‘เท้ง’ ตั้งเป้าคว้าเสียงข้างมากตั้งรัฐบาล ป้องกันถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ณัฐพงษ์” มั่นใจบัญชีรายชื่อพรรคประชาชนมีเซอร์ไพรส์ทุกอันดับ ตั้งเป้าคว้าเสียงข้างมากตั้งรัฐบาลไม่ถูกฉีกสัญญาอีก ย้ำไม่เอาโควต้าย้ายพรรค ปัดกดดัน 14 ล้านเสียง ลั่นไม่โหวต “อนุทิน”หากยังบิดเบือน ม.112 ชี้จุดยืนชัด ไม่ใช่นโยบายหาเสียงแต่สภาตัดสินตามเสียงประชาชน

28 ธ.ค. 2568 – ที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เดินทางเข้ารับสมัครสส.ต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีความมั่นใจมากผู้สมัครสส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาจากหลายแวดวง ยืนยันว่าทุกอันดับทุกรายชื่อมีเซอร์ไพรส์แน่นอน ซึ่งที่มาของผู้สมัครพรรคประชาชนไม่ได้มาจากโควต้าที่ไหน เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองอื่น บางพรรคได้โควต้าจากการย้ายพรรคมาอยู่ร่วมกัน โดยเราตั้งเป้าว่าจะได้สส.มากที่สุดเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ทำให้เราไม่ถูกฉีกสัญญาอีกต่อไป 

ส่วนความกดดันหลังจากที่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วได้คะแนนกว่า 14 ล้านเสียง แต่ไม่ได้เป็นพรรครัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ได้มีความกดดันตัวเองเลย เพราะตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล และประชาชน เราถูกหลายคนวิเคราะห์ว่าจะได้คะแนนประมาณนั้นประมาณนี้ และเราก็ทำได้มากกว่าเป้าหมายมาโดยเสมอ เราจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างมากกว่าเราจะได้คะแนนเสียงมากขึ้นอย่างแน่นอน เราไม่เคยดูถูกคะแนนเสียงของประชาชน ไม่มีพคการเมืองใดที่จะเป็นเจ้าของตลอดไป ดังนั้นถึงแม้ตนจะมีความมั่นใจขนาดไหน แต่เราก็ต้องพื้นที่พบประชาชนให้ได้มากที่สุดเพื่อขอคะแนนเสียง

เมื่อถามว่าจะมีโอกาสหรือไม่ที่พรรคประชาชนจะจับมือกับพรรคภูมิใตไทยในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนหรือไม่ ต้องอย่าลืมว่าที่ผ่านมานายอนุทิน เป็นผู้ตั้งเงื่อนไขโดยบิดเบือนคำพูดที่ตนได้พูดไว้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุว่าห้ามใช้เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง นายอนุทิน หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรใช้เรื่องนี้ในการหาเสียงอีกต่อไป เท่านี้เรายืนยันว่าจะไม่มีสส.พรรคประชาชนคนไหน ที่ยกมือโหวตให้นายอนุทิน หรือทุกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยอีกต่อไป 

เมื่อถามเพิ่มเติมว่า แม้วันนี้พรรคประชาชนจะไม่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 ถ้าได้เข้าสภาก็จะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พูดให้ชัดเจนว่าไม่เป็นนโยบายในการหาเสียง เพราะฉะนั้นจะไม่เป็นนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงไว้ต่อรัฐสภาแน่นอน เมื่อถามต่อว่าในอนาคตพรรคประชาชนจะดำเนินการแก้ไขมาตรา 112 ในนามส่วนตัวหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเสียงสนับสนุนว่าเราจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เชื่อว่าประชาชนคนที่โหวตให้กับพรรคประชาชนรู้ดีว่าจุดยืนของพรรคประชาชนคืออะไร เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับสภาชุดหน้าว่าจะดำเนินการต่อไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน ส่วนการนิรโทษกรรมผู้ต้องขังคดีทางด้านการเมืองควรจะถูกนิรโทษกรรมทุกกลุ่มเพื่อหาทางออกให้กับสังคม ถ้ามีบางกลุ่มได้รับการนิรโทษ แต่กลุ่มอื่นไม่ได้รับก็จะไม่เกิดความเป็นธรรมสังคมก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้

สำหรับการรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคการเมืองทุกพรรคควรจะต้องรณรงค์ได้ว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ จริงๆกฎหมายประชามติได้ระบุไว้ว่าการรณรงค์สามารถทำได้อยู่แล้วเพียงแต่ว่ามีความกังวลในเรื่องการแสดงความคิดเห็นออกมาจากกกต. ซึ่งอยากให้กกตออกมาให้ผลชัดเจน

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าคดี 44 สส. จะทำให้พรรคประชาชนไม่ได้เป็นรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราได้บริหารความเสี่ยงไว้หมดแล้ว นอกจากคดี 44 สส. ก็ยังมีคดีอื่นๆ ที่ถูกกระบวนการนิติสงคราม ซึ่งเราได้ย้ายบางคนลงมาสมัครสส.เปิดบัญชีรายชื่อแล้ว เพราะฉะนั้นมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆบัญชีรายชื่อสามารถลาออกเพื่อตามลำดับถัดไปขึ้นมาได้ อยากให้ความมั่นใจต่อประชาชนว่าไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องนี้ ถ้าเราได้คะแนนเสียงมากที่สุดอย่างไรก็สามารถเป็นพรรครัฐบาลได้แน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล

กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี