำแหน่ง พรรคต้องกลับสู่ DNA เดิม พรรคกฎหมาย พรรคมาตรฐาน พรรคสถาบัน นี่คือการรีแบรนด์ที่เสี่ยง แต่ชัด (ในประเด็นเรื่องการเผาสะพาน พรรคประชาชนกลับเลือกเผาสะพานกับ พรรคน้ำเงิน โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ซึ่งเป็นความงุนงง สำหรับ การเมือง ในยุคปัจจุบันอย่างยิ่ง ที่ปิดประตูของตนเองเร็วเกินไป)
2.ผลต่อประชาธิปัตย์ได้ศักดิ์ศรี แต่เสียความยืดหยุ่น ผลดี ได้จุดยืนที่ชัดที่สุดในรอบหลายปี สร้างทุนความน่าเชื่อถือระยะยาว หากเป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีเหตุผลรองรับ
ผลเสีย ปิดทางต่อรองหลังเลือกตั้ง เสี่ยงถูกกันออกจากรัฐบาล ฐานเสียงที่อยากเห็น “พรรคได้อำนาจจริง” อาจผิดหวัง ซึ่ง พรรคที่เริ่มต้นใหม่จากตัวเลขใกล้เคียงศูนย์ ถ้าเราอยู่ในใจของอภิสิทธิ์ คิดว่า คงไม่มีอะไรจะเสีย และนี่คือจุดยืนของพรรคที่ ตั้งใจที่จะเริ่มต้นใหม่จริงๆ ทั้งหมดนี้คือต้นทุนที่ยอมจ่ายเพื่อความชัด
3.พรรคกล้าธรรม เมื่อยุทธศาสตร์ “เงียบ” ถูกบังคับให้แตก ต้องยอมรับอย่างเป็นธรรมว่า ที่ผ่านมา พรรคกล้าธรรม วางเกมมารอบคอบและไม่สะดุดตา อย่างยิ่ง
3.1 ยุทธศาสตร์เดิม Low Profile คือคำตอบที่ดีที่สุด ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้นำทางจิตวิญญาณ หรือ “เจ้าของพรรคตัวจริง” แทบไม่ปรากฏตัว แม้แต่เวทีดีเบตสำคัญ ก็ไม่เห็นหน้า ไม่ปะทะ ไม่โต้ ไม่สร้างข่าว เหตุผลก็ตรงไปตรงมา เพราะในสมมติฐานเดิม ไม่จำเป็นต้องเด่น ก็มีตัวอยู่แล้ว
3.2 ตัวเลขในฝัน พรรคจิ๊กซอว์ที่ “ควรได้แน่” ก่อนเกิดเหตุนี้ โครงสร้างกำลังของกล้าธรรมถูกประเมินว่า “นิ่ง”
ฐานเดิมของพรรค : ประมาณ 20 เสียง ส.ส.เก่าจาก พรรคพลังประชารัฐ ไหลมารวม : ราว 25 เสียง
เป้าหมายที่คิดไว้ : ประมาณ 45 เสียง นักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นตรงกันว่า หาก ไม่เกิดกระแสเปลี่ยนแปลง
ตัวเลขนี้แทบไม่คลาดเคลื่อน นั่นทำให้กล้าธรรมวางตัวเป็น “พรรคจิ๊กซอว์” ใครตั้งรัฐบาล ก็ต้องมองหา และในเกมแบบนี้การเงียบ คือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
3.3 แต่เกมเปลี่ยน จาก “ของตาย” → “ของเสี่ยง” การออกมาพูดของประชาธิปัตย์ ทำลายสมมติฐานเดิมของกล้าธรรมทั้งหมด ทันทีที่มีพรรคหนึ่งประกาศว่า “ไม่สามารถอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกับกล้าธรรมได้” สถานะของกล้าธรรมเปลี่ยนทันทีจากพรรคจิ๊กซอว์เป็นพรรคที่มี ต้นทุนทางความชอบธรรม และต้นทุนแบบนี้ไม่มีสูตรคำนวณล่วงหน้า
3.4 ทางตันใหม่ จะเงียบต่อ หรือจะออกมาพูด? กล้าธรรมถูกบังคับให้เลือกระหว่างสองทางที่เจ็บทั้งคู่ เงียบต่อ ไม่ขยายแผลเดิม แต่ Narrative ถูกกำหนดโดยฝ่ายอื่นทั้งหมดออกมาพูดได้อธิบาย แต่ยิ่งพูด ยิ่งตอกย้ำเรื่องเดิม ยิ่งชี้แจง ยิ่งขุดอดีต การติดคุก ของผู้นำ ในออสเตรเลีย ด้วยข้อหาครอบครอง "แป้ง" ที่ใครก็รู้ว่าคืออะไร มันเป็น Fact และเวลานี้กลายเป็นสัญลักษณ์ ติดตัวผู้นำไปแล้ว พูดง่าย ๆ คือ อุตส่าห์ทำตัวเงียบ ๆ อยู่ดี ๆ กลับถูกบังคับให้เป็นประเด็น
3.5 ความเสียหายเชิงโครงสร้างผลเสียของกล้าธรรม ไม่ใช่แค่เรื่องภาพลักษณ์ แต่คือ ตัวเลข 45 เสียง ที่เคยดูนิ่ง ต้องใส่ Risk Premium ตอนนี้ กล้าธรรม อาจจะไหลรูดลงไป ต่ำกว่า 40 เนื่องจากความไม่แน่นอน ของกระแส มีโอกาสมาบ่อนเซาะ คะแนนเสียงคนเมือง และชนชั้นกลาง ได้ พรรคแกนนำก็เริ่มลังเล ไม่ใช่เพราะไม่อยากได้เสียง แต่กลัวต้นทุนทางศีลธรรม เสียคุณค่าในฐานะ “พรรคจิ๊กซอว์ที่ต่อได้ง่าย”
4.พรรคประชาชน จากเจ้าของวาทกรรม → ผู้ตาม Narrative พรรคประชาชน เป็นพรรคที่ “พูดเรื่องไทยไม่เทาก่อน” แต่ปัญหาคือ ไทยไม่เทา เป็นประโยคที่ใครก็พูดได้ เมื่อประชาธิปัตย์ “ลงมือกำหนดเส้นแดงจริง” Narrative นี้ จึงถูกแย่งไปทันที
4.1 ปัญหาใหญ่ ไม่มีรูปธรรม พรรคประชาชนพูดเรื่องคุณธรรมในระดับหลักการ แต่ไม่เคยแปลงเป็นการตัดสินใจเชิงโครงสร้าง ไม่เผาสะพาน ไม่กำหนดเส้นแดง เปิดทางเลือกไว้เสมอ ในภาษาการเมือง นี่แปลว่า ยังเผื่อ Plan B คือ...ส้มแดงแป้ง... นี่คืออะไร นี่คือ แนวทางการเป็นแกนนำรัฐบาล โดยรวมเสียงเป็นรัฐบาลส้มแดงแป้ง ทำให้คนมองว่า เป็นไปได้จริงๆ ว่าเป็นแผน ที่อยู่ในใจ และแผนนี้ อาจเตรียมตัวผลักดัน ให้ ผู้นำตัวจริง ลอยตัวเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ โดยไม่ต้องร่วม ครม .เทียบเคียงกับทักษิณเป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทย หรือธนาธร เป็นผู้นำพรรคประชาชน ที่ทุกคนก็รู้กัน (พรรคส้ม + พรรคแดงรวมกัน เป็นตัวเลขค่อนข้างแน่นอนคือ 200 ถึง 220) เมื่อได้แป้งมาเติมอีกประมาณ 45 และอาจมีพรรคเล็กอีก 10 เสียง ก็จะช่วงชิงการนำได้ทันที ถ้าแป้งรูดลงเรื่อยๆ Plan B จะ มีโอกาสล้มเหลว มากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นคือปัญหาหลัก ของพรรคส้มโดยแท้จริง
4.2 กับดักเวทีดีเบต หลังจากนี้ ในทุกเวทีดีเบตทุกคำถามเรื่อง “จะร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีปัญหาคดีหรือไม่” มีแต่ทางเสีย ตอบว่าไม่เอา → ช้ากว่าประชาธิปัตย์ ตอบอ้ำอึ้ง → ชัดว่าเผื่อ Plan B เลี่ยงตอบ → คนฟังสรุปแทนว่า ร่วมได้ถ้าจำเป็น
4.3 โจทย์ที่ยังแก้ไม่ได้ พรรคประชาชนอยากเป็นทั้งพรรคอุดมการณ์ พรรคแกนนำรัฐบาล พรรคที่ไม่เผาสะพานกับใคร (แต่ก็เผาไปแล้ว กับน้ำเงิน) แต่การเมืองจริงประชาชนจะเชื่อฝ่ายที่ ยอมเสียอะไรบางอย่าง เพื่อรักษาหลักมากกว่าฝ่ายที่พูดถูกทุกข้อ แต่ไม่ยอมตัดสินใจ
5.พรรคแกนนำรัฐบาล เกมยากขึ้นทั้งกระดาน รวมทั้ง พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคใหญ่ที่แข่งกันเป็นแกนนำ หรือแข่งกันเป็นจิ๊กซอว์จะถูกบีบให้ตอบคำถามเดียวกัน จะเลือก “ตัวเลข” หรือจะเลือก “ความชอบธรรม” เพราะเมื่อมีพรรคหนึ่งพูดชัด และทำชัด พรรคอื่นจะอ้างความคลุมเครือได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ
บทสรุป ประชาธิปัตย์เลือกศีลธรรมเหนืออำนาจ พรรคประชาชนพูดเรื่องไทยไม่เทาก่อน แต่ ไม่กล้าขีดเส้น ทางศีลธรรมกับผู้นำพรรคที่มีคดี พรรคกล้าธรรมวางเกมเงียบมาอย่างดี แต่เกมถูกบังคับให้แตกจากพรรคที่คิดว่า “ไม่ต้องพูดก็มีค่า” กลายเป็นพรรคที่พูดก็เจ็บ ไม่พูดก็เสีย
บทสรุปสำหรับพรรคสีฟ้า ประชาธิปัตย์ ที่เราได้เรียนรู้ ยุทธศาสตร์นี้ การเมืองไม่ได้ตัดสินกันที่คำพูด แต่ตัดสินกันที่สิ่งที่คุณยอมเสีย เพื่อยืนยันว่าคำพูดนั้นจริง คุณอาจจะยอมสูญเสีย Quick Big Win จนจำนวน สส.ไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะไม่ได้ใช้กระสุน นายทุน ที่ต้องการ ชักนำพรรค อาจถอย เพราะคิดว่าลงทุน กับพรรคแล้วเสี่ยงคุณไม่สนใจเสียงเยาะเย้ยถากถางของ กองเชียร์ ที่ยังมีแนวทาง แซะแบบเก่าๆ แต่คุณได้ Long Term Win ของการได้เป็นผู้นำในการสร้าง อุดมการณ์บางอย่างที่ถูกต้องให้ประเทศแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ยกนิ้วให้ 'อภิสิทธิ์' กล้าประกาศไม่เอากล้าธรรม!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก
'ชูวิทย์' งง 'พรรคส้ม' ย้อนแย้ง กับความฝันเรื่องการเมืองใหม่ แต่กลับไปได้ของเก่ากว่าเดิม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความย้อนแย้งของการเมืองใหม่
'อภิสิทธิ์' ประกาศจุดยืนชัด ปชป. ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ผมตัดสินใจได้แล้ว หนึ่งเรื่องนะครับว่า ด้วยประวัติของผู้นำแคนดิเดตนายกฯ ที่มีประวัติในเรื่องของคดีที่ร้ายแรง
‘กล้าธรรม’ คึกคัก เปิดเวที Primary Vote เคาะทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ครบ 8 เขต
พรรคกล้าธรรมจัดประชุม Primary Vote จังหวัดสมุทรปราการ สมาชิกพรรคลงมติเห็นชอบว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 8 เขต เตรียมลุยศึกเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569
อดีตพรรคส้มโวย ถูกถอดชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส. รับไม่ได้ลาออกทันที
อดีตสมาชิกพรรคประชาชน จ.กระบี่ เปิดใจ หลังถูกถอดชื่อออกจากบัญชีว่าที่ผู้สมัคร สส. ทั้งที่ประกาศชื่อผ่านสื่อแล้ว ชี้คำอ้างผิดพลาดฟังไม่ขึ้น ลาออกพรรค พร้อมเตรียมซบพรร
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน

